วิปดันกม.จัดตั้งศาลปค.บรรจุวาระ18 ก.ย.-ตั้งตัวแทนหนุน-ค้านฝั่งละ2ชั้นกมธ.
วิปสนช.ดันร่างกม.จัดตั้งศาลปค.เข้าสู่วาระพิจารณา18 ก.ย. นี้ เผยใช้แนวทางหาข้อยุติตั้งตัวแทนฝ่าย "หนุน-ค้าน" ฝั่งละ 2 คน ในชั้นกมธ.
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ย.57 ที่ผ่านมา ที่อาคารรัฐสภา นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยภายหลังการเชิญตัวแทนตุลาการเข้าชี้แจงเหตุผลการคัดค้านร่างพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง ว่า ที่ประชุมมีมติให้ตั้งตัวแทนฝ่ายคัดค้านและฝ่ายสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ ฝั่งละ 2 คน ร่วมกันพิจารณาร่างกฎหมายในชั้นกรรมาธิการอีกครั้ง
“ที่ประชุมวิปมีมติว่า จะกำหนดสัดส่วนให้ฝ่ายค้านได้เข้าทำหน้าที่ในชั้นกรรมาธิการ ฝ่ายเสนอร่างกฎหมายก็ควรได้ที่นั่งในชั้นกรรมาธิการด้วยเช่นกัน ก็ไม่น่าจะปิดบังอำพรางอะไรกัน ต้องทำงานแบบแฟร์ ๆ เปิดเผย”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ร่างกฎหมายดังกล่าว จะเข้าสู่การพิจารณาของสนช.ในวันที่ 18 ก.ย.นี้หรือไม่ นายสุรชัย ตอบว่า จะเข้าสู่วาระการพิจารณาในวันพรุ่งนี้ (18 ก.ย.) และในชั้นกรรมาธิการจะให้ทั้งสองฝ่ายได้มีส่วนร่วม มีเวทีให้ได้พูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเข้าชี้แจงข้อมูลของฝ่ายตุลาการที่คัดค้านร่าง พ.ร.บ. ต่อ วิป สนช. ตัวแทนตุลาการ ได้มอบหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร และจดหมายเข้าชื่อคัดค้าน แก่นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย เพื่อนำเสนอต่อ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับตัวแทนตุลาการที่เข้าชี้แจงต่อวิป สนช. ครั้งนี้ ได้แก่ นายนพดล เฮงเจริญ นางสาวสิริกาญจน์ พานพิทักษ์ และนายประสาท พงศ์สุวรรณ มีการชี้แจงโดยวาจาและเสนอจดหมายของคณะตุลาการศาลปกครองชั้นต้น ที่เข้าชื่อคัดค้านทั้งสิ้น 118 คน
แหล่งข่าวระดับสูงใน สนช.กล่าวว่า รายชื่อกรรมาธิการที่ฝ่ายตุลาการผู้คัดค้านเสนอมาในชั้นกรรมาธิการ คือ นายสมชัย วัฒนการุณ และนายประสาท พงศ์สุวรรณ ทั้งนี้ เมื่อวิปรับหลักการไว้พิจารณา จะเสนอเรื่องให้สภา เมื่อสภาอภิปรายแล้ว จะมีการลงมติว่ารับหลักการหรือไม่
โดยขั้นรับหลักการจะขึ้นอยู่กับสภาชุดใหญ่ วิปไม่มีอำนาจพิจารณา วิปเพียงมีหน้าที่รับร่างไว้ แต่คาดว่าการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวจะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้กฎหมายได้ประกาศใช้ทันวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เมื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ และทรงลงพระปรมาภิไธย ก็ประกาศในราชกิจจานุเบกษา บังคับใช้เป็นกฎหมาย
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก bangkokbiznews.com