ไขปมไฉน! ‘เฉลิม’ เรียกคุยขอหัวคิว 2% ฟังไม่ขึ้น คดีสินบน รพช.
พลิกสำนวนคดีสินบนซื้อขายตำแหน่ง รพช. ไขปม! ข้อกล่าวหาซี 9 กรณี ‘ป๋าเฉลิม’ เรียก ผอ.ศูนย์ฯ ขอนแก่น ส่งส่วย 2% ของบฯ ก่อสร้าง 8 จังหวัด ป.ป.ช.ตีตก ระบุคุยลำพัง 2 คน ไม่มีพยานรู้เห็น
คดีการซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท (รพช.) สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานไปแล้วว่า ในชั้นการสอบสวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดผู้กระทำความผิดคือ นายทวี ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ (ระดับ 9) เพียงรายเดียว และในกรณีเดียวคือ เรียกรับเงินสดจำนวน 3 ล้านบาทจากนายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ รพช.ขอนแก่น ที่นำเงินใส่กล่องกระดาษไปมอบให้ที่ห้องทำงานของนายทวี ที่สำนักงาน รพช. เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2540 (ต่อมาศาลอาญาพิพากษาจำคุกนายทวี 6 ปี)
ขณะที่ กรณีข้อกล่าวหา ได้แก่ เรียกรับเงินจากนายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์ ผู้กล่าวหา ในครั้งอื่นๆ และ กรณีเรียกรับเงินจากข้าราชการ รพช.คนอื่นกว่า 19 คน ที่มีการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของนายประวิทย์ อริยกานนท์ เจ้าของร้านขายเครื่องจักรกล รวมกว่า 46 ล้านบาท (อ่านประกอบ : เปิดหมด!รายชื่อ 20 ขรก.-เมีย โอนเงิน 46 ล.คดีซื้อเก้าอี้ รพช. ในสำนวน ป.ป.ช.) นั้น ป.ป.ช. เห็นว่า ‘ไม่มีมูล’ (อ่านประกอบ : พลิกสำนวน ป.ป.ช.!ไขปม ‘ไม่ฟัน’ ซี 9 กรณีโอนเงินผ่านแบงก์ 46 ล. ‘เอาผิดยาก’)
กรณีของ นายทวี ทวีวงศ์ ผู้ถูกล่าวหาที่ 1 คณะอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช. ได้ตั้งประเด็นวินิจฉัยไว้ 5 ประเด็น
ในประเด็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 (นายทวี) เรียกเงินจากผู้กล่าวหาเพื่อให้ผู้กล่าวหาดำรงตำแหน่งประจำที่ศูนย์ ปฏิบัติการ รพช.ขอนแก่น ต่อไป ไม่ต้องย้ายไปประจำในท้องที่จังหวัดอื่น หรือไม่
รายงานผลการสอบสวนของ ป.ป.ช. ระบุวินิจฉัยไว้ ดังนี้
จากการไต่สวนถ้อยคำผู้ถูกกล่าวหา เพื่อให้ทราบพฤติการณ์การเรียกรับเงินของผู้ถูกกล่าวหาที่ และการกระทำในตำแหน่งหน้าที่เพื่อตอนแทนการเรียกและรับเงินจากผู้กล่าวหานั้น มีเพียงพฤติการณ์ตามคำกล่าวหาที่ระบุว่า เมื่อประมาณเดือนมกราคม 2538 ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ รพช.จังหวัดขอนแก่น นายเฉลิม พรหมเลิศ เลขาธิการ รพช. ได้เดินทางไปราชการที่จังหวัดอุบลราชธานี และได้เรียกผู้กล่าวหาไปพบตามลำพัง และได้กล่าวว่า รพช.แต่ละจังหวัดมีงบประมาณสูง ต้องมีผลประโยชน์จากการประมูลงานก่อสร้าง ต้องดูแลส่วนกลางอย่างน้อย 2% ของงบประมาณที่ได้รับจากทางการ รายละเอียดให้ไปพูดคุยกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 (นายทวี) และให้ผู้กล่าวหาไปบอก รพช.จังหวัดทั้ง 8 จังหวัดให้ปฏิบัติเหมือนกัน
ผู้กล่าวหาให้การว่า จากคำพูดดังกล่าวผู้กล่าวหาเข้าใจว่า ต้องหาเงินส่งให้แก่ นายเฉลิม พรหมเลิศ โดยส่งผ่านผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 (นายทวี) ต่อมา ผู้กล่าวหาได้พบกับผู้ถูกกล่าวที่ 1 (นายทวี) และผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 (นายทวี) ถามผู้กล่าวหาว่า ได้ปฏิบัติตามนโยบายส่งผลประโยชน์ 2% ตามที่นายเฉลิม พรหมเลิศ แจ้งให้ทราบหรือยัง และบอกว่าถ้าไม่สะดวกในการส่งเงินสดก็ให้ส่งเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 (นายประวิทย์) ผู้กล่าวหาอ้างว่า ได้จ่ายเงินให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2538 ถึงเดือนตุลาคม 2539 รวม 6 ครั้ง เป็นเงิน 20,000,000 บาท
ต่อมาขณะที่ ผู้กล่าวหาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ รพช.ขอนแก่น ระดับ 9 ทราบว่า ตนเองถูกคำสั่งย้ายไปประจำท้องที่จังหวัดอื่น แต่ยังไม่มีการเวียนคำสั่งให้ทราบ เมื่อผู้กล่าวหาได้พบกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 (นายทวี) ที่จังหวัดขอนแก่น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 (นายทวี) บอกกับผู้กล่าวหาว่า เงินยังขาดอยู่ ยังไม่ครบ 2-3% ผู้กล่าวหาจึงได้นำเงินไปจ่ายให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 (นายทวี) อีกเป็นครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2540 จำนวน 3,000,000 บาท
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ผู้กล่าวหาได้พบกับ นายเฉลิม พรหมเลิศ ที่จังหวัดอุบลราชธานี และมีการพูดคุยเรียกให้ส่งเงินผลประโยชน์จากการประมูลงานก่อสร้างอย่างน้อย 2% ของงบประมาณในครั้งนั้นแล้ว ผู้กล่าวหาได้พบกับ นายเฉลิม พรหมเลิศ อีกหลายครั้ง แต่ไม่มีการพูดถึงเรื่องเงินดังกล่าวอีก การจ่ายเงินหรือโอนเงินของผู้กล่าวหาแต่ละครั้งนั้น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 (นายทวี) ก็ไม่ได้เป็นผู้กำหนดหรือมีบุคคลใดเป็นผู้กำหนดเวลาและจำนวนเงินที่ต้องจ่าย
จากพฤติการณ์ดังกล่าว ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 (นายทวี) ได้เรียกเงินจากผู้กล่าวหาเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง หรือผู้กล่าวหาได้เสนอให้เงินแก่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 (นายทวี) เพื่อให้ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 (นายทวี) และหรือนายเฉลิม พรหมเลิศ กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ในตำแหน่งเป็นการตอบแทนและไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีการชักจูงใจ หรือขู่เข็ญข่มขู่ผู้กล่าวหาว่าหากผู้กล่าวหาไม่ยอมจ่ายเงินให้จะต้องถูกย้ายไปดำรงตำแหน่งในท้องที่จังหวัดอื่น อันทำให้ผู้กล่าวหาเสนอจะให้เงินหรือยอมให้เงินแก่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 (นายทวี) แต่อย่างใด
อีกทั้ง ภายหลังจากที่ผู้กล่าวหาอ้างว่ามีการจ่ายเงินหรือโอนเงินให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 (นายทวี) นั้น ก็ไม่ปรากฎว่า ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 (นายทวี) และหรือ นายเฉลิม พรหมเลิศ ได้กระทำการอย่างใด หรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งเป็นการตอบแทน และเมื่อพิจารณาถึงวันเวลาเกิดเหตุตั้งแต่เดือนมกราคม 2538 ที่ผู้กล่าวหาอ้างว่า นายเฉลิม พรหมเลิศ เดินทางไปราชการ และได้กล่าวกับผู้กล่าวหาตามลำพังในทำนองเรียกเงินผลประโยชน์จากการประมูลงานก่อสร้างนั้น นับถึงปัจจุบันเกินกว่า 10 ปีแล้ว สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท กระทรวงมหาดไทย ขณะนี้ ได้มีการปรับปรุงยุบรวมเป็นกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม ตามพระราชกฤษฎีกาโอนกิจการบริหารและอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2545 การจะตรวจสอบว่านายเฉลิม พรหมเลิศ เดินทางไปราชการที่จังหวัดอุบลราชธานี และมีการประชุมร่วมกับ รพช.จังหวัดต่างๆ ในเขตของศูนย์ รพช.ขอนแก่น จริงหรือไม่ เพื่อสนับสนุนข้ออ้างของผู้กล่าวหา กระทำได้ยาก นอกจากนี้ การสนทนาเรียกเงินระหว่างผู้กล่าวหากับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ไม่มีพยานอื่นรู้เห็น มีเพียงผู้กล่าวหาที่ให้การเป็นพยานเท่านั้น ซึ่งผู้ถูกกล่าวได้ให้การปฏิเสธ
พยานหลักฐานจึงยังฟังไม่ได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 (นายทวี) ได้กระทำการเรียกเงินจากผู้กล่าวหาเพื่อช่วยเหลือผู้กล่าวหาให้ได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเร่งรัดพัฒนาชนบทประจำที่จังหวัดขอนแก่นต่อไป ไม่ต้องย้ายไปดำรงตำแหน่งในท้องที่จังหวัดอื่น
อ่านประกอบ :
เปิดหมด!รายชื่อ 20 ขรก.-เมีย โอนเงิน 46 ล.คดีซื้อเก้าอี้ รพช. ในสำนวน ป.ป.ช.
เปิดหลักฐานใหม่ ! ไม่พบชื่อ‘เมีย’ซี 9 ถือหุ้นรับเหมา ช่วง‘เปิดบัญชี-รับเช็ค 5 ใบ’
เช็ค5 ใบโผล่ คดีซื้อrxขายเก้าอี้ รพช.! 3 ฉบับ 4.2 ล. โอนเข้าบัญชีลูกสาว ซี 9
โฉมหน้า 5 ใบโอนเงิน 6.5 ล.!อ้าง ส.ส. กาฬสินธุ์ เจ้าของตัวจริง คดีสินบน รพช.r
เปิดใบโอนเงิน‘ซี 9-เมีย’ 11.5 ล.เข้าบัญชี ‘ประวิทย์’คดีสินบน-อ้าง 6.5 ล.ของ ส.ส.
เปิดตัว-คำให้การ ‘เมีย’ ซี 9 โอน 8.5 ล.เข้าบัญชี ‘ประวิทย์’ คดีสินบน รพช.
‘เมีย’อดีต ขรก.ใหญ่ มีเงินสะพัดเข้าบัญชี 30 ล. โยงคดีสินบนซื้อเก้าอี้ รพช.
INFO : เส้นทางการโอนเงินคดีซื้อขายเก้าอี้ รพช.
สเตทเม้นท์บัญชี ‘ประวิทย์’ มีเงินโอนเข้าเกิน 3 แสน 132 ครั้ง จาก 16 จ. 19 สาขา
พบ ‘ประวิทย์’ จ่ายเช็ค 98 ฉบับให้ลูกชาย 4 คนเบิกเงินสด คดีสินบน รพช.
อดีต ส.ส.-บิ๊ก รพช. ใช้บัญชี ‘ประวิทย์’ โอนเงิน ‘ซื้อที่ดิน-ดาวน์รถ-เช่าพระเครื่อง’
เปิดบทสัมภาษณ์ 'ประวิทย์' เจ้าของบัญชีเงินฝากคดี รพช. "ผมไม่ได้รวยพันล้าน"
เปิดคำให้การ อดีต ผอ. รพช. รับเช็ค 2 ล. ‘ช่วยเมียลูกชายเพื่อนทำยอดเงินฝาก’
ขมวด 5 ขรก. โอนเงินเข้าบัญชี 'เจ้าของร้านเครื่องจักรกล' 27.4 ล. คดี รพช.
คำให้การ'เฉลิม-ชัยสิทธิ์'คดีซื้อขายเก้าอี้ รพช.-ปัดเปิด ร.ร.สั่งลูกน้องส่งหัวคิว 2%
ไทม์ไลน์ชัดๆ คดีเรียกรับ 3 ล. บิ๊ก รพช. 13 ปีในมือ ป.ป.ช.-ขาดอายุความ 1 ข้อหา
อดีตซี 9 ฟ้อง ผอ.รพช. อีกคดี!เรียกรับ 3 ล.- นักธุรกิจแจงแค่ยืมบัญชีโอนเงิน
เบื้องหลังจ่าย 3 ล.! คำให้การ ซี 8 “นายให้นโยบายต้องจัดส่งค่าบริหารงาน 1%”
พบอีก 2 ขรก. โผล่โอนเงินเข้าบัญชี'เสี่ย ป.'ใกล้ชิดบิ๊ก รพช. 3 ล. 'ไม่รู้ค่าอะไร'
เปิดใบโอนเงิน 3 ล้าน คดีสินบน รพช.
คำให้การลึก! คดีซื้อขายเก้าอี้ รพช. คนเดียวจ่ายยิบให้ ‘บิ๊ก’ 8 ครั้ง 28 ล้าน
เปิดพฤติการณ์คดีสินบน 3 ล. ซี 9 รพช. เบิกเงินสดจากแบงก์ไปจ่ายถึงห้องทำงาน
ศาลสั่งจำคุก 6 ปี ซี 9 รพช.รับเงินสด 3 ล.ค่าซื้อเก้าอี้ ผอ.ศูนย์ขอนแก่น ไม่ให้ถูกย้าย