- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- แกนนำชุมชนหนุนปราบเรือประมงผิดกฎหมาย
แกนนำชุมชนหนุนปราบเรือประมงผิดกฎหมาย
"มาสเตอร์โพลล์"เผยแกนนำชุมชนหนุนปราบเรือประมงผิดกฎหมาย มั่นใจรัฐแก้ทัน 6 เดือนทำอียูปลดใบเหลืองให้ไทย ยอมรับห่วงอาหารทะเลขาดแคลน
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. นายเชษฐ รัชดาพรรณาธิกุล ประธานชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน เปิดเผยว่า ผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพลล์ เรื่อง "แกนนำชุมชนคิดอย่างไรต่อการปลดใบเหลืองอียู กับความวิตกกังวลในการขาดแคลนอาหารทะเล" โดยสอบถามแกนนำชุมชนทั่วประเทศ 1,079 คน เมื่อวันที่ 3-5 ก.ค.2558 พบว่าแกนนำชุมชนร้อยละ 83.5 ระบุทราบข่าวการบังคับใช้พ.ร.บ.การประมงฉบับใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาใบเหลืองจากสหภาพยุโรป(อียู) เรื่องการทำประมงผิดกฎหมาย ทำให้เรือประมงบางส่วนต้องหยุดออกเรือหาปลา ขณะที่ร้อยละ 16.5 ยังไม่ทราบข่าวหรือเพิ่งทราบ ทั้งนี้แกนนำชุมชนร้อยละ 73.7 ทราบมาก่อนแล้วว่ารัฐบาลได้ผ่อนปรนให้เวลาเรือประมงได้ปรับปรุงเรือของตนให้ถูกกฎหมาย แต่ร้อยละ 26.3 ระบุยังไม่ทราบหรือเพิ่งจะทราบ
เมื่อถามถึงผลดี-ผลเสียจากการปราบปรามจับกุมเรือประมงที่มีเครื่องมือประมงผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด จนทำให้เรือประมงบางส่วนหยุดการออกเรือหาปลา พบว่าแกนนำชุมชน ร้อยละ 91.2 เห็นว่ามีผลดีมากกว่า จะได้ปลดใบเหลืองจากอียูได้ หรือทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศดีขึ้น รวมถึงการที่จะสามารถแก้ไขหลายปัญหาพร้อมกัน ทั้งการทำประมงเถื่อน การค้ามนุษย์ แรงงานเถื่อน และการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ขณะที่ร้อยละ 8.8 เห็นว่ามีผลเสียมากกว่า เพราะจะทำให้อาหารทะเลมีราคาแพงขึ้น หรือเกิดการขาดแคลนอาหารทะเล การขาดรายได้ของชาวประมง และการนำไปสู่ความขัดแย้งได้ในที่สุด
สำหรับความวิตกเกี่ยวกับราคาของอาหารทะเลที่อาจแพงขึ้น และอาจขาดแคลนอาหารทะเลนั้น พบว่าแกนนำชุมชนร้อยละ 61.1 รู้สึกวิตกกังวล ร้อยละ 38.9 ไม่รู้สึกวิตกกังวลใดๆเพราะเห็นว่าเป็นเพียงผลกระทบในระยะสั้น หรือมีอาหารทะเลจากแหล่งอื่นทดแทนอยู่แล้ว เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมราคา ราคาของอาหารทะเลมีขึ้นลงเป็นปกติ
เมื่อถามถึงกรณีที่เรือประมงในบางพื้นที่ที่มีเครื่องมือประมงผิดกฏหมาย เรียกร้องรัฐบาลให้มีมาตรการผ่อนปรนเพื่อให้สามารถออกเรือหาปลาได้ตามปกตินั้น พบว่าร้อยละ 74.7 ไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว เพราะเกรงว่าอาจสร้างความเสียหายให้ประเทศมากขึ้น และรัฐบาลได้ให้เวลาในการปรับปรุงมาระยะหนึ่งแล้ว ขณะที่ร้อยละ 25.3 เห็นด้วย เพราะชาวบ้านอาจเดือดร้อนจากการขาดรายได้ หรือเห็นว่าการขยายเวลาออกไปบ้างคงไม่ส่งผลกระทบมากนัก อยากให้รับฟังปัญหาของชาวประมงมากกว่านี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีความยุติธรรม
สำหรับประเด็นความต้องการต่อรัฐบาลเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย พบว่าแกนนำชุมชนร้อยละ 76.0 ต้องการให้เดินหน้าปราบปรามเรือประมงที่ผิดกฎหมายต่อไป เพื่อแก้ปัญหาใบเหลืองสินค้าประมงของไทยจากอียู ส่วนร้อยละ 24.0 ต้องการให้ผ่อนปรนให้เรือประมงที่ผิดกฎหมายสามารถออกเรือหาปลาได้ตามปกติก่อน เพื่อป้องกันการขาดแคลนอาหารทะเล นอกจากนี้พบว่าแกนนำชุมชนร้อยละ 59.1 เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสามารถปลดใบเหลืองจากอียูได้ภายในเวลา 6 เดือน เพราะรัฐบาลดำเนินการอย่างเป็นระบบมีขั้นตอนชัดเจน รวมถึงนายกรัฐมนตรีมีเหตุผลและเด็ดขาด ร้อยละ 12.1 ระบุว่าไม่เชื่อมั่นแล้ว เพราะปัญหามีความยุ่งยากซับซ้อน ต้องใช้เวลาในการสะสางมากกว่านี้ ร้อยละ 28.8 ระบุยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถทำได้หรือไม่
เมื่อถามถึงผลดี-ผลเสียต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลของข่าวเกี่ยวกับการที่กลุ่มเรือประมงที่มีเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย หยุดออกหาปลาในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น พบว่าแกนนำชุมชนร้อยละ 50.4 ระบุส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล แต่ร้อยละ 40.2 เห็นว่าส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล ร้อยละ 9.4 ระบุว่าไม่ได้สนใจติดตามข่าวนี้.“
ขอบคุณข่าวจาก