- Home
- Investigative
- จัดซื้อจัดจ้าง
- ชัดๆ ชื่อผู้ถูกกล่าวหา-พฤติการณ์ คดีไทยเข้มแข็ง 5.3 พันล.-ไฉน 'ชินวรณ์' รอด
ชัดๆ ชื่อผู้ถูกกล่าวหา-พฤติการณ์ คดีไทยเข้มแข็ง 5.3 พันล.-ไฉน 'ชินวรณ์' รอด
ขมวดปมร้อน! ชื่อผู้ถูกกล่าวหา-พฤติการณ์ คดีซื้อครุภัณฑ์อาชีวะไทยเข้มแข็ง 5.3 พันล. ยุค อภิสิทธิ์ ในผลสอบดีเอสไอ VS ป.ป.ช.- ไฉน 'ชินวรณ์ บุญยเกียรติ' อดีตรมว.ศึกษาฯ รอด
กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที เมื่อสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ปัจจุบันคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างการแจ้งคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน ให้ผู้ถูกกล่าวหา ในคดีโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ไทยเข้มแข็ง (SP.2)ประจำปีงบประมาณ 2553-2555 คือ นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุทธิชัย จันทร์อารักษ์ อดีตผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางสาวนริศรา) เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนรายชื่อคณะอนุกรรมการไต่สวน
อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนการดำเนินงานในส่วนของ นายสุทธิชัย จันทร์อารักษ์ อดีตผู้ช่วยเลขานุการ นางสาวนริศรา มีปัญหาเกิดขึ้น เนื่องจากคณะอนุกรรมการไต่สวน ที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธาน ได้ส่งหนังสือแจ้งให้รับทราบคำสั่งปรับเปลี่ยนคณะอนุกรรมการไต่สวน ให้นายสุทธิชัย ได้รับทราบแล้ว ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ณ ที่อยู่ที่ปรากฎตามหลักฐานของราชการ แต่ปรากฎว่า 'ไม่มีผู้รับ'
(อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ตั้งอนุฯสอบ'สุชาติ ตันเจริญ-อดีตรมช.ศึกษา-15บิ๊ก ศธ."คดีไทยเข้มแข็ง-ยุค'มาร์ค', ติดต่ออดีตผู้ช่วยเลขาฯ'นริศรา'ไม่ได้! โชว์หนังสือป.ป.ช.ตั้ง 'สุภา' สอบคดีไทยเข้มแข็ง)
ทั้งนี้ หากใครที่มีโอกาสติดตามข้อมูลการตรวจสอบคดีโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ไทยเข้มแข็ง (SP.2)ประจำปีงบประมาณ 2553-2555 คงจะทราบว่า ในช่วงปลายปี 2555 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในขณะนั้น เคยแถลงข่าวสรุปความคืบหน้ากรณีทุจริตโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา ภายใต้โครงการแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยเข้มแข็งระยะที่ 2 (SP2) ในวงเงินงบประมาณกว่า 5,300 ล้านบาท เพื่อส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบตามขั้นตอนทางการ
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า คณะทำงานสืบสวนสอบสวนดีเอสไอ ได้สรุปสำนวนโดยกล่าวหา 1. นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.), 2. น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ., 3. นายเจี่ยง วงศ์สวัสดิ์สุริยะ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการอาชีวศึกษา 4. นาย บำรุง อร่ามเรือง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ทำให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ ได้รับความเสียหาย
จากการสืบสวนสอบสวนโครงการดังกล่าว พบว่ามีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐผู้เกี่ยวข้องดังกล่าวข้างต้น ได้ร่วมกันดำเนินการจัดซื้อพัสดุครุภัณฑ์ซึ่งเป็นงบลงทุน 5,300,385,500 บาทในปีงบประมาณ 2553 โดยสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือกระทำโดยไม่ชอบกฎหมายสรุปได้ดังนี้
1.แต่งตั้งบุคคลใกล้ชิดหรือพวกพ้องของรัฐมนตรีเป็นคณะกรรมการชุดต่างๆในการจัดหาครุภัณฑ์ ให้เป็นไปตามความต้องการของตนเอง
2.จัดซื้อครุภัณฑ์ราคาแพงเกินความจริง เช่น ครุภัณฑ์ห้องปฏิบัติการไฟฟ้าพื้นฐาน ราคาประมาณเพียงชุดละ 1 ล้านบาท แต่ตั้งราคาสูงถึง 3 ล้านบาทและจัดซื้อ 19 ชุดเป็นเงินกว่า 57 ล้านบาท ผู้ขายมีกำไรกว่า 38 ล้านบาท หรือครุภัณฑ์ที่จัดสรรให้วิทยาลัยไม่มีคุณภาพ และไม่เกิดประโยชน์ต่อการเรียนการสอน 3.ไม่ได้สำรวจจำเป็นและความต้องการครุภัณฑ์ของสถานศึกษา แต่จัดครุภัณฑ์ให้โดยที่สถานศึกษาไม่มีส่วนร่วมกำหนดสเป็กและไม่ตรงกับการเรียนการสอนหรือยังไม่มีการเรียนการสอนเกี่ยวกับครุภัณฑ์นั้น
4. ผู้ประกอบการหรือผู้ขายสินค้าครุภัณฑ์ให้กับ สอศ. อยู่ที่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐบางคน เป็นการกระทำที่เอื้อประโยชน์แก่คู่สัญญารายใดรายหนึ่ง มิได้เป็นการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม 5.การตรวจรับครุภัณฑ์ ไม่ตรงตามสเป็กหรือสัญญาซื้อขาย เช่น จุดเชื่อมวงจรไฟฟ้า สัญญากำหนดไว้เป็นทองคำแท้ เพื่อให้ครุภัณฑ์มีราคาสูงแต่จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทองชุบเท่านั้น เหตุเกิดที่วิทยาลัยการอาชีพบ้านผือ จ.อุดรธานี และที่วิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรี
จากการสอบสวนปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวข้างต้น เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายมีอำนาจหน้าที่ในการดูแลรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง แต่จงใจฝ่าฝืนกฎหมายตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542, กระทำผิดทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ตลอดทั้งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และไม่ยึดหลักธรรมาภิบาลในการจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้ สอศ. ได้รับความเสียหายกระทบต่อผลประโยชน์รัฐ อันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) จึงต้องส่งสำนวนคดีนี้ให้ ป.ป.ช. ไต่สวนและวินิจฉัยตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 19, 43 และมาตรา 66 ต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบฐานข้อมูลการไต่สวนคดีของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา พบว่า จำนวนผู้ถือกล่าวหาในคดีนี้ มิใช่มีจำนวน แค่ 4 ราย หากแต่เพิ่มจำนวนกว่า 17 ราย ประกอบไปด้วย
1. นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
2. นายสุชาติ ตันเจริญ (เคยเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดฉะเชิงเทรา 8 สมัย อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย และพรรคไทยรักไทย รวมถึงเป็นแกนนำกลุ่ม 16 อีกด้วย)
3. นายศุภชัย บัญชาศึก ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
4. นายสุทธิชัย จันทร์อารักษ์ เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์)
5. นายรชา ไม่ระบุนามสกุล
6. นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา
7. นายพันธุ์ศักดิ์ โรจนากาศ ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาช่างอุตสาหกรรม (อดีต)
8. นายมังกร หริรักษ์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนการอาชีวศึกษา
9. นายเริงจิตร์ มีลาภสม ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพ (อดีต)
10. นายจรัญ พรมเสน ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากร (อดีต)
11. นายเจี่ยง วงศ์สวัดิ์สุริยะ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการอาชีวศึกษา (อดีต)
12. นายชาญเวช บุญประเดิม ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพกาญจนาภิเษกหนองจอก
13. นายอุดร เห็นชอบดี ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคมาบตาพุด
14. นายเมธีศิน สมอุ่นจารย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคหนองคาย
15. นายบำรุง อร่ามเมือง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา
16. นายลิขิต พลเหลา ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี
17. นายสมหวัง สุขจิตร ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคจันทบุรี
ขณะที่พฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 17 ราย ปรากฎดังนี้
นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา, นายพันธุ์ศักดิ์ โรจนากาศ ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาช่างอุตสาหกรรม (อดีต) , นายมังกร หริรักษ์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนการอาชีวศึกษา และ นายเจี่ยง วงศ์สวัดิ์สุริยะ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการอาชีวศึกษา (อดีต) ร่วมกันกำหนดวงเงินงบประมาณให้กับสถานศึกษา โดยมีเงื่อนไขหัก 1% ของงบประมาณที่ได้รับ
สถานศึกษาใดยอมรับจะได้รับการจัดสรรงบตั้งแต่ 30 ล้านบาท จนถึง 99 ล้านบาท
หากไม่ยอมรับเงื่อนไขจะได้รับการจัดสรรเพียง 3 แสนบาท จนถึง 2 ล้านบาท
ส่วน นายศุภชัย บัญชาศึก ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ , นายสุทธิชัย จันทร์อารักษ์ เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์) , นายรชา ไม่ระบุนามสกุล และ ผู้ถูกกล่าวหาราย ที่ 7- 17 ทำการติดต่อพ่อค้าให้เข้ามาตกลงเรื่องการจ่ายเงินเปอร์เซ็นต์ รวม 30%
โดยเม็ดเงินทั้งหมด นายศุภชัย บัญชาศึก, นายสุทธิชัย จันทร์อารักษ์ และ นายรชา ไม่ระบุนามสกุล จะรวบรวมนำส่งให้กับ นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ นายสุชาติ ตันเจริญ
และแบ่งให้กับ นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา
อย่างไรก็ตาม ในบรรดารายชื่อผู้ถูกกล่าวหา ทั้ง 17 ราย ไม่ปรากฎชื่อของ นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2559 นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ อดีตรมว.กระทรวงศึกษาฯ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ว่า สาเหตุที่ไม่ปรากฎชื่อตน เป็น 1 ในผู้ถูกกล่าวหา 17 ราย ที่ถูกป.ป.ช. ตั้งคณะอนุฯ ไต่สวน ในคดีนี้ เป็นเพราะตนเป็นผู้ตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ และส่งเรื่องให้ป.ป.ช.ด้วยตนเอง
เมื่อถามว่า แต่ในชั้นสอบสวนของดีเอสไอ มีชื่อของนายชินวรณ์ เป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาด้วย
นายชินวรณ์ ตอบว่า "คุณธาริต เขาไม่รู้เรื่องว่าผมสั่งสอบ และยื่นป.ป.ช.เอง หลังจากนั้น เขายังมาขอโทษผมด้วยเลย"
เมื่อถามว่า คดีนี้เกี่ยวกับ นายสุชาติ ตันเจริญ ด้วยหรือไม่ นายชินวรณ์ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจในต่างจังหวัด ยังไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ และสัญญาณโทรศัพท์ไม่ดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2559 ได้พยายามติดต่อนายสุชาติ ตันเจริญ ตามเบอร์โทรศัพท์จากฐานข้อมูล 1133 คือหมายเลข 02-27795XX อีกครั้งแล้ว รวมถึงนางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คดีดังกล่าว อยู่ระหว่างขั้นตอนการไต่สวนของ ป.ป.ช. ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 17 ราย จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.ตั้งอนุฯสอบ'สุชาติ ตันเจริญ-อดีตรมช.ศึกษา-15บิ๊ก ศธ."คดีไทยเข้มแข็ง-ยุค'มาร์ค'
ติดต่ออดีตผู้ช่วยเลขาฯ'นริศรา'ไม่ได้! โชว์หนังสือป.ป.ช.ตั้ง 'สุภา' สอบคดีไทยเข้มแข็ง