- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- รวมประกาศกฎอัยการศึกฉบับ "พลเอกประยุทธ์"
รวมประกาศกฎอัยการศึกฉบับ "พลเอกประยุทธ์"
ดูชัดๆ ประกาศกฎอัยการศึก ฉบับ "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" ผู้บัญชาการทหารบก สั่ง ศอ.รส. ยุติหน้าที่ ตั้ง กอ.รส.ดูแลแทน ย้ำ ขอให้ทุกกลุ่มทุกฝ่ายหยุดการเคลื่อนไหว

หมายเหตุ : เมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ออกประกาศกองทัพบก ฉบับที่ 1/2557 เรื่องการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก และมีคำสั่งให้ศูนย์อำนวยการรักษาความเรียบร้อย (ศอ.รส.) ยุติหน้าที่ในทันที
จากนั้น กองทัพบกได้ออกประกาศฉบับที่ 2/2557 เรื่องการจัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) โดยมีผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้อำนวยการ มีหน้าที่ป้องกันระงับ ยับยั้ง และแก้ไขสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความสงบและความมั่นคงของประเทศ มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายทุกมาตราใน พ.ร.บ.กฎอัยการศึก และมีอำนาจเชิญบุคคลมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่
ต่อมาเวลา 08.40 น. กอ.รส. ได้ออกประกาศเพิ่มเติมอีก 4 ฉบับ ประกอบไปด้วย
ฉบับที่ 1 ควบคุมเรื่องการถ่ายทอดออกอากาศของสถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีวิทยุโทรทัศน์ และสถานีวิทยุชุมชน
ฉบับที่ 2 ควบคุมให้กลุ่มมวลชนชุมนุมในพื้นที่กำหนด
ฉบับที่ 3 ห้ามการเสนอข่าว แจกจ่าย จำหน่ายสิ่งพิมพ์ที่ส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ
ฉบับที่ 4 เชิญบุคคลสำคัญ ประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด เข้าพบในช่วงเวลา 14.00 น. วันที่ 20 พ.ค.นี้
ฉบับที่ 5 แต่งตั้งคณะที่ปรึกษา กอ.รส. ประกอบไปด้วย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด,ผู้บัญชาการทหารเรือ,ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ฉบับที่ 6 ขอความร่วมมือระงับการถ่ายทอดออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม และสถานีวิทยุชุมชน เพื่อให้การเผยแพร่ข่าวสารเป็นไปด้วยความถูกต้อง
1.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มวี 5
2.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมดีเอ็นเอ็น
3.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมยูดีดี
4.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอเชียอัพเดท
5.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีแอนด์พี
6.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมโฟร์ชาแนล
7.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมบลูสกาย
8.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอฟเอ็มทีวี
9.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมทีนิวส์
10.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอเอสทีวี
และ 11. สถานีวิทยุชุมชนที่ไม่ได้รับการจัดตั้งขึ้นตามกฎหายที่กำหนด
ฉบับที่ 7 ขอความร่วมมือระงับถ่ายทอดสดออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมและสถานีวิทยุชุมชนเพิ่มเติม ได้แก่ ฮ็อตทีวี , ว๊อยซ์ทีวี ,เร็สคิ้ว และเครือข่าวนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)
ฉบับที่ 8 ขอความร่วมมือจากสื่อสังคมออนไลน์
ฉบับที่ 9 ห้ามสร้างความขัดแย้งหรือต่อต้านการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย
ฉบับที่ 10 ห้ามพกพาหรือใช้อาวุธสงครามหรือวัตถุระเบิด
(ดูประกาศท้ายข่าว)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประกาศกฎอัยการศึก เป็นไปตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 ซึ่งได้ตราขึ้นไว้สำหรับประกาศใช้เมื่อมีเหตุจำเป็นเพื่อรักษาความสงบ เรียบร้อยในบ้านเมือง เช่น ในกรณีเกิดสงคราม การจลาจล โดยมีการกำหนดเขตพื้นที่ที่จะใช้บังคับ และเมื่อจะยกเลิกการบังคับใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ใดจะต้องประกาศออกมาเป็น พระบรมราชโองการ
ทั้งนี้ สำหรับผู้มีอำนาจประกาศกฎอัยการศึกนั้น พ.ร.บ.กฎอัยการศึกฯ มาตรา 4 ระบุว่า "เมื่อมีสงครามหรือจลาจลขึ้น ณ แห่งใดให้ผู้บังคับบัญชาทหาร ณ ที่นั้น ซึ่งมีกำลังอยู่ใต้บังคับไม่น้อยกว่าหนึ่งกองพัน หรือเป็นผู้บังคับบัญชาในป้อมหรือที่มั่นอย่างใด ๆ ของทหารมีอำนาจประกาศใช้กฎอัยการศึก เฉพาะในเขตอำนาจหน้าที่ของกองทหารนั้นได้ แต่จะต้องรีบรายงานให้รัฐบาลทราบโดยเร็วที่สุด"
อำนาจทหารเมื่อประกาศใช้กฎอัยการศึก ตามมาตรา 6 ระบุว่า "ในเขต ที่ประกาศใช้กฎอัยการศึก ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอำนาจเหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนในส่วนที่เกี่ยว กับการยุทธ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อยและเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความ ต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร"
ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ระบุว่า กฎอัยการศึก (อังกฤษ: martial law) เป็นกฎหมายซึ่งได้ตราขึ้นไว้สำหรับประกาศใช้เมื่อมีเหตุจำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เช่น ในกรณีเกิดสงคราม การจลาจล ในเขตที่ประกาศใช้กฎอัยการศึก เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอำนาจหน้าที่เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนในส่วนที่เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปรามหรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาบางอย่างที่ประกาศระบุไว้แทนศาลพลเรือน
กฎอัยการศึกเป็นกฎหมายที่มีอยู่ในเวลาปกติ แต่ไม่ได้ใช้บังคับ โดยเมื่อจะใช้บังคับจะต้องประกาศ และกำหนดเขตพื้นที่ที่จะใช้บังคับ ในหลายประเทศจะไม่มีการตราเป็นกฎหมายชัดเจน เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ในบางประเทศจะตราเป็นกฎหมายชัดเจน เช่น ฝรั่งเศส ไทย
กฎอัยการศึก ในประเทศอังกฤษเริ่มใช้เมื่อ ค.ศ. 1628 (พ.ศ. 2151) และฝรั่งเศสมีกฎอัยการศึกใช้ตั้งแต่ ค.ศ. 1849 (พ.ศ. 2392)
กฎอัยการศึกของไทย มีศักดิ์เทียบเท่ากับ พระราชบัญญัติ ตราขึ้นครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2450 เรียกว่า กฎอัยการศึก ร.ศ. 126 มีทั้งสิ้น 9 มาตรา โดยถอดแบบมาจากกฎอัยการศึกของประเทศฝรั่งเศส ต่อมาใน พ.ศ. 2457 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าอำนาจของทหารตามกฎอัยการศึก ร.ศ. 126 นั้นยึดตามแบบฝรั่งเศส แต่ไทยใช้ตำราพิชัยสงครามตามแบบอินเดีย ซึ่งไม่สอดคล้องกัน จึงทรงยกเลิกกฎอัยการศึก ร.ศ. 126 และตรา กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 ขึ้นใช้แทน มีทั้งสิ้น 17 มาตรา และยังคงใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้ มีการแก้ไขเพิ่มเติมรวม 5 ครั้ง
การยกเลิกการบังคับใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ใด จะต้องประกาศออกมาเป็นพระบรมราชโองการ
(ดูประกาศประกอบ)
-ฉบับที่ 1-

-ฉบับที่ 2-

ประกาศ กอ.รส.
-ฉบับที่ 1-
-ฉบับที่ 2-

-ฉบับที่ 3-
-ฉบับที่ 4-
-ฉบับที่ 5 -

-ฉบับที่ 6-
-ฉบับที่ 7-
-ฉบับที่ 8-
-ฉบับที่ 9-
-ฉบับที่ 10-
-ฉบับที่ 12-
