logo isranews

logo small 2

เปิดสัญญาเงินกู้“เมียสุนัย”ปล่อยให้บริษัท“ตัวเอง-สามี”7.9 ล้าน

เขียนวันที่
วันจันทร์ ที่ 30 มิถุนายน 2557 เวลา 14:35 น.
เขียนโดย
isranews

เปิดสัญญาเงินกู้“เมียสุนัย จุลพงศธร” ปล่อยให้บริษัท“ตัวเอง-สามี” แปลงหนี้เงินต้นบวกดอกเบี้ย 8.9 ล้าน ใช้เงินสดชำระแล้ว 1 ล้าน เหลือ 7.9 ล้าน ผ่อนเดือนละแสน ดอกเบี้ย 7.5% แต่งบดุลมีเงิน 8 แสน 

sunisiis

นายสุนัย จุลพงศธร อดีต ส.ส.นครสวรรค์และบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชาชนและพรรคไทยรักไทย ได้แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีรับตำแหน่ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชาชน วันที่ 22 ม.ค.2551 ระบุนางเสาวลักษณ์ จุลพงศธร ภรรยา มีเงินให้กู้ยืม บริษัท คุ้มร่วมใจ จำกัด 7,910,869.09 บาท โดยทำสัญญากู้ยืมวันที่ 1 เมษายน 2549 (ระบุว่าเป็นสัญญาแปลงหนี้ใหม่) บริษัทดังกล่าวมีนายสุนัยกับนางเสาวลักษณ์เป็นเจ้าของ แต่ทว่าหนี้สินดังกว่าไม่ปรากฎในงบดุลบริษัท คุ้มร่วมใจ จำกัด ที่ยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

(อ่านประกอบ:“สุนัย”ปล่อยกู้บริษัท“ตัวเอง-เมีย” ไม่พบในบัญชีงบดุล ก่อนปิดกิจการ)

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำสัญญาเงินปล่อยกู้ของนางเสาวลักษณ์ จุลพงศธรที่ปล่อยกู้ให้บริษัท คุ้มร่วมใจ จำกัด ซึ่งปรากฏในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. วันที่ 22 ม.ค.2551 มีรายละเอียดดังนี้ 

สัญญาแปลงหนี้ใหม่ ทำที่ 1350/2 อาคารร่วมใจแมนชั่น วันที่ 1 เมษายน 2549

สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง บริษัท คุ้มร่วมใจ จำกัด โดยนายสุนัย จุลพงศธร ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า“ผู้กู้” ฝ่ายหนึ่ง กับ นางเสาวลักษณ์ จุลพงศธร ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ให้กู้” อีกฝ่ายหนึ่ง คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันดังต่อไปนี้

1.คู่สัญญาตกลงยกเลิกสัญญากู้ยืมเงินปรากฏรายละเอียดตามข้อ 1.1 – 1.8 จำนวน 8 ฉบับ ดังต่อไปนี้ และให้ใช้ข้อตกลงตามสัญญาแปลงหนี้ใหม่ฉบับนี้แทน

1.1 สัญญากู้เงินลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2536 จำนวนเงิน 1,300,000 บาท ชำระหนี้แล้ว 1,000,000 บาท ตามใบประจำต่อ ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2544 คงเหลือ 300,000 บาท มีดอกเบี้ยค้างชำระจนถึง ปัจจุบัน 292,500 บาท
1.2 สัญญากู้เงินลงวันที่ 15 มกราคม 2538 จำนวนเงิน 810,000 บาท มีดอกเบี้ยค้างชำระจนถึงปัจจุบัน 668,250 บาท
1.3 สัญญากู้เงินลงวันที่ 15 มกราคม 2539 จำนวนเงิน 730,000 บาท มีดอกเบี้ยค้างชำระจนถึงปัจจุบัน 547,500 บาท
1.4 สัญญากู้เงินลงวันที่ 31 ตุลาคม 2539 จำนวนเงิน 1,000,000 บาท มีดอกเบี้ยค้างชำระจนถึงปัจจุบัน 712,500 บาท
1.5 สัญญากู้เงินลงวันที่ 6 ธันวาคม 2539 จำนวนเงิน 600,000 บาท มีดอกเบี้ยค้างชำระจนถึงปัจจุบัน 405,000 บาท
1.6 สัญญากู้เงินลงวันที่ 9 ธันวาคม 2539 จำนวนเงิน 100,000 บาท มีดอกเบี้ยค้างชำระจนถึงปัจจุบัน 67,500 บาท
1.7 สัญญากู้เงินลงวันที่ 13 มกราคม 2540 จำนวนเงิน 700,000 บาท มีดอกเบี้ยค้างชำระจนถึงปัจจุบัน 472,500 บาท
1.8 สัญญากู้เงินลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2540 จำนวนเงิน 898,575 บาท มีดอกเบี้ยค้างชำระจนถึงปัจจุบัน 606,540 บาท

รวมเงินต้นที่ผู้กู้ค้างชำระผู้ให้กู้ทั้งสิ้น เป็นเงินจำนวน 5,138,578 บาท รวมดอกเบี้ยค้างชำระทั้งสิ้นจำนวน 3,772,290บาท

2.ผู้กู้ตกลงชำระเงินที่ค้างชำระตามสัญญาดังกล่าวในข้อ 1. พร้อมดอกเบี้ยให้แก้ผู้ให้กู้ตามสูตรการคำนวณดอกเบี้ยดังนี้
(ปรากฏตามเอกสารในข้อ 2)

sduu01

 

suuu02

รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น (5,138,578 + 3,772,290) = 8,910,869 บาท

ผู้กู้ได้นำเงินสดจำนวน 1,000,000 บาท มาชำระหนี้เงินที่ค้างชำระพร้อมดอกเบี้ยดังกล่าวบางส่วน ซึ่งผู้ให้กู้ได้รับเงินชำระหนี้บางส่วนจำนวน 1,000,000 บาท ไว้ถูกต้องเรียบร้อยแล้ว คงเหลือเงินที่ค้างชำระ รวมทั้งสิ้น 7,910,869 บาท

3.หนี้เงินที่ค้างชำระดังกล่าว ผู้กู้ตกลงชำระให้แก่ผู้ให้กู้เป็นงวด ๆ ละ 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย ซึ่งแต่ละงวดจะต้องชำระภายในวันที่ 30 ของเดือนปฏิทิน เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2549 เป็นต้นไป

4.ผู้กู้ตกลงชำระดอกเบี้ยแก่ผู้ให้กู้ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในจำนวนเงินที่ค้างชำระ

5.ในกรณีที่ผู้กู้ผิดนัด ไม่ชำระหนี้ที่ค้างชำระดังกล่าวในข้อ 3 เป็นระยะเวลารวมกันเกินกว่า 1 ปี ผู้ให้กู้มีสิทธิเรียกให้ผู้กู้ชำระหนี้ทั้งหมด หรือบางส่วนพร้อมดอกเบี้ยได้โดยพลัน

6.หากผู้กู้ผิดข้อตกลงข้อใดข้อหนึ่งแห่งสัญญานี้ ผู้กู้ยินยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายบรรดาที่ผู้ให้กู้จะพึงได้รับอันเนื่องมาจากการผิดข้อตกลงดังกล่าว รวมทั้งจ่ายค่าใช้จ่ายในการเตือนทวงถามให้ชำระหนี้ตลอดจนค่าฤาชาธรรมเนียม ค่าทนายความ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีให้ชำระหนี้ตามสัญญานี้ให้แก่ผู้ให้กู้ด้วย

สัญญาได้ทำขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน ให้คู่สัญญาถือไว้ฝ่ายละหนึ่งฉบับ คู่สัญญาได้อ่านและเข้าใจในสัญญานี้โดยตลอดแล้ว จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน

ลงชื่อ บริษัท คุ้มร่วมใจ จำกัด โดยนายสุนัย จุลพงศธร ผู้กู้
ลงชื่อ นางเสาวลักษณ์ จุลพงศธร ผู้ให้กู้
ลงชื่อ น.ส.แป๋ว คงอยู่เย็น พยาน
ลงชื่อ นางสมสุข คุมพ์ประพันธ์ พยาน (แม่นางเสาวลักษณ์ จุลพงศธร)

ทั้งนี้ ในท้ายสัญญา นายสุนัย เขียนข้อความพร้อมลงลายเซ็น ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับชำระหนี้แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม สัญญาระบุว่า “ผู้กู้ได้นำเงินสดจำนวน 1,000,000 บาท มาชำระหนี้เงินที่ค้างชำระพร้อมดอกเบี้ยดังกล่าวบางส่วน ซึ่งผู้ให้กู้ได้รับเงินชำระหนี้บางส่วนจำนวน 1,000,000 บาท ไว้ถูกต้องเรียบร้อยแล้ว คงเหลือเงินที่ค้างชำระ รวมทั้งสิ้น 7,910,869 บาท”

จากการตรวจสอบงบดุล บริษัท คุ้มร่วมใจ จำกัด ย้อนหลัง ปี 2546 ระบุว่ามีเงินสดและเงินฝากธนาคาร 86,314 บาท

ปี 2547 มีเงินสดและเงินฝากธนาคาร 77,372 บาท
ปี 2548 มีเงินสดและเงินฝากธนาคาร 476,540 บาท
ปี 2549 มีเงินสดและเงินฝากธนาคาร 804,593.75 บาท

น่าสังเกตว่า บริษัทฯเอา “เงินสด”จากไหนมาชำระหนี้งวด 1 ล้านบาทตามที่ระบุในสัญญาข้างต้น