- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- เปิดตัว"เซฟเฮ้าส์" NBT(ช่อง 11) ในวันถูกม็อบยึดแต่ยังออกอากาศได้?
เปิดตัว"เซฟเฮ้าส์" NBT(ช่อง 11) ในวันถูกม็อบยึดแต่ยังออกอากาศได้?
"..บทบาทของ NBT(ช่อง11) มีความชัดเจนในการทำหน้าที่ที่ต้องนำเสนอข่าวและข้อมูลเชิงบวก เป็นกระบอกเสียงให้กับรัฐบาล เป็นแบบนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ทุกครั้งที่มีการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาล NBT(ช่อง11) มักจะอยู่ในรายชื่อสื่ออันดับหนึ่ง ที่ผู้ชุมนุมจะต้องเดินทางไปบุกยึด เพื่อสกัดกันการทำหน้าที่สื่อ ของรัฐดังกล่าว.."
ในช่วงที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ได้มีคำสั่ง ‘ม็อบนกหวีด’ เดินอารยะ"ดาวกระจาย" กำลังไปบุกยึดสถานีโทรทัศน์ ‘ฟรีทีวี’ ช่องต่าง ๆเพื่อเจรจาต่อรองให้สถานีโทรทัศน์เหล่านั้นถ่ายทอดสดแถลงการณ์ของ กปปส.
NBT(ช่อง11) เป็นสถานีหนึ่งที่ไม่ยอมปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม และถึงแม้ว่า นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. ประกาศให้มวลชนเข้ายึดภายในตัวอาคาร และให้เจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่อย่างสงบ (ก่อนจะคืนพื้นที่ในภายหลัง)
แต่ NBT(ช่อง 11) ก็ยังสามารถออกอากาศต่อไปได้
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการยืนยันข้อมูลจากคนใน NBT (ช่อง11) ว่าสาเหตุที่ NBT (ช่อง 11) ยังสามารถออกอากาศต่อไปได้ แม้จะถูกบุกยึด เป็นเพราะผู้บริหารได้วางแผนแก้ไขปัญหา ด้วยการขนเครื่องส่งสัญญาณหนีออกไปก่อนหน้าเเล้ว
“ก่อนหน้าที่จะมีการบุกเข้ายึด ผู้บริหารระดับสูง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ขนเครื่องส่งสัญญาณออกไปก่อน โดยไปใช้ สตูดิโอเก่าของช่อง 11 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นฐานจุดออกอากาศ ส่วนการประกาศของศอ.รส ใช้รถโอบียิงสัญญาณ จึงทำให้สามารถออกอากาศได้ต่อเนื่องไม่มีปัญหา”
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ระบุว่า NBT หรือสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (The National Brodcasting Sevices of Thailand : NBT) เป็นหน่วยงานสถานีวิทยุโทรทัศน์ของรัฐบาล มีสถานะเป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติของประเทศไทย สังกัดกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับดูแล
มีสถานีโทรทัศน์ตามเขตต่างๆถึง 8 เขต แต่ละเขตเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมของตัวเองไว้ได้ แก่ เขต 1 ขอนแก่น เขต 2อุบลราชธานี เขต 3 เชียงใหม่ เขต 4 พิษณุโลก เขต 5 สุราษฎร์ธานี เขต 6 หาดใหญ่ เขต 7 จันทบุรี เขต 8 กาญจนบุรี
ทั้งนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันคือ “วราเทพ รัตนากร” ส่วนปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีคือ “ธงทอง จันทรางศุ”
จากการตรวจสอบพบอีกว่า “ม็อบ” ที่เข้าบุกยึด “NBT” ในครั้งนี้ ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรก แต่เคยเกิดขึ้นแล้วในสมัย “สมัคร สุนทรเวช” เป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคพลังประชาชน (พปช.) เป็นรัฐบาล
โดยเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ก็ได้ทำการบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งนี้มาแล้ว นำโดย “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” และ “อมร อมรรัตนานนท์” ได้พังประตูรั้วเข้ายึดที่ทำการของ NBT ตลอดจนห้องส่งกระจายเสียง และห้องส่งออกอากาศ
นอกจากนี้ยังยุติการส่งกระจายเสียงของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 92.5 และ 97.0 Mhz และได้พยายามนำสัญญาณโทรทัศน์ของ “ASTV” มาออกอากาศแทน
ขณะที่พนักงานฝ่ายข่าว นำโดย “ตวงพร อัศววิไล” “จิรายุ ห่วงทรัพย์” “สร้อยฟ้า โอสุคนธ์ทิพย์” “อดิศักดิ์ ศรีสม” “วรวีร์ วูวนิช” และ “กฤต เจนพานิชการ” ยังพยายามในการออกอากาศรายการข่าวทาง “NBT” อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามวันเดียวกันนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศถอนกำลังออกจาก “NBT” เนื่องจากความพยายามเชื่อมต่อสัญญาณ “ASTV” ไม่ประสบผลสำเร็จ
ขณะที่พนักงานฝ่ายข่าวในขณะนั้น ปัจจุบันบางคนได้เข้าไปทำงานในฝ่ายรัฐบาล หรือบางคนเข้าไปอยู่ในสังกัดสื่อที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า “เข้าข้าง” รัฐบาลอีกเช่นกัน และสื่อบางแห่งที่มีความใกล้ชิด “นายใหญ่” เป็นอย่างยิ่ง ?
เป็นที่น่าสังเกตว่า การบุกยึด “NBT” นั้น มักเกิดจากกลุ่มผู้ชุมนุมของฝ่าย “ต่อต้านระบอบทักษิณ” เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ขณะที่การชุมนุมของ “กลุ่มคนเสื้อแดง” เมื่อปี 2553 กลับไม่มีการบุกเข้าไปยึดแต่อย่างใด
ทั้งนี้ การรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ “NBT” ก็เป็นที่ยอมรับกันอยู่แล้วว่า จะต้องนำเสนอข้อมูลในทางบวกแก่รัฐบาล ไม่มีความเป็นกลางตามหลักการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน เพราะเป็นสื่อในสังกัดของรัฐ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมประชาสัมพันธ์
และในการชุมนุมปี 2556 เอ็นบีที ก็ยังทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงแทนรัฐบาลอย่างสุดความสามารถ ตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากเบื้องบน
หลักฐานปรากฏชัดเจน ในบันทึกสั่งการของ นางดวงมาลย์ ศรีกิจวิไลกุล รักษาการผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่ (ร.ผอ.สปข.3) ได้ ทำบันทึกข้อความถึง ผอ.สทท.เชียงใหม่ , ผอ.สวท.สปข.3 และผอ.สวศ.สปข.3 เรื่อง ขอให้กำกับดูแลการนำเสนอข่าว เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556
โดยระบุว่า ด้วยท่าน รปส. (นายประวิน พัฒนะพงษ์ รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์) ได้แจ้งเตือนให้ผู้บริหารหน่วยงานในกรมประชาสัมพันธ์ ( กปส.) ได้กำกับดูแลการเสนอข่าวผู้ชุมนุม โดยเน้นการนำเสนอข้อมูลเชิงบวกต่อราชการ ความต้องการของผู้ชุมนุมที่ทางราชการได้สนองตอบอันเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย รวมทั้งมาตรการในการป้องกันด่านต่างๆ โดยไม่เน้นการนำเสนอเกี่ยวกับจำนวนผู้ร่วมชุมนุม
แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าว ส่อว่าจะเป็นการขัดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 46 ระบุถึงเรื่องข้อห้ามการกระทำการกระทำใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าของกิจการ อันเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซงการเสนอข่าวหรือแสดงความคิดเห็น ให้ถือว่าเป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและไม่มีผลใช้บังคับ เว้นแต่เป็นการกระทำเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายหรือจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพก็ตาม
(อ่านประกอบ:สั่งคุมเข้ม"สื่อรัฐ"เสนอข่าวม็อบเน้น"ด้านบวกรัฐบาล”-ส่อขัดรธน.มาตรา 46)
และเมื่อบทบาทของ NBT(ช่อง11) มีความชัดเจนในการทำหน้าที่ที่ต้องนำเสนอข่าวและข้อมูลเชิงบวก เป็นกระบอกเสียงให้กับรัฐบาล แบบนี้
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ทุกครั้งที่มีการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาล NBT(ช่อง11) มักจะอยู่ในรายชื่อสื่ออันดับหนึ่ง
ที่ผู้ชุมนุมจะต้องเดินทางไปบุกยึด เพื่อสกัดกันการทำหน้าที่ "สื่อ" ของรัฐดังกล่าว
บางครั้งก็เสี่ยงต่อการถูกเผาทำลายทรัพย์สินให้เกิดความเสียหาย
ดังนั้น "ผู้บริหาร" จึงต้องมีการวางแผนรับมือกับสถานการณ์อันตรายที่จะเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะการหาสถานที่สำรองฉุกเฉิน (ขณะที่สถานีั้ทั้ง 8 เขต ก็สามารถใช้เป็นจุดออกอากาศทดแทนกันได้) เพื่อให้สามารถทำงานต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง
ดังเช่นที่เกิดขึ้นกับในการชุมนุมปี 2556 ที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ
และทำให้ NBT ยังทำหน้าที่เป็น "ปากกระบอกเสียง" ชั้นดี ให้กับรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้