“ธาริต”โผล่ถือหุ้นบริษัทอสังหาฯ-เสี่ย“อาบอบนวด”หุ้นใหญ่ โยง“ปากช่อง”

พบอดีตอธิบดีดีเอสไอโผล่ถือหุ้นบริษัทอสังหาฯเชื่อมโยงบริษัทถือครองโฉนด ชะง่อนผา ปากช่อง 330 ไร่  เจ้าของ“อาบอบนวด”ดังหุ้นใหญ่

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบชื่อ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถือหุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทดังกล่าวเป็นเจ้าของธุรกิจอาบอบนวดชื่อดังและเกี่ยวพันกับการถูกกล่าวหาว่าถือครองที่ดินกรณี บริเวณชะง่อนผา เขาหนองเชื่อม ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ของศูนย์สงครามพิเศษ ลพบุรี กว่า 330 ไร่

สำนักข่าวอิศรารายงานว่า บริษัทดังกล่าวมีชื่อว่า บริษัท ภูเก็ต-พังงา เบเวอร์ลี่ฮิลล์ จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท พังงา วัลเล่ จำกัด) จดทะเบียนวันที่ 19  พฤศจิกายน 2550  ทุนครั้งแรก 5 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ ให้เช่า การขาย การซื้อและการดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 4 ถนนพระราม 9 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร  มีนายบุญธรรม บุญเทพประธาน นายไวษิษฐ์ บุญเทพประทาน นางชัญญา กาญจนวรดิลก นางภัทรา ศิริกาญจนโกวิท นางสาวลีภัทร   ศิริกาญจนโกวิท รวมกันถือหุ้น

ต่อมาวันที่ 6 ก.พ.51 ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 60 ล้านบาท นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เข้ามาถือหุ้นลำดับ 14 จำนวน  2,500 หุ้น มูลค่า 250,000 บาท  โดยมีนายบุญธรรม บุญเทพประทาน ถือหุ้นใหญ่ 100,000 หุ้น และบุคคลอื่นรวม 20 คนรวม 600,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท ต่อมาบริษัทดังกล่าวจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นหลายครั้ง นายธาริตยังคงถือหุ้นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน 

สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า นายบุญธรรม บุญเทพประทาน เป็นเจ้าของธุรกิจอย่างน้อย 8 บริษัท อาทิ บริษัท นูรุ คริสตัล จำกัด (สถานบริการ อาบอบนวด)  บริษัท โคลอนเซ่ จำกัด  (สถานบริการ อาบอบนวด ที่ตั้งเลขที่ 821 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร)   บริษัท เขาใหญ่ เบเวอร์ลี่ ฮิลส์ จำกัด  บริษัท บ้านชุมทอง จำกัด  บริษัท ไนท์ คอมเพล็กซ์ จำกัด (สถานบริการ อาบอบนวด)เป็นต้น 

สำหรับ บริษัท บ้านชุมทอง จำกัด ตกเป็นข่าวในสื่อมวลชนหลายสำนักว่า เป็นผู้รับซื้อโฉนดที่ดินบริเวณชะง่อนผา เขาหนองเชื่อม ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จำนวน 18 แปลง กว่า 330 ไร่  ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ว่าออกโฉนดโดยชอบหรือไม่เนื่องจากนำหนังสือแสดงการทำประโยชน์นิคมสร้างตนเอง (น.ค.3) มาออกโฉนดและอยู่ในพื้นที่ของเป็นของศูนย์สงครามพิเศษ ลพบุรี 

ก่อนหน้านี้ ไทยรัฐออนไลน์ รายงานข่าวว่า เมื่อวันที่  28 ส.ค. 57 ที่ จ.นครราชสีมา นายธนวัฒน์ สนิทศักดิ์ดี เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนชำนาญการคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในนามกองทัพภาคที่ 2 ทีมงานของ พ.อ.สมหมาย บุษบา เสนาธิการกองยุทธการ กองทัพภาคที่ 2 ในฐานะคณะทำงานด้านกฎหมาย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการบุกรุกที่ดินบริเวณชะง่อนผาเขาหนองเชื่อม ม.8 บ้านหนองตากู ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่ของศูนย์การทหารราบรบพิเศษ ลพบุรี

นายธนวัฒน์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบการบุกรุกที่ดินแปลงดังกล่าว พบว่ามาจาก นค.3 ที่ออกเมื่อปี 2545 ในชื่อของชาวบ้านในพื้นที่ จำนวน 11 ราย เนื้อที่ทั้งหมด 330 ไร่ ซึ่งชาวบ้านบางคน อาจจะมี 2-3 แปลง หลังจากนั้นได้มีการนำ นค.3 มาออกเป็นโฉนด ได้โฉนดในปี 2550 ซึ่งบุคคลที่เป็นเจ้าพนักงานที่ดิน เป็นช่างรังวัดในการออกโฉนดที่ดิน คือ นายเศรษฐวุฒิ เพ็งดิษฐ์ ซึ่งเป็นน้องชายของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นคนทำการรังวัดออกโฉนดคนเดียวทั้งหมด จำนวนทั้ง 11 แปลง เนื้อที่ 330 ไร่ ซึ่งตามพฤติการณ์ จะไม่มีใครทราบว่ามีที่ดินตรงไหน จุดไหนบ้าง และเมื่อได้โฉนดที่ดินแล้ว ก็มีการทำสัญญาเช่าที่ดินให้บริษัทบ้านชุมทอง เช่าที่ดินจากชาวบ้าน 11 ราย ทั้ง 18 แปลง พอมาปี 2555 หลังครบกำหนดสิทธิห้ามโอน 5 ปี ก็มีการโอนขายให้บริษัทบ้านชุมทอง แล้วจึงมีการโอนขายต่อให้กับนายตำรวจระดับสูงหลายคน ซึ่งตนพูดไปตามข้อเท็จจริงว่า คนที่ดำเนินการทั้งหมดเป็นน้องชายของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นเรื่องจริง ตรงตามเอกสาร ไม่ได้ไปหมิ่นประมาทใคร

"เราพบว่า การโอนมีขึ้นเมื่อปี 2555 แต่บ้าน พล.ต.ต.คนหนึ่ง ซึ่งปรากฏตามหลักฐาน เป็นบ้านที่ปลูกมาตั้งแต่ปี 2553 แล้ว ทำในลักษณะเป็นนอมีนี หรือตัวแทนกันมาแล้ว ซึ่งนายตำรวจที่ทำรู้อยู่ก่อนแล้ว เพราะคนงานของเขาเองก็ ให้การไว้ว่า นายชิน เมืองทอง เป็นคนดูแลบ้านนี้มาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก็ประมาณปี 2553 ก่อนมีการโอนสิทธิด้วยซ้ำ แสดงว่าคุณรู้อยู่แล้วว่าให้บุคคลพวกนี้ เป็นนอมีนีในการถือแทน เราเองอยากให้มีการตีแผ่นำเสนอข่าวไปได้เลยเรื่องนี้ เราจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่างให้สังคมได้รับรู้รับทราบข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏ นอกจากนี้ จากคำให้การของผู้ที่ดูแลบ้านบอกว่าเป็นบ้านของระดับนายตำรวจใหญ่ ระดับสูงมีทั้ง พล.ต.อ. โดยที่ใช้นอมีนีมีจำนวน 18 ไร่เป็นที่ดินเปล่า ระดับผู้การสืบสวนสอบสวนยศ พล.ต.ต. ครอบครองบ้านและที่ดินจำนวน 50 ไร่ อดีต ผบช.ภาคนายหนึ่งมี 40 ไร่ รวมทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัยดัง และญาตินักการเมือง"

นายธนวัฒน์ กล่าวด้วยว่า การดำเนินการขั้นตอนก็คือ ในสัปดาห์หน้าจะส่งเรื่องให้มีการยกเลิก นค. 3 แล้ว จากนั้นดำเนินการยกเลิกโฉนดทั้งหมด แล้วจะมีการยึดทรัพย์ด้วย เพราะเป็นการหาประโยชน์จากที่ดินแปลงดังกล่าว โดยจะส่งเรื่องให้ทาง ป.ป.ง.ยึดทรัพย์ ขอเรียนว่า กรณีอย่างนี้พบการกระทำผิดชัดเจนทุกแห่ง จึงต้องทำแบบเสมอภาคหมด ใครที่ทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการโดยเสมอภาค ไม่ใช่ดำเนินการเฉพาะชาวบ้าน ชาวบ้านทำผิดถูกยึดทรัพย์ เมื่อเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ (นายตำรวจ) ทำผิดเราก็ต้องยึดทรัพย์เหมือนกัน

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.thairath.co.th/content/446380