คนขับเรือประมาท! ผู้ว่าฯพังงา ยันไม่มีเจตนานำคณะล่องทะเลชูแก้วไวน์ เขตอุทยานฯ
สะพัด!ผู้ว่าฯ พาขรก. สื่อล่องเรือ ชูแก้วไวน์ ในพื้นที่อุทยานฯอ่าวพังงา เกาะปันหยี มีภาพถ่ายยืนยัน เจ้าตัวยอมรับของจริง แต่ไม่เจตนาทำผิดระเบียบ เผยเหตุคนขับเรือไม่ได้แจ้งพื้นที่ส่วนไหน โวยสื่อบางกลุ่มหาประเด็นเล่นงาน เหตุผิดหวังไม่ได้รับเชิญ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดพังงาว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้เกิดกรณีนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นำคณะผู้บริหาร ประกอบไปด้วยรองผู้ว่าราชการ ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ประธานชมรมผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักธุรกิจ ชั้นนำของจังหวัด และสื่อมวลชน ล่องเรือ ท่องเที่ยว พร้อมชนแก้วไวน์ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ต.เกาะปันหยี อ.เมือง จ.พังงา ซึ่งกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหมาะสมหรือไม่
แหล่งข่าวในจังหวัดพังงา กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวสวนทางกับวิถีชีวิตของชาวพังงาหรือไม่ และผิดระเบียบของกรมอุทยานฯหรือไม่ เนื่องจาก มีกฎห้ามดื่มเหล้า ดื่มไวน์ หรือ แอลกอฮอล์ เคยมีบุคคลกลุ่มอื่น ล่องเรือ ดื่มเหล้ามาก่อนหน้านี้ แต่ ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาห้ามปราบ แต่การจัดงานขอบคุณผู้ที่ร่วมกันจัดงานกาชาด บนเรือในอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา และฉลองโดยการเปิดไวน์ในครั้งนี้ มีการแจ้งเตือนหรือไม่ และยังถ่ายภาพ ส่งในไลน์กลุ่ม และ เฟชบุ๊ก ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ของคนในพื้นที่
“ผมเป็นคนหนึ่งที่ช่วยหาเงินเข้ากาชาด แต่ไม่เห็นด้วยกับการฉลองแบบนี้และยังมีชาวพังงาอีกจำนวนมากที่ทราบเรื่อง และรู้สึกว่าไม่เหมาะสม”แหล่งข่าวกล่าว (ดูรูปภาพประกอบ)
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 เม.ย.59 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ยอมรับว่า ได้นำคณะผู้บริหารไปจัดงานฉลองความสำเร็จจากการจัดงานกาชาดด้วยการล่องเรือ และมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จริง แต่ทางคณะไม่ได้มีเจตนากระทำฝ่าฝืนกฎระเบียบแต่อย่างใด
"พวกเรารู้ดีว่า ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติห้ามดื่มแอลกอฮอล์ของมึนเมา และเราก็ได้สั่งกำชับคนขับเรือไว้แล้ว แต่คนขับเรือดันประมาทขับเรือเข้าไปในพื้นที่อุทยานแล้วไม่แจ้งเรา ซึ่งเท่าที่ทราบทางเจ้าหน้าที่อุทยานได้สั่งปรับคนขับเรือไปแล้วด้วย"
ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ยังระบุด้วยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเคลียร์จบไปแล้ว แต่เข้าใจว่ามีสื่อมวลชนบางกลุ่มในพื้นที่ที่ผิดหวังไม่ได้รับเชิญไปร่วมงานด้วย พยายามหาประเด็นขึ้นโจมตีใส่ร้ายให้ดูเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งที่จริงๆ แล้ว เรื่องไม่ได้มีอะไรมากเลย เพราะตนและคณะไม่มีเจตนาฝ่าฝืนระเบียบอยู่แล้ว