แบบยื่นเสียภาษี“ชัชชาติ”ไม่พบรายได้ขายรถ 3 ล้าน-เมียมีเงินได้แค่ 7 แสน
ตรวจสอบแบบยื่นเสียภาษีเงินได้ ปี 55 “ชัชชาติ”รมว.คมนาคม ไม่พบรายได้ขายรถ 3 ล้าน ตามที่แจ้ง ป.ป.ช. ระบุ“เมีย”มีเงินได้แค่ 7 แสน 2 คน 2.6 ล้าน
กรณีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่ากากระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 55 ว่า นางปิยดา สิทธิพันธุ์ พนักงานรัฐวิสาหกิจบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) คู่สมรส มีรายได้จากการขายรถยนต์เมอร์ซิเดสเบนซ์ วงเงิน 3 ล้านบาท
(อ่านประกอบ: “เมียชัชชาติ”ฟันกำไรขายรถ 5 แสน ถอยเบนซ์ป้ายแดง 3.3 ล้าน)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบเอกสารประกอบการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ นายชัชชาติ ช่วงพ้นตำแหน่ง รมช.คมนาคม ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 56 พบว่า นายชัชชาติ ได้นำส่งแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.91 ปีภาษี 2555 ของนางปิยดา สิทธิพันธุ์ ภรรยา ให้ ป.ป.ช. ด้วย
ทั้งนี้นางปิยดา ระบุในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.91 ปีภาษี 2555 ว่า มีรายได้จากเงินเดือน 754,519 บาท แต่หักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว เหลือเงินได้สุทธิ 636,887 บาท
คำนวณภาษีได้สุทธิ 62,377.40 บาท หักภาษี ณ ที่จ่าย 64,503 บาท
คงเหลือภาษีที่ชำระไว้เกิน 2,125.60 บาท แต่ไม่ขอคืนภาษีส่วนนี้
ขณะที่นายชัชชาติ ได้นำส่งแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90 ปีภาษี 2555 ให้ป.ป.ช. ตรวจสอบด้วย โดยระบุว่ามีรายได้จากเงินเดือน ค่าจ้าง บำนาญ เป็นจำนวนเงิน 1,921,530.34 บาท และเมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วและคำนวณภาษีแล้ว
มีจำนวนภาษีที่จะต้องชำระเพิ่มเติมเป็นจำนวน 70,811.93 บาท
ทั้งนี้ หากนับรวมรายได้ของนายชัชชาติ และนางปิยดา ในปี 2555 ตามที่ระบุไว้ในแบบแสดงรายการภาษี อยู่ที่ 2,679,049.34 บาท
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมช.คมนาคม เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2555 นายชัชชาติ แจ้งต่อ ป.ป.ช. ว่า มีรถยนต์อยู่ในความครอบครอง จำนวน 4 คัน เป็นของนายชัชชาติ 2 คัน ของคู่สมรส 2 คัน
ต่อมาในช่วงพ้นตำแหน่ง รมช.คมนาคม และเข้ารับตำแหน่ง รมว.คมนาคม นายชัชชาติ แจ้งว่า มีรถยนต์อยู่ในความครอบครอง จำนวน 4 คันเท่าเดิม
แต่มีการเปลี่ยนแปลงรายการรถยนต์ คันที่ 4 ซึ่งถูกระบุว่าเป็นของภรรยา
จากรถเมอร์ซิเดสเบนซ์ ทะเบียน ฏท 27 กทม. เป็นรถเมอร์ซิเดสเบนซ์ ทะเบียน ฆร 27 กทม.แทน
ทั้งนี้ รถเมอร์ซิเดสเบนซ์คันเดิม นายชัชชาติแจ้งว่าภรรยาได้รับมาเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 53 มูลค่า 2,500,000 บาท
ส่วนรถเมอร์ซิเดสเบนซ์ คันใหม่ นายชัชชาติ ระบุว่าได้รับมาเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 55 มูลค่า 3,300,000 บาท
ขณะที่รถยนต์คันดังกล่าว ระบุว่ามีมูลค่า 2.5 ล้านบาท ทำให้นางปิยาดา มีกำไรวงเงิน 5 แสนบาท ก่อนที่จะออกรถยนต์เมอร์ซิเดสเบนซ์คันใหม่ ในราคา 3.3. ล้านบาท
ต่อมาเวลา 21.oo น. นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ชี้แจงสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า รถยนต์คันที่ภรรยาขายไปในราคา 3 ล้านบาท เป็นรถเก่าใช้งานมาประมาณ 1-2 ปี ซื้อมาราคาเต็ม 4 ล้านบาท แต่ตอนแจ้งบัญชีทรัพย์สินกับ ป.ป.ช. ตนประเมินมูลค่าเอง ก็เลยให้ราคาอยู่ที่ 2.5 ล้านบาท
"เท่าที่สอบถามจากภรรยา คนที่มาซื้อรถต่อไปคือเพื่อนเขา ซื้อไปในราคา 3 ล้านบาท ถ้าเทียบกับราคาตอนแรกที่ซื้อมาถือว่าเราขาดทุนนะ แต่หลังจากที่ขายไปแล้ว ภรรยาผมก็ไปยืมเงินพี่สาวมาเพิ่ม เพื่อนำไปซื้อรถคันใหม่ในราคา 3.3 ล้านบาท เมื่อผมได้เงินจากหุ้นของจุฬาคืนมา ผมก็เอาไปใช้คืน"
ส่วนกรณีที่ไม่ปรากฎรายได้ในแบบเสียภาษีปี 2555 ของภรรยา นั้น นายชัชชาติ ตอบว่า "ตนไม่แน่ใจว่าการซื้อขายรถมันต้องแจ้งหักรายได้ด้วยหรือเปล่า "
"เรื่องบัญชีทรัพย์สินผมไม่มีอะไรปิดบัง มีอะไรผมแจ้งให้ ป.ป.ช. รู้หมด ส่วนเรื่องการตีราคารถเอง ไม่รู้ว่ามันจะมีปัญหาหรือเปล่า ถ้าป.ป.ช. จะว่าอะไรผมก็น้อมรับ เพราะเพิ่งแจ้งบัญชีทรัพย์สินครั้งแรก มันอาจจะมีอะไรผิดพลาดบ้างเราก็ไม่รู้" นายชัชชาติ ระบุ