ปิดแฟ้มคดีปกปิดทรัพย์สินในศาลฎีกาฯปี 57 ฟัน 28 คน-นักการเมืองท้องถิ่นอื้อ

ปิดแฟ้มคดีปกปิดบัญชีทรัพย์สินในศาลฎีกาฯรอบปี 2557 นักการเมือง-จนท.รัฐถูกเชือดเว้นวรรค 5 ปี จำคุก อื้อ 28 ราย อบต. เทศบาล สจ. มากสุด 24 คน -บอร์ดรัฐวิสาหกิจ 2 - ส.ส. เลขาฯรมต.ก็มี “แซม-ยุรนันท์”พระเอก รอดคนเดียว

ในรอบปี 2557 (ม.ค.-ธ.ค.) มีนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษา “มีความผิด”ในคดีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.จำนวน 28 คดี (คน) จากจำนวนทั้งสิ้น 29 คดี (คน) และมีคดีร่ำรวยผิดปกติ 1 คดี

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลมาเสนอดังนี้

ในจำนวน ผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีไม่ยื่นบัญชีฯรวมทั้งยื่นบัญชีฯเท็จ 28 ราย จำแนกเป็น

หนึ่งนักการเมืองท้องถิ่น 24 ราย

ในจำนวนนี้เป็น ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ได้แก่ นายก อบต. ที่ปรึกษา นายกอบต.รองนายก อบต. และเลขานุการนายกอบต. จำนวน 16 ราย

1.นายอภิวัฒน์ ยางเดิม นายก อบต. บ้านยาง จ.นครปฐม (พิพากษาวันที่ 23 ม.ค.57)

2.นายเล็ก แผนใหญ่ รองนายก อบต.ถนนขาด จ.นครปฐม (23 ม.ค.57)

3.นายถวัลย์ บุญศรี รองนายก อบต.ศีรษะทอง จ.นครปฐม (28 ม.ค.57)

4.นายสมหวัง ติเอียดย่อ รองนายก อบต. สะกอม อําเภอเทพา จังหวัดสงขลา (28 ม.ค.57)

5.นายจง ปาเจริญ รองนายก อบต. ห้วยพระ จ.นครปฐม (27 มี.ค.57)

6.นายสมพงษ์ เกตุนิล รองนายก อบต. มะขามสูง จ.พิษณุโลก (4 ก.ค.57)

7.นายพะเยาว์ มั่นคง เลขานุการนายก อบต.บ้านยาง จ.นครปฐม (4 ก.ค.57)

8.นายศรันย์วิทย์ เย็นใจ (เดิมชื่อ นายธีรพงศ์ เย็นใจ) นายก อบต.บางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม (10 มิ.ย.57)

9.นายบรรทูล สนน้อย รองนายก อบต.วัดละมุด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม (10 มิ.ย.57)

10.นายทวีศักดิ์ คงแท่น เลขานุการนายก อบต.ไชยราช จ.ประจวบคีรีขันธ์ (10 มิ.ย.57)

11.นายสุพจน์ พันบุญมี นายก อบต. บ้านหลวง อ.ดอนตูม จ.นครปฐม (28 ส.ค.57)

12.นายสกล ชูศิลป์กุล เลขานุการนายก อบต. กำแพงแสน จ.นครปฐม (28 ส.ค.57)

13.นายวิโรจน์ ทองทิพย์ รองนายก อบต. สินปุน อ.เขาพนม จ.กระบี่ (29 ส.ค.57)

14.นายสราวุธ ชูทับทิมนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางพระ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา (9 ก.ย.57)

15.นายณัฐวัฒน์ ชั้นอินทร์งาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล บางระกำ จ.นครปฐม (11 ก.ย.57)

16.นายวิชล แก้วถาวร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางพระ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา 25 ก.ย.57

เทศบาล 5 ราย คือ

1.นายสมบัติ ภู่งาม ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลบ้านกรูด จ.ประจวบคีรีขันธ์ (พิพากษา 23 ม.ค.57)

2.นางสาวปนัสญา ชูสาย ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลคลองวาฬ จ.ประจวบคีรีขันธ์(พิพากษา 23 ม.ค.57)

3.นายอิศรา กาญจนรัตน์ รองนายกเทศมนตรี ตำบลบ้านกรูด (พิพากษา 23 ม.ค.57)

4.นายเสวก สิงคบุรี สมาชิกสภาเทศบาล ปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช 27 มี.ค.57 ศาลพิพากษา ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ไม่ถูกจำคุก และ

5.นายอัครชพล วิเศษ รองนายกเทศมนตรีตำบลหัวถนน จ.ชลบุรี (19 พ.ค.57)

สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) 3 ราย คือ

1.นายธันว์ ออสุวรรณ สมาชิก อบจ. ประจวบคีรีขันธ์ (ต่อมาเป็นสมาชิกวุฒิสภา จ.ประจวบฯ) จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ และจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่ 18 ม.ค.51 อันเป็นวันพ้นจากตำแหน่ง ส.จ.ประจวบคีรีขันธ์

2.นายทวีศักดิ์ ฐานบัญชา สมาชิก อบจ. สุพรรณบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. กรณีพ้นจากตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ศาลตัดสิน 13 มิ.ย.57 ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่ 14 มี.ค.51

2.นายอิทธิพงษ์ พลบุตร สมาชิก อบจ.เพชรบุรี ศาลตัดสิน 11 เม.ย.57 ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่ 14 มี.ค.51 จำคุก 2 เดือน และปรับ 4,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

สอง นักการเมืองระดับชาติ 2 คน

1.นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร์ ส.ส. นครนายก ไม่แจ้งการถือครองหุ้นที่อยู่ในชื่อของบุคคลอื่น 19 พ.ค.57 ศาลพิพากษา ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นเวลาห้าปีนับแต่ 10 พ.ค.54 จำคุก 2 เดือน และปรับ 4,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษคงจำคุก 1 เดือน และปรับ 2,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้คัดค้านได้รับโทษจาคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1ปี

2.นายจตุพัฒน์ บารมี ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทย (เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย -นายสิทธิชัย โควสุรัตน์) จงใจยื่นบัญชีฯเท็จกรณีถือครองหุ้นแทนนายพิบูลย์ อัศวเหม มูลค่า 60 ล้านบาท แต่ไม่แจ้ง ป.ป.ช. ศาลสั่ง จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 4,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 8,000 บาท นายจตุพัฒน์ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ในการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่านายจตุพัฒน์ได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

สาม กรรมการรัฐวิสาหกิจ 2 คน

1. นายเรืองฤทธิ์ ภู่ประเสริฐ กรรมการ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ถูกพิพากษาเมื่อ 27 มี.ค.57 ห้ามดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันพ้นจากตำแหน่ง (31 ต.ค.54) ผู้คัดค้านมีความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 4,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 8,000 บาท -ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้คัดค้านได้รับโทษจาคุกมาก่อนโทษจาคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

2. นายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ กรรมการบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ถูกตัดสินเมื่อ 13 ส.ค.57 ห้ามดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเวลาห้าปี นับแต่ 21 ก.ย.52 วันพ้นตำแหน่ง และ จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 4,000 บาท รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 6 เดือน และปรับ 12,000 บาท-ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน และปรับ 6,000 บาท ไม่ปรากฏว่าได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

ในจำนวน 28 รายมีความผิดยื่นบัญชีฯเท็จ 3 รายคือ คือนายธันว์ ออสุวรรณ นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร และ นายจตุพัฒน์ บารมี ที่เหลือ 25 รายไม่ยื่นบัญชีฯ

ในคดีไม่แจ้งทรัพย์สินและปกปิดบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ทั้งหมด 29 ราย มี 1 รายที่ศาลฎีกาฯตัดสินไม่มีความผิดคือ นายยุรนันท์ ภมรมนตรี อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ถูกยื่นคำร้องในข้อหาปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. กรณีถือครองหุ้นมูลค่า 14 ล้านบาท ศาลฎีกาฯมีมติ 6 ต่อ 3 เสียงเห็นว่านายยุรนันท์ไม่จงใจปกปดบัญชีทรัพย์สิน เมื่อ 19 ส.ค.57

ส่วนคดีร่ำรวยผิดปกติ นักการเมืองรายเดียว ที่ถูกตัดสินในข้อหาร่ำรวยผิดปกติคือ น.ส.นฤมล หรือณัฐกมล หรือณฐกมล หรืออินทร์ริตา นนทะโชติ หรือนนทะวัชรศิริโชติ จำนวน 68,104,0000 บาท ให้ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติเป็นของแผ่นดิน เมื่อ 4 ธ.ค.57