- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- สื่อขอนแก่นประณามอดีตส.ส.จับนักข่าวแก้ผ้า
สื่อขอนแก่นประณามอดีตส.ส.จับนักข่าวแก้ผ้า
สื่อขอนแก่นประณามอดีตส.ส.จับนักข่าวแก้ผ้าถ่ายรูปไว้ประจาน หลังปิดห้องต่อว่าสื่อที่เสนอข่าวแต่งงานเงียบกับเด็กสาววัย 17 ขณะที่ผู้การขอนแก่นขอตรวจสอบก่อน
ความคืบหน้ากรณีมีภาพว่อนกระแสโซเชียลมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้กระทั่งในเฟสบุ๊กของ ดร.นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตส.ส.ขอนแก่น นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ก็ปรากฏภาพชายใส่เสื้อผ้าไหมสีชมพูใบหน้าคล้ายดร.นพ.เปรมศักดิ์นั่งคู่กับหญิงสาว โดยที่ด้านหน้ามีพานใส่ธนบัตรจำนวนหนึ่ง พระพุทธรูป และมีสำเนาการครอบครองรถยนต์เล่มสีน้ำเงินวางอยุ่ 1 เล่ม โดยมีคนเฒ่าคนแก่กำลังผูกแขน โดยมีข้อความแสดงความยินดี คล้ายมีพิธีหมั้นหรือมงคสมรส ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงกับดร.นพ.เปรมศักดิ์ตลอดทั้งวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 26 กรกฏาคม 2559 ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวีได้เดินทางไปที่สำนักงานเทศบาลอำเภอบ้านไผ่ ก็พบดร.นพ.เปรมศักดิ์ในชุดเสื้อผ้าไหมสีชมพู กำลังเดินมาเข้าที่ทำงาน จึงได้พูดคุยเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีภาพปริศนา โดยดร.นพ.เปรมศักดิ์ได้เชิญสื่อมวลชนเข้าห้องร้องทุกข์ บริเวณชั้นล่างของสำนักงาน โดยสอบถามว่า จะมีนักข่าวสำนักอื่นมาอีกหรือไม่ เมื่อแจ้งว่ายังมีตามมาอีกหลายสำนัก ดร.นพ.เปรมศักดิ์จึงแจ้งให้รอพร้อมกันค่อยตอบคำถาม
กระทั้งนักข่าวจากไทยทีวีสีข่อง 3 หนังสือพิมพ์ข่าวสด เดลินิวส์ และสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น KKCเคเบิลทีวี เดินทางถึง รวมนักข่าวทั้งหมด 5 คน ดร.นพ.เปรมศักดิ์จึงขอความร่วมมือให้เก็บอุปกรณ์สื่อสารและสิ่งของที่นำติดตัวมาทั้งกระดาษ ปากกา ทั้งหมด ให้เจ้าหน้าที่เก็บไว้ก่อน โดยวางไว้ที่โต๊ะด้านหลัง ขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ของเทศบาลอีกประมาณ 7 คน ซึ่งมีผู้หญิงด้วย 1 คน อยู่ภายในห้องด้วย
จากนั้นดร.นพ.เปรมศักดิ์ได้ต่อว่าสื่อมวลชนที่นำข่าวและภาพส่วนตัวไปนำเสนอ ได้พูดตำหนินักข่าวที่เอาข่าวไปลงโดยไม่ถามก่อน บอกว่าไม่ได้หลบไปไหนว่าเป็นการทำข่าวประจานและถ้าเอาภาพนักข่าวไปประจานบ้างจะรู้สึกอย่างไร ข่าวที่ออกรู้สึกเจ็บปวดมากต้องนอนร้องไห้มาหลายวัน ซึ่งนักข่าวก็พยายามที่จะพูดถึงว่าไม่ได้เป็นคนนำเอาไปเผยแพร่ แต่มีในโลกโชเชียล และพยายามสอบถามมาทางดร.นพ.เปรมศักดิ์แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งวันนี้ได้เข้ามาหาแต่ก็ถูกต่อว่าทำข่าวบิดเบือน ทุกอย่างเป็นเรื่องส่วนตัว แค่ต้องการช่วยเหลือคนทำหน้าที่ให้ดี ส่วนภาพที่เห็นก็เป็นเพียงการให้ความช่วยเหลือคนเดือดร้อนที่มาขอความช่วยเหลือเท่านั้น
จากนั้นได้เรียกผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ที่มีอายุ 64 ปี ซึ่งรู้จักมักคุ้นกับดร.นพ.เปรมศักดิ์อย่างดี โดยเรียกให้ยืนตรวจค้นโดยแจ้งว่า ขอค้นตัวว่าซ่อนอุปกรณ์สื่อสารมาหรือไม่ เมื่อนักข่าวแสดงเจตนาบริสุทธิ์ ให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น ถูกสั่งถอดเข็มขัดกางเกง จากนั้นนายแพทย์เปรมศักดิ์สั่งเจ้าหน้าที่ให้รูดกางเกงขายาวชั้นนอกของผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ลง จนเห็นกางเกงชั้่นใน บอกให้เจ้าหน้าที่ถ่ายภาพไว้ ระหว่างนั้นสื่อมวลชนทั้งหมดต่างอยู่ในอาการตกใจ โดยนักข่าวหญิงในนั้นถึงกับร้องไห้โฮออกมา จากนั้นให้นักข่าวเดลินิวส์ดึงกางเกงขึ้นมาสวมแล้วให้ไปนั่งที่เก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ โดยกล่วว่า รู้สึกอย่างไรที่ถูกประจาน
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวีเห็นว่าไม่สามารถสัมภาษณ์เกี่ยวกับภาพทางโชเชียลและมาถูกต่อว่าเรื่องส่วนตัวและกระทำการอย่างไม่เหมาะสมต่อสื่อ จึงได้ขอโทรศัพท์มือถือ กล้องและกระเป๋า ลุกออกจากห้องไป
จากการติดต่อสอบถามผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ที่ถูกกระทำในครั้งนี้ ซึ่งยังอยู่ในอาการหวาดผวา กล่าวเพียงว่า ไม่ได้ไปแจ้งความ อยากให้เรื่องจบๆกันไป หวั่นไม่ปลอดภัย และไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้อีก
ด้าน พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวานิชย์ ผบก.จว.ขอนแก่น กล่าวกับ "เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องดังกล่าว ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน อย่างไรก็ตาม หากมีการกักขังนักข่าวอาวุโสของเดลินิวส์จริง ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแน่นอน เนื่องจากเข้าข่ายกักขังหน่วงเหนี่ยว ทั้งนี้ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะแล้ว
พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ได้ประณามการกระทำดังกล่าวว่า เป็นการคุกคามและไม่ให้เกียรติสื่อ โดยการที่สื่อไปในวันนี้ เพราะต้องการไปสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งจะว่าไปแล้วก็นับว่า เป็นผลดีกับคนที่ตกเป็นข่าว ที่จะได้ออกมาชี้แจงให้เกิดความกระจ่าง แต่ไม่ควรทำเช่นนี้ เนื่องจากหากไม่พอใจอะไรยังมีอีกหลายวิธีที่จะสามารถดำเนินการได้ ดังนั้นในนามของสมาคมฯถือว่ากระทำของ นพ.เปรมศักดิ์ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะ นพ.เปรมศักดิ์ เป็นบุคคลสาธารณะ มีความรู้ถึงระดับปริญญาเอก แต่กลับไม่ให้เกียรติสื่อ ซึ่งตอนนี้ทางสมาคมฯเตรียมออกแถลงการณ์ประณามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
ขอบคุณข่าวจาก