- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- รักน้องแต่ช่วยอะไรไม่ได้! 'บิ๊กตู่' ให้ผู้มีหน้าที่สอบกรณี หจก.ลูกชาย 'ปรีชา
รักน้องแต่ช่วยอะไรไม่ได้! 'บิ๊กตู่' ให้ผู้มีหน้าที่สอบกรณี หจก.ลูกชาย 'ปรีชา
'ประยุทธ์' ให้ผู้มีหน้าที่ สอบกรณี หจก.ลูกชาย 'ปรีชา' ระบุ รักน้องแต่ช่วยอะไรไม่ได้ รับ “บิ๊กติ๊ก” มาขอโทษแล้ว ขู่สอบ “เรืองไกร–ศรีสุวรรณ” มั่ง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีมีผู้ร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในเรื่องการสร้างฝาย ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และการประมูลงานก่อสร้างของกองทัพภาค 3 ซึ่งเกี่ยวข้องกับ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม และครอบครัว ว่า เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ก็ว่าไป ป.ป.ช.จะสอบก็ให้เขาสอบไป ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเขา ถึงจะเป็นน้องก็คนละคนกัน ส่วนรายงานข่าวที่ระบุว่าบริษัทรับงานก่อสร้างอยู่ในค่ายทหารที่เป็นหลานนายกฯ ไม่รู้ ก็ไปสอบมา ตนถามไปและให้ไปเตรียมคำตอบให้ดี และต้องไปถามปลัดกระทรวงกลาโหม แต่ไปถามเขาก็คงไม่ตอบแล้ว กระทรวงกลาโหมเขาดำเนินการอยู่ เพราะเป็นลูกน้อง
บอกรักน้องแต่ช่วยอะไรไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความมั่นใจที่จะให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบในฐานะที่ พล.อ.ปรีชาเป็นทั้งสมาชิกสนช. และ คสช. พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า แล้วไง ทำไม คุณไม่เชื่อมั่นกระบวนการรัฐเลยหรือ ถ้าไม่เชื่อก็ไปอยู่ที่อื่นนู่น กระบวนการยุติธรรมเขาทำงานอยู่ ไม่เอาอะไรสักอย่างจะเอาแต่ความรู้สึกหรือไง พอแล้วไม่ตอบ ถามแบบนี้ไร้สาระแล้วหาว่าโมโห ต้องไปถามกระบวนการที่เขากำลังตรวจสอบโน่น โยงกันไปมาอยู่นั่น ไม่ได้โมโหนะ เมื่อถามว่ารัฐบาลนี้ขึ้นชื่อในการต่อต้านการทุจริต นายกฯตอบว่า “ปั๊ดโธ่ เขาสอบสวนอยู่ เขาฟ้องขึ้นมาก็เป็นคดี เขาก็ต้องตรวจสอบแบบนั้น นี่คือกลไกการใช้อำนาจรัฐ ไม่ใช่อยู่ดีๆนึกจะตรวจสอบใครก็ตรวจสอบ ตอนนี้กระทรวงกลาโหมกำลังตรวจสอบ ขณะที่ ป.ป.ช.ก็ตรวจสอบไป อย่าเอามาพันกับตน รวมไปถึงบริษัทเขาก็ตรวจสอบหมด บริษัทบ้าบอคอแตกอะไรนั่น อยากจะสอบอะไรก็สอบไปเถอะ จะสอบครัวสอบส้วมก็สอบไป จะมาโยงกับผมทำไม เขาก็รับผิดชอบของเขาเองสิ ไม่ใช่เออ ไอ้ห่า ตระกูลผมเสียหาย มันคนละเรื่อง คนละคน แต่ถามว่าผมรักน้องไหม ผมก็รัก แต่ผมทำอะไรไม่ได้ ผมช่วยเขาไม่ได้ และผมมาตะแบงชี้แจงส่งเดชไม่ได้ ทุกอย่างเป็นกระบวนการยุติธรรม”
ขู่สอบ “เรืองไกร–ศรีสุวรรณ” มั่ง
“หรือสื่อจะเป็นตัวแทนเรืองไกร (นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ) ศรีสุวรรณ (นายศรีสุวรรณ จรรยา) อีกคน มันทำงานอะไรวันวันหนึ่ง มันมาฟ้องกันทุกวัน มีงานทำหรือเปล่า ทำมูลนิธิเหรอ เดี๋ยววันหลังต้องไปสอบสองคนนี้บ้าง ทำอาชีพอะไร มีรายได้จากที่ไหน วันวันทำงานกันอย่างไร อาชีพสุจริตหรือเปล่า สื่อไปฟ้องแทนผมหน่อยสิ ผมไม่อยากยุ่งกับเขา กระบวนการตรวจสอบเขาก็เดินหน้าไป ไม่ใช่มาประโคมข่าวสร้างความสำคัญ ผมเองยังไม่พยายามพูดถึงโครงการรับจำนำข้าว มันก็พูดกันอยู่นั่น กลับมาย้อนผมทุกเรื่อง ต้องไปสู้ที่กระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่มาสู้ตามสื่อ ผมก็ไม่ได้ตอบโต้ให้น้องผมทางสื่อ ไปว่ากันที่กระบวนการ ผิดก็คือผิด” นายกฯกล่าว
รับ “บิ๊กติ๊ก” มาขอโทษแล้ว
เมื่อถามว่า พล.อ.ปรีชาได้มาขอโทษหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ธรรมดา เขามาขอโทษ บอกว่าไม่ได้ทำความผิด เพียงแต่บางอย่างอาจไม่สมควร เขายอมรับตรงโน้น แต่เรื่องของบริษัทเขาบอกว่าเตรียมหลักฐานไว้เต็มที่ ตนยังไม่รู้ว่าเขามีบริษัท ตั้งมาหลายปีแล้ว หลานก็โตแล้ว ไม่เจอหน้ามากี่ปีแล้ว ตนเป็นคนไม่ค่อยเจอครอบครัวเพราะทุ่มเวลาให้กับงานมาตลอด รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้อยู่กับครอบครัว พ่อแม่พี่น้องตั้งแต่เด็ก แต่ความผูกพันยังเหมือนเดิม สายเลือดมันต้องมีอยู่แล้ว แต่หน้าที่เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด ลดปัญหาความขัดแย้งให้มากที่สุด ใครทำอะไรก็ต้องระวังตัวเอง รับผิดชอบกันเองก็แค่นั้น
“เดี๋ยวถ้าผมทำอะไรผิด พล.อ.ปรีชาก็ต้องรับผิดชอบแทนผมสิ แล้วสื่อก็ต้องไปถาม พล.อ.ปรีชา เขาบอกว่าเขาจะทำให้ดีที่สุด ผิดพลาดอะไรก็ไปว่ากันมา เขาก็ยอมรับในกระบวนการสอบสวนก็จบแค่นั้น อย่าไปเพิ่มปัญหาหรือภาระ ผมไม่ได้ปกปิด มีก็มีก็รับกันไป”
เมื่อถามว่าจะทำให้เครดิตนายกฯถูกมองทางลบหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เครดิตตนคือของตน ไม่เกี่ยวกับคนอื่น ทำด้วยตัวเอง ด้วยรัฐบาล ต้องไปรับผิดชอบรัฐมนตรีทุกคน ญาติพี่น้องอะไรอีกหรือต่างคน ต่างทำรับผิดชอบกันเอง ตนรับผิดชอบในงานของชาติ และดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ไม่เช่นนั้นจะพันกันไปหมด
ขอขอบคุณข่าวจาก