- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- รมว.ยธ.ลั่นไม่ล่าช้า คดีฟอกเงิน 'กรุงไทย'ปล่อยกู้กฤษดาฯ
รมว.ยธ.ลั่นไม่ล่าช้า คดีฟอกเงิน 'กรุงไทย'ปล่อยกู้กฤษดาฯ
"ไพบูลย์"แจงดีเอสไอรับสอบสวนเฉพาะคดีฟอกเงิน จากการปล่อยกู้ของแบงก์กรุงไทยให้กฤษดามหานคร ยันไม่ได้ทำคดีล่าช้า แต่ต้องรอศาลตัดสินคดีทุจริตก่อน
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีฟอกเงินจากการปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับบริษัท กฤษดามหานครว่า ตนได้เรียกนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อเข้ารายงานผลการดำเนินคดีดังกล่าว โดยอธิบดีดีเอสไอรายงานว่าดีเอสไอรับสอบสวนคดีดังกล่าวตามมติคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ตั้งแต่ปี2550 โดยคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เป็นผู้ยื่นให้ดีเอสไอสอบสวนก่อนมีการเสนอรับเป็นคดีพิเศษอย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของดีเอสไอกคพ.มีมติให้รับเป็นคดีพิเศษเฉพาะข้อหาฟอกเงินไม่มีข้อหารับของโจรตามที่อัยการสูงสุด ระบุว่า ดีเอสไอรับผิดชอบสอบสวนคดีดังกล่าวอยู่ ดังนั้นต้องย้อนกลับไปที่ต้นเรื่องว่าคตส.ยื่นให้ดีเอสไอสอบสวนในประเด็นใดบ้าง และเหตุใดคตส.จึงไม่ยื่นคำร้องให้สอบสวนคดีรับของโจร แต่ยืนยันว่ากคพ.มีมติรับสอบสวนคดีพิเศษเฉพาะข้อหาฟอกเงินเท่านั้น
"ยืนยันว่าดีเอสไอไม่ได้ดำเนินคดีล่าช้า มีการสอบสวนคู่ขนานมากับการพิจารณาคดีของศ แต่เนื่องจากต้องรอคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มาประกอบสำนวนคดีดังกล่าว เนื่องจากการดำเนินคดีความผิดฐานฟอกเงินต้องรอให้มีผลการตัดสินในสำนวนคดีหลัก คือคดีทุจริตก่อน. โดยคดีที่ดีเอสไอรับผิดชอบเกี่ยวกับกลุ่มที่มีความเชื่องโยงกับผู้กระทำผิดที่ถูกตัดสินให้รับโทษแล้ว"พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
ด้านอธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า คดีดังกล่าวถูกส่งให้ดีเอสไอสอบสวน เมื่อปี 2550 ตามมติกคพ. ปี2550 โดยมติดังกล่าวให้ดีเอสไอรับคดีไว้สอบสวนเฉพาะประเด็นความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินที่ได้มาจากการอนุมัติปล่อยกู้เท่านั้นไม่ได้รับสอบสวนในข้อหารับของโจร นอกจากนี้ในสำนวนคดีไม่ได้กล่าวหาบุคคลใดทั้งนี้เมื่อดีเอสไอรับคดีไว้สอบสวนสำนวนคดีได้ถูกจ่ายไปให้กับพ.ต.ท.วิชัยสุวรรณประเสริฐผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษสอบสวน ได้มีการสอบปากคำและสอบพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงการประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิด
แต่ปรากฏว่ามีการปรับการบริหารงานใหม่ของดีเอสไอ ทำให้สำนวนถูกจ่ายมาให้กับสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ซึ่งรับผิดชอบคดีฟอกเงินโดยขณะนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างขอคัดสำเนาคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีฟอกเงิน โดยจะมีการเชื่อมโยงและขยายผลถึงผู้ที่นำเงินจากการปล่อยกู้ไปใช้ประโยชน์ทั้งนี้จะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวในวันที่7ก.ย.คาดว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำผิดได้ภายใน 1 เดือน
ขอขอบคุณข่าวจาก