คนแห่ตั้ง'มูลนิธิ-สมาคม' เพียบ!ปค.สั่งคุมเข้มหวั่นช่องทางหาประโยชน์เงินบริจาค
เผยคนแห่จดทะเบียนตั้ง 'มูลนิธิ-สมาคม' เพียบ! ปค.หวั่นเป็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์นำเงินบริจาคไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ดำเนินการผิดกฎหมายศีลธรรม สั่งผู้ว่าคุมเข้ม ตั้ง พนง.ออกตรวจตราปีละครั้ง หากพบที่ใดมีปัญหาให้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลขอถอนกรรมการ-แจ้งเลิก แล้วแต่กรณี
แหล่งข่าวจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมกรมการปกครอง ได้รับทราบรายงานปัญหาและอุปสรรคงานสมาคม-มูลนิธิ ซึ่งมีการระบุข้อมูลว่าปัจจุบันมีการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ-สมาคม เป็นจำนวนมาก ซึ่งบางแห่งที่ได้รับการจดทะเบียนมีการดำเนินกิจการที่ยังไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย อาจเป็นเพราะคณะกรรมการฯ ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการดำเนินกิจการ หรือมีการจดทะเบียนเพื่อหารายได้ รับบริจาคเงิน และนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หากปล่อยให้มีการดำเนินการดังกล่าว อาจขัดต่อกฎหมาย หรือศีลธรรมอันดี และยังอาจเป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชน
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานของมูลนิธิ สมาคม มีการดำเนินกิจการตามกฎหมาย และระเบียบของทางราชการโดยเคร่งครัด จึงมีการเสนอต่อที่ประชุมให้จังหวัดถือปฏิบัติ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะนายทะเบียนมีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่และออกบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ให้แก่ข้าราชการที่รับผิดชอบ ทำหนังสือมอบหมายอำเภอออกไปตรวจตราการดำเนินกิจการอย่างน้อยปีละครั้ง ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 เมษายน ของทุกปี ก่อนออกตรวจให้ทำหนังสือแจ้งวัน เวลา ที่จะออกไปตรวจให้มูลนิธิทราบล่วงหน้าเป็นเวลาพอสมควร
สำหรับสาระสำคัญในการตรวจ ได้แก่ การดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในข้อบังคับหรือไม่ การจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย งบดุล ต้องมีผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาตลงนามรับรองความถูกต้อง หากพบการดำเนินกิจการผิดพลาด เสื่อมเสีย หรือไม่เหมาะสม หรือขัดต่อกฎหมาย ศีลธรรม หรือเป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชนหรือความมั่นคงของรัฐ หรือไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไป หรือหยุดดำเนินกิจการตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป
นอกจากนี้ ยังให้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอนายทะเบียนพิจารณาร้องขอต่อศาลถอนกรรมการหรือสั่งเลิกมูลนิธิ สมาคม แล้วแต่กรณี แจ้งให้จัดทำรายงานการดำเนินกิจการ บัญชีรายได้ รายจ่าย และสำเนางบดุลในรอบปีที่ผ่านมา สำเนารายงานการประชุมของคณะกรรมการฯ ทุกครั้งในรอบปีที่ผ่านมา ให้อำเภอ 2 ชุด ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี (อำเภอ 1 ชุด ,จังหวัด 1 ชุด) ให้จังหวัดจัดทำบัญชีการตรวจตราและบัญชีการส่งรายงาน พร้อมสำเนาหลักฐานรายงานการดำเนินกิจการในปีที่ผ่านมาให้ มท. ทราบ ภายในเดือนเมษายนของทุกปี