เข้าข่ายความผิดต่อหน้าที่!สตง.โนติส'รมว.คลัง'ส่งตีความซ้ำปมภาษีน้ำมันเชฟรอน

สตง.ร่อนหนังสือถึง รมว.คลัง เรียกคืนภาษีน้ำมัน กรณี บ.เชฟรอน สอบสวนเจ้าหน้าที่รับผิดวินัยแพ่งอาญา ข้องใจมอบกรมศุลกากรส่งเรื่องกฤษฎีกาตีความซ้ำ ทั้งที่ควรยุติเรื่องได้แล้ว เตือนละเลย-ละเว้นการดำเนินการให้ถูกต้องอาจเข้าข่ายความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามกฎหมาย

จากกรณี นายประภาศ คงเอียด รองปลัดกระทรวงการคลัง ออกมาระบุว่ากระทรวงการคลัง เห็นชอบให้กรมศุลกากรทำหนังสือหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อหารือข้อกฎหมายกรณีการส่งน้ำมันเชื้อเพลิงกรณี บริษัทเชฟรอน (ประเทศไทย) จำกัด อีกครั้ง  โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้เกิดบรรทัดฐานที่มีความชัดแจ้งและเป็นธรรมต่อผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และเพื่อให้เกิดความชัดเจนแน่นอนในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารและจัดเก็บภาษีอากร ซึ่งจะมีการประสานงานกับกรมสรรพสามิต กรมสรรพากร กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์ในการชี้แจงข้อมูลต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย 

ขณะที่ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า หากปลัดกระทรวงการคลัง ส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ผลการประชุมหน่วยงาน 3 ฝ่าย และผลการประชุมร่วมหน่วยงานชุดที่มี นายประภาศ รองปลัดกระทรวงการคลัง ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นการค้าชายฝั่ง ไม่ใช่การส่งออก กรณีการส่งตีความใหม่น่าจะเข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ได้นั้น

(อ่านประกอบ :ไม่สนสตง.ขู่ฝ่าฝืนม.157! คลัง ส่งกฤษฎีกาตีความซ้ำ ปมเก็บภาษีน้ำมันเชฟรอน)

แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สตง.ได้ทำหนังสือแจ้งถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อทักท้วงการส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความดังกล่าว 

โดยระบุว่า สตง. ได้เคยแจ้งให้กระทรวงการคลังพิจารณาสั่งการให้กรมสรรพากรและกรมสรรพสามิตเรียกเก็บภาษีอากรพร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามกฎหมาย และให้เรียกเงินภาษีอากรที่มีการคืนให้บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ไปแล้วกลับคืนเป็นรายได้แผ่นดิน และให้ดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งทางอาญา แพ่ง และวินัยข้าราชการด้วย ประกอบมติที่ประชุมคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งยังไม่ได้รับแจ้งผลการดำเนินการจากกระทรวงการคลัง

แต่กลับปรากฎเป็นข่าวตามสื่อมวลชนว่ากระทรวงการคลังจะดำเนินการส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นกรณีการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงของ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด อีกครั้ง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยส่งแล้ว แต่คณะกรรมการกฤษฎีกาให้กระทรวงการคลังไปจัดประชุมร่วมสามฝ่ายดังกล่าวเพื่อหาข้อยุติ เมื่อที่ประชุมร่วมสามฝ่ายประชุมและได้ข้อยุติแล้วว่าแท่นดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยไม่ถือเป็นการส่งออก ซึ่งจะทำให้บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ไม่ได้รับยกเว้นภาษีสรรพสามิตและไม่มีสิทธิได้รับคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม เรื่องจึงควรยุติได้แล้ว กระทรวงการคลังจะส่งไปเพื่อวัตถุประสงค์ใดอีก

" หากกระทรวงการคลังขอให้กรมศุลกากรส่งไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความอีก กรมศุลกากรควรพิจารณาให้รอบคอบว่าเป็นคำสั่งที่ชอบหรือไม่ ดังนั้น เพื่อรักษาประโยชน์ของประเทศชาติ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 39 และมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2542 ให้กระทรวงการคลังพิจารณาดำเนินการเร่งบรรเทาความเสียหายของรัฐตามหนังสือที่อ้างถึงโดยเร็ว การละเลยหรือละเว้นการดำเนินการให้ถูกต้องอาจเข้าข่ายความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามกฎหมาย" สตง.ระบุในหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 

อ่านประกอบ : 

สตง.ขู่ฝ่าฝืน ม.157! ปลัดคลังฯ ยื้อเก็บภาษีน้ำมันเชฟรอน ส่งกฤษฎีกาตีความซ้ำ

เบื้องหลัง"ค่าโง่"ภาษี 3,000 ล้าน "บิ๊ก"กรมศุล-คลังอุ้ม"เชฟรอน"?

ค่าโง่ภาษีน้ำมันที่ต้องเรียกคืน 

สตง.รับลูกค่าโง่ภาษีน้ำมัน บ.เชฟรอน!แจ้ง'บิ๊กตู่' สั่งรมว.คลังเรียกเงินคืน 3 พันล. 

โชว์ชัดๆ หนังสือ สตง. ขอ'บิ๊กตู่'สั่งคลังเรียกคืนค่าโง่ภาษีบ.เชฟรอน3พันล.-เชือดจนท.!