“ณัฏฐา” ปัดขอ กทค.ถอนฟ้อง ผอ.ไทยพีบีเอสยันสู้คดีถึงที่สุด
“ณัฏฐา” ปัดขอ กทค.ถอนฟ้อง ตามที่ “สุทธิพล” พูดในที่ประชุม กสทช. ผอ.ไทยพีบีเอสยันสู้คดีถึงที่สุด มั่นใจทำหน้าที่สื่อถูกต้อง
(ณัฏฐา โกมลวาทิน - ภาพจากเฟซบุ๊กส่วนตัว)
จากกรณีที่มีรายงานข่าวว่า นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ระบุในที่ประชุม กสทช.เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2556 ถึงกรณีที่ กทค.ทั้ง 4 คน ประกอบด้วยนายสุทธิพล พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ และ พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ยื่นฟ้อง ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ นักวิชาการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) และ น.ส.ณัฏฐา โกมลวาทิน ผู้ดำเนินการรายการ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ในข้อหาหมิ่นประมาท จากกรณีที่ ดร.เดือนเด่นแสดงความเห็นวิจารณ์มาตรการขยายเวลาคืนคลื่นความถี่ 1800 MHz ว่าอาจทำให้เกิดความเสียหายเป็นหลักแสนล้านบาท ในรายการที่นี่ไทยพีบีเอสที่ น.ส.ณัฏฐาเป็นผู้ดำเนินรายการ ออกอากาศกลางเดือน ส.ค.2556 ที่ผ่านมา
โดยนายสุทธิพล กล่าวว่า ในวันนี้ (19 ก.ย.2556) จะมีผู้ถูกฟ้อง 1 รายเดินทางมาขอไกล่เกลี่ยคดีความกับกทค.โดยแหล่งข่าวระบุว่า ผู้ที่จะเดินทางมาไกล่เกลี่ยคือนางสาวณัฏฐาผู้ดำเนินรายงานจากไทยพีบีเอส และหากการหารือออกมาในแนวทางที่ดีกทค.อาจพิจารณาถอนฟ้องหรือยอมความ ส่วนนางสาวเดือนเด่นนั้นกทค.ไม่ยอมเจรจาด้วย และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
(อ่าน กทค.จ่อถอนฟ้องยอมไกล่เกลี่ยไทยพีบีเอส)
ในช่วงบ่ายวันที่ 19 ก.ย.2556 น.ส.ณัฏฐา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Nattha Komolvadhin ถึงกรณีดังกล่าวว่า “อาจจะยังเกิดความสับสน จากข่าวที่ออกมาระบุว่า ไทยพีบีเอสติดต่อเจรจากับ กทค.เพื่อให้ขอถอนฟ้อง ดิฉัน ณัฏฐา โกมลวาทิน ยืนยันว่าไม่เคยติดต่อ กทค. เพื่อขอเจรจาและจุดยืนตรงกับ อ.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ในฐานะผู้ถูกฟ้องจะต่อสู้ในชั้นศาลจนถึงที่สุด”
ขณะที่นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Somchai Suwanban ถึงกรณีดังกล่าวเช่นกัน มีข้อความว่า “ผมขอยืนยันว่า ไทยพีบีเอสไม่เคยติดต่อกับ กสทช เพื่อขอเจรจาให้ถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท ตามที่มีข่าวแพร่หลายในสื่อมวลชนหลายฉบับ ในทางตรงข้ามเราได้เตรียมการสู้คดีอย่างถึงที่สุด เพราะมีความมั่นใจว่าเราได้ทำหน้าที่สื่อมวลชนอย่างสุจริตตามมาตรฐานวิชาชีพ”