ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ: "ผมไม่ได้เป็นกรรมการมวย อย่าเพิ่งติ ยังไม่ได้ทำงานเลย"
การแสดงความเห็นติเตียนกรรมการบางท่านที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งเป็นคนที่อุทิศตนทำงานเพื่อสังคมมายาวนานด้วยความจริงใจทำให้เขาเสียหายและไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง
หมายเหตุ:รองศาสตราจารย์ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ในฐานะประธานคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โพสต์ข้อความในเฟซบุค
ในฐานะประธานกรรมการฯ รศ.ดร.วรากรณ์ แสดงความเห็นบางประการ เนื่องจากทำให้เกิดความเสียหายแก่ตัวเองและกรรมการ
"ตามที่มีการเอ่ยอ้างถึง “ความไม่เหมาะสม” ของคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุน สสส. ที่คณะรัฐมนตรีเพิ่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2558 นั้นอาจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ จากคณะสถิติประยุกต์ NIDA เป็นผู้สรุปข้อความข้างต้น ผมเห็นว่ามีข้อบกพร่องในการวิเคราะห์ “ความไม่เหมาะสม” อยู่หลายประการโดยแบ่งเป็น 2 ด้าน ดังต่อไปนี้
(1) ในเรื่องข้อมูล (ก) คณะกรรมการชุดนี้มิได้ตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบว่า สสส. ควรอยู่ต่อไปหรือไม่ อาจารย์เขียนว่า “คณะกรรมการฯ ที่ขาดความเป็นกลางและมี conflict of interest ควรลาออกไปเพื่อความสง่างาม ให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างสะอาด บริสุทธิ์ ยุติธรรม”
ผมอ่านแล้วเข้าใจว่าอาจารย์อาจสับสนกับงานการตรวจสอบของรัฐบาลที่กระทำอยู่ในตอนนี้ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน
คณะกรรมการฯ ชุดนี้ตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.สสส. (2554) มาตรา 37 ให้มีหน้าที่ (1) ประเมินผลด้านนโยบายและการกำหนดกิจการของกองทุนฯ (2) ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ (3) รายงานผลการปฏิบัติงานพร้อมข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการทุกรายปี
คณะกรรมการฯ ชุดนี้มิได้ตรวจสอบเรื่องการเงินเพราะเป็นงานของ สตง. ที่ทำอยู่ทุกปีเป็นเวลาต่อเนื่องกันมา 13 ปีแล้ว เนื่องจากทุกบาทเป็นเงินแผ่นดิน เราไม่ได้มาดู “ความสะอาด บริสุทธิ์ ยุติธรรม”
สิ่งที่เราเน้นคือประเด็นประสิทธิภาพ ประสิทธิผล การคุ้มค่าและธรรมาภิบาล เราไม่ใช่ศาล
(ข) คนชื่อ “วราภรณ์ สามโกเศศ” ไม่มีในโลก มีแต่ “วรากรณ์ สามโกเศศ”
(2) ในเรื่องการวิเคราะห์ (ก) อาจารย์บอกว่าผมไม่เหมาะสม เพราะไม่เป็นกลางเนื่องจากเคยเขียนบทความสนับสนุนการมีองค์กรที่มาจาก Earmarked Tax ในเบื้องต้นอยากเรียนว่า ผมไม่ได้มาเป็นกรรมการมวย ผมและเพื่อนกรรมการมาประเมินตามหน้าที่ใน พ.ร.บ.
ผมสอนพิเศษให้ NIDA ที่อาจารย์ทำงานอยู่ในหลักสูตรปริญญาโท MPPM (Master of Public-Private Management) ยาวนานกว่า 10 ปี ตามทฤษฎีการจัดการสมัยใหม่นั้น การสนับสนุน public sector ด้วยเงินทุนจากรัฐเพื่อให้องค์การมีระบบการทำงานคล่องตัวแบบ private นั้นเป็นเรื่องที่เขาทำกันทั่วโลก ถ้าคนที่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้แล้วเป็นคนที่ไม่เหมาะสม อาจารย์คงจะหาคนไปทำงานระดับนี้ได้ยากแน่ ๆ
(ข) การเคยได้รับทุนอุดหนุนในอดีตของกรรมการบางท่านตามที่อาจารย์เอาข้อมูลมานั้น ผมไม่เห็นว่าจะทำให้เขาไม่เหมาะสม การรู้กลไกการทำงานของ สสส. จากแง่มุมต่าง ๆ โดยผ่านประสบการณ์น่าจะทำให้การประเมินผลมีความรอบด้านมากขึ้น
ประเด็นสำคัญอยู่ตรงว่าการประเมินผลไม่เป็นไปอย่างเที่ยงธรรมเนื่องจากมีผลประโยชน์ทับซ้อนเกี่ยวเนื่องกับปัจจุบันหรือไม่
ถ้าตรรกะอาจารย์ว่าคนเคยรับเงินทุนอุดหนุนในอดีตไม่เหมาะสมแล้ว การเคยเป็นประธานกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาภายในของธรรมศาสตร์ของตัวผมเองก็ต้องไม่ถูกต้องด้วย เพราะผมเคยเป็นอาจารย์ที่นี่มาก่อน เคยรับเงินเดือนและรับผลประโยชน์ของมหาวิทยาลัยมาในอดีตอย่างนั้นหรือ (และอีกหลายท่าน ๆ ที่มีพื้นฐานแบบผมก็ทำหน้าที่เช่นนี้กันอย่างกว้างขวางในการประเมินคุณภาพมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน)
ผมเข้าใจอาจารย์ดีว่า กำลังทำหน้าที่รับใช้สังคม และผมก็ได้ทำมาตลอดชีวิตการทำงานของผมเช่นกัน แต่ผมมีความเห็นว่าต้องกระทำด้วยความรอบคอบระมัดระวังในเรื่องข้อมูลและกรอบการวิเคราะห์ การแสดงความเห็นติเตียนกรรมการบางท่านที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งเป็นคนที่อุทิศตนทำงานเพื่อสังคมมายาวนานด้วยความจริงใจทำให้เขาเสียหายและไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง
กรรมการฯ ชุดของเรายังไม่ได้ทำงานเลย น่าจะให้โอกาสและความเป็นธรรม อาจารย์คอยติดตามและตรวจสอบว่าเราได้ทำงานอย่างเป็นไปตามหน้าที่ที่ระบุไว้หรือไม่ใน พ.ร.บ. จะเหมาะสมกว่าไหม
อนึ่ง สำหรับกรรมการที่อาจารย์มิได้เอ่ยนาม ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่อาจารย์ไมได้ชี้ให้เห็นว่าไม่เหมาะสมแต่ประการใดนั้น อาจารย์จะเหมารวมให้ท่านลาออกเพื่อ “ความสง่างาม” ด้วยอย่างนั้นหรือ