logo isranews

logo small 2

เปิดชื่อ-ข้อหากราวรูด“บิ๊ก รมต.-แกนนำ นปช.”ปราศรัยขู่ป.ป.ช.-แยกประเทศ?

เปิดชื่อ-ข้อกล่าวหา ปม “ยิ่งลักษณ์-จารุพงศ์-ณัฐวุฒิ” กับพวก ปราศรัยบนเวที นปช. ที่โคราช ข่มขู่องค์กรอิสระ-ศาล แบ่งแยกประเทศ สะสมกองกำลังล้อม ป.ป.ช. ยกเลิก รธน.ปี’50 พบ “ธาริต” ติดโผ เหตุไม่ยอมดำเนินคดี “แกนนำ นปช.” โดนเพียบ

PIC nacc 15 6 58 1

“จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” อดีต รมว.มหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นหนึ่งในบุคคลที่พัวพันในชั้นการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

อาจเรียกได้ว่า มากติดอันดับต้น ๆ ของนักการเมืองทั้งหมด

ล่าสุด เพิ่งถูกสำนักงาน ป.ป.ช. แจ้งคำสั่งตั้งองค์คณะไต่สวน ที่มีกรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 9 คน เป็นองค์คณะ กรณีเป็นหนึ่งในผู้ยุยงปลุกปั่นให้มีการแบ่งแยกประเทศ และข่มขู่องค์กรอิสระ

แต่ “จารุพงศ์” ก็ไม่ได้มารับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด

(อ่านประกอบ : 'จารุพงศ์-แกนนำกวป.'ยังไม่รับหนังสือ ป.ป.ช.ลุยสอบปมปราศรัยแยกปท.)

เพราะอย่างที่รู้กันอยู่ว่า หลบหนีคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปอยู่ต่างประเทศนานแล้ว !

สำหรับกรณีนี้ เป็นเรื่องใหญ่ ที่เกี่ยวเนื่องมาถึงการที่กลุ่มสื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) มาปิดล้อมหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. ปราศรัยคุกคามอยู่หลายวัน เพื่อกดดันคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ให้ไต่สวน กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

จนท้ายสุด สำนักงาน ป.ป.ช. ต้องแจ้งความ และศาลนนทบุรี ออกหมายจับ 5 แกนนำ กวป. ไปแล้ว

เพื่อขยายความให้ชัดขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org พลิกข้อกล่าวหากรณีนี้ ที่ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. มาให้เห็นกันอีกครั้ง

กรณีนี้ มีผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 19 ราย ได้แก่

1.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย (ขณะนั้น)
2.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ (ขณะนั้น) และแกนนำ นปช.
3.นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำ นปช.
4.นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช.
5.นายอนุวัฒน์ ทินราช รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา
6.ร้อยตรีประไพ ฮวดศรี
7.นางสำเนียง คงพลปาน
8.นางอัญชลี เทพวงษา
9นางอุบลกาญจน์ อมรสิน
10.นายนันท์พิพัชร์ หรืออเนก วงศ์มีมา
11.น.ส.ศิริลักษณ์ แสงแก้ว
12.นายทองอยู่ พรมนำชา
13.นายรัตน์ ภู่กลาง
14.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม (ขณะนั้น)
15.นายสมศักดิ์ ล้อเพชรรุ่งเรือง
16.นายมาลัยรักษ์ ทองชัย หรือศรรักษ์ มาลัยทอง
17.นายผัน โพธิ์ทองแดง (แดง สามวา)
18.นายชาญ ไชยยะ (หนุ่ม โคราช) แกนนำ กวป.
19.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ขณะนั้น)

เรื่องที่ถูกกล่าวหา

หนึ่ง เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2557 เวลากลางวันกลางคืนต่อเนื่องกัน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และที่ 2 ได้ร่วมกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 3-13 ซึ่งเป็นแกนนำ นปช. จัดเวทีปราศรัยที่อาคารลิปตพัลลภฮอลล์ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา โดยใช้ชื่อว่า “นปช. ลั่นกลองรบ”

ในลักษณะยุยงให้ใช้ความรุนแรง ให้จัดตั้งกองกำลังของกลุ่ม นปช. ข่มขู่องค์กรอิสระและศาล ยุยงให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2550 ให้มีการแบ่งแยกราชอาณาจักรไทยออกเป็นสองส่วน

ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาที่ 15-18 ซึ่งเป็น ซึ่งเป็นมวลชนกลุ่ม กวป. ได้กล่าวปราศรัยที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว กทม. ชวนกลุ่มมวลชนมาชุมนุมและปิดล้อมสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ข้าราชการ และลูกจ้างสำนักงาน ป.ป.ช. ปฏิบัติงานได้ ตามที่แกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวปราศรัยที่ จ.นครราชสีมา

ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-2 ยังดำรงตำแหน่งรักษาการรัฐมนตรี เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ประชาชน และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

สอง กรณีผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 (น.ส.ยิ่งลักษณ์) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-2 ไม่ดำเนินการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-2 และในฐานะรักษาการ รมว.กลาโหม มีอำนาจหน้าที่ในการบังคับบัญชาและกำหนดนโยบายของกระทรวงกลาโหมในการป้องกันและรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจากภัยคุกคามทั้งภายนอกและภายในประเทศ

กลับไม่ดำเนินการใด ๆ และไม่แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-3 รวมทั้งนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ และนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ กับพวก

สาม กรณีผู้ถูกกล่าวหาที่ 19 (นายธาริต) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนว่า นปชใ จัดเวทีปราศรัยที่อาคารลิปตพัลลภฮอลล์ ในลักษณะดังกล่าวแล้ว กลับไม่ดำเนินคดี ไม่แจ้งความ เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

ดังนั้น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-2 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ประชาชน และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ประชาชน หรือกระทรวงกลาโหม

ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3-13 และผู้ถูกกล่าวหาที่ 15-18 เป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุนผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-2 ให้กระทำความผิด ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 19 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ใดผู้หนึ่ง

ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติให้รับเรื่องกล่าวหาดังกล่าวไว้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง ตามหมวด 4 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งคณะเป็นองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. และนายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง

ทั้งหมดคือรายชื่อ-ข้อกล่าวหา ในกรณีนี้ ที่ผูกมัดบรรดา “อดีตบิ๊กรัฐมนตรี-แกนนำ นปช.” ต้องเดินเข้าสู่การไต่สวนของ ป.ป.ช. อีกครั้ง

ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นไร ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ !

อ่านประกอบ :
“นปช.” ปัดขู่องค์กรอิสระตาม “ป.ป.ช.” รับฟ้อง ยันแค่ข้อเสนอแนะ
เฉลยคำตอบ"รมต.ปริศนา"สั่ง แดง กวป. ปิดล้อมสำนักงาน ป.ป.ช.?
ป.ป.ช.ตั้งอนุฯไต่สวน"ปู-เต้น-จารุพงศ์" ยุยงใช้ความรุนแรงข่มขู่องค์กรอิสระ