มติ ป.ป.ช.ไต่สวน "สมศักดิ์-นิคม" พ่วง 308 สส.-สว.ปมแก้ รธน.แล้ว
ป.ป.ช.มีมติไต่สวน "สมศักดิ์-นิคม" พ่วง ส.ส.-ส.ว.อีก 308 คน คดีแก้ รธน.แล้ว ให้กรรมการ ป.ป.ช.ทั้งชุดเป็นองค์คณะ ฟอร์มทีมพิเศษรวมรวบหลักฐาน ใช้คำวินิจฉัยศาล รธน.เป็นฐานพิจารณา
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2556 ที่สำนักงาน ป.ป.ช.สนามบินน้ำ นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะรองโฆษก ป.ป.ช.แถลงว่า จากกรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเืมืองจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว. ทั้ง 3 คำร้อง และมีผู้ยื่นคำร้องใ้ห้ดำเนินคดีอาญาอีก 2 คำร้อง ประกอบด้วย 1.ส.ว.กลุ่มหนึ่งยื่นคำร้องกล่าวหา ส.ส.และ ส.ว.รวม 308 คน ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราการ และ 2.ประชาชนทั่วไปยื่นคำร้องให้เอาผิด ส.ส.ที่กดบัตรแทนกันในการลงคะแนนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว. ที่ประชุม ป.ป.ช.ได้พิจารณาแล้ว ให้นำคำร้องทั้ง 5 มารวมเป็นเรื่องเดียว พร้อมให้กรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะเป็นองค์คณะไต่สวนข้อเท็จจริง โดยมีนายวิชา มหาคุณ นายภักดี โพธิศิริ และนายใจเด็ด พรไชยา เป็นผู้รับผิดชอบสำนวน ทั้งีน้ ป.ป.ชจะรีบดำเนินการไต่สวนเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด โดยมีการตั้งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ชุดหน่งมารวบรวมข้อมูลในคดีนี้เป็นการเฉพาะ และจะนำคำวินิจฉัยของศาลรัธรรมนูญภายหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว มาเป็นพื้นฐานในการพิจารณาคดี และจะให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 310 คน ประกอบด้วย นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภาในฐานะรองประธานรัฐสภา รวมถึง ส.ส.และ ส.ว.อีก 308 คน ได้รับทราบ เพื่อให้มีโอกาสได้เข้ามาีชี้แจงต่อไป
ด้านนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะรองโฆษก ป.ป.ช. กล่าวว่า แม้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะผูกพันทุกองค์กร แต่ผูกพันเฉพาะสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเท่านั้น ยังไม่เพียงพอที่ ป.ป.ช.จะวินิจฉัยหรือชี้มูลความผิดได้ จะต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ เช่น เจตนา และการกระทำผิดทางอาญาด้วย
ส่วนที่ ส.ส.และ ส.ว.บางกลุ่มประกาศไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ มีโอกาสจะประกาศไม่รับอำนาจ ป.ป.ช.ด้วยหรือไม่ นายวิชัย กล่าวว่า "ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย"
ภาพประกอบ - (ซ้าย) นิคม ไวยรัชพานิช (ขวา) สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ จากเว็บไซต์ news.th.msn.com