บึ้มรถจ่ายตลาดทหารพราน-เด็กโดนลูกหลง ศอ.บต.พาทูตโอไอซีแอ่วเชียงใหม่
คนร้ายดักบึ้มรถจ่ายกับข้าวของทหารพราน 41 ที่ยะลา กำลังพลเจ็บ 2 ชาวบ้านโดนลูกหลงเจ็บอีก 3 มีเด็กอายุ 9 ขวบกับ 3 ขวบด้วย ส.ว.ชี้ความรุนแรงยกระดับหลังเจรจา เลขาฯสมช.เตรียมตั้งคณะทำงานตรวจสอบเหตุร้ายฝีมือใครหลังหยุดยิงรอมฎอน ด้าน ศอ.บต.พาคณะทูตโอไอซีลงพื้นที่ดูวิถีชีวิตมุสลิมเชียงใหม่ ร่วมสัมมนานานาชาติ
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงวิกฤติต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 23 มิ.ย.2556 คนร้ายลอบวางระเบิดรถจ่ายตลาดของทหารพราน สังกัดกรมทหารพรานที่ 41 ทำให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ และชาวบ้านพร้อมเด็กๆ โดนลูกหลง
เหตุการณ์รุนแรงล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถกระบะหุ้มเกราะของหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพียง 1 วัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นทำให้ต้องสูญเสียกำลังพลระดับ "พันตรี" 1 นาย และมีนายทหารยศ "พันเอก" ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 06.21 น.วันอาทิตย์ที่ 23 มิ.ย. พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผู้กำกับการ สภ.เมืองยะลา รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมืองยะลา ว่าเกิดเหตุระเบิดบนถนนสายยะลา–โต๊ะปาแกะ บริเวณเยื้องโรงน้ำแข็ง ทางไปบ้านสวนส้ม หมู่ 7 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด
ในที่เกิดเหตุบริเวณเกาะกลางถนน มีร่องรอยของระเบิดทำให้ต้นไม้หักโค่น พบหลุมระเบิดขนาด 1 เมตร มีเศษชิ้นส่วนอีเล็กทรอนิกส์และสะเก็ดระเบิดกระจายเกลื่อน ไม่ห่างกันนักพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ วีโก้ แคป สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บต 4944 ปัตตานี จอดเสียหลักอยู่ในสภาพพังเสียงหาย
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ชุดกู้ภัยช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาแล้ว ทราบชื่อคือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) วิษณุ ดีทา อายุ 23 ปี อส.ทพ.ศราวุธ หน่อแก้ว อายุ 21 ปี ทั้งคู่สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 นอกจากนั้นยังมีชาวบ้านถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ คือ นายอาแว กาซอ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/20 หมู่ 7 ต.สะเตงนอก ด.ญ.มูรนี กาซอ อายุ 9 ปี และ ด.ช.มุสลิม กาซอ อายุ 3 ปี ลูกๆ ของนายอาแว
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังพลของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ได้ขับรถออกจากค่ายวังพญา อ.รามัน จ.ยะลา โดยมี อส.ทพ.ศราวุธ ทำหน้าพลขับ เพื่อไปจ่ายกับข้าวในตลาดเมืองยะลา มีกำลังพลนั่งมาในรถ 4 นาย แยกนั่งในกระบะ 2 นาย และนั่งในเก๋ง 2 นาย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายคาดว่าไม่น้อยกว่า 2 คน ได้ใช้วิทยุสื่อสารกดจุดชนวนระเบิดชนิดแสวงเครื่องที่บรรจุในถังน้ำยาดับเพลิง ฝังไว้บริเวณเกาะกลางถนน ทำให้เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงระเบิดทำให้รถกระบะของทหารพรานเสียหาย กำลังพลได้รับบาดเจ็บดังกล่าว นอกจากนั้นสะเก็ดระเบิดยังไปถูกชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมาได้รับบาดเจ็บด้วย
สำหรับการก่อเหตุดักทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ซึ่งเป็นชุดจ่ายกับข้าวนี้ เคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่งบนถนนเส้นเดียวกัน ทำให้มีทหารพรานและแม่ครัวเสียชีวิตรวม 4 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2555
บึ้มซ้ำที่รามัน-ชุดลาดตระเวนรอดหวิว
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 12.40 น.วันเสาร์ที่ 23 มิ.ย. พ.ต.ต.ประเทือง สุวรรณชาตรี สารวัตรปราบปราม (สวป.) สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ได้นำกำลังไปตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดทหาร ที่บ้านตาเนาะปูโยะ หมู่ 3 ต.เกะรอ อ.รามัน โดยจุดที่คนร้ายวางระเบิดอยู่บริเวณโคนต้นไม้ริมทางหลวงสายรือเสาะ-สายบุรี ห่างจากจุดที่เคยลอบวางระเบิดทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4113 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมาเพียง 100 เมตร แต่ครั้งนี้พุ่งเป้ากองร้อยทหารราบที่ 15332 (ร้อย ร.15332) โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ มีเพียงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และสะเก็ดระเบิดกระจัดกระจาย
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.ก้องฟ้า ดวงดี ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 15332 (ผบ.ร้อย ร.15332) หน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 ได้นำกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการออกเดินเท้าลาดตระเวนพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัยเส้นทาง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้มีเสียงระเบิดดังขึ้น แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
ส.ว.ชี้รุนแรงยกระดับ-ซัดทีมเจรจาอ่อนแอ
นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สายสรรหา ชาว จ.ปัตตานี กล่าวว่า เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเหตุการณ์ลอบวางระเบิดรถหุ้มเกราะของหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข สร้างความสะเทือนใจและเสียขวัญให้กับประชาชนในพื้นที่ เพราะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เกิดเหตุลอบวางระเบิดบนถนนสายหลัก บนทางหลวงแผ่นดินเลข 2 ตัว ซึ่งเป็นทางหลวงระหว่างจังหวัด 6 ช่องจราจร โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 พ.ค.56 ก็เคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาแล้วบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เป้าหมายคือรถบัสของกรมการขนส่งทหารเรือที่พาแม่บ้านทหารเรือไปเยี่ยมกำลังพลที่บาดเจ็บและถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แรงระเบิดทำให้พลขับเสียชีวิต และมีคนในรถได้รับบาดเจ็บ
"ทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลไปเปิดหน้าพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ก่อนหน้านี้ไม่เคยมี ส่วนตัวเห็นว่าความรุนแรงยกระดับ และการเจรจาทำให้ฝ่ายก่อความไม่สงบมีความชอบธรรมในการโจมตีทุกเป้าหมาย แม้ส่วนใหญ่จะเป็นเป้าหมายเจ้าหน้าที่รัฐตามคำอธิบายของเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แต่เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐยังโดน ย่อมทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในความปลอดภัย จะยิ่งหวั่นไหวมากขึ้น"
นายอนุศาสน์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้รัฐบาลรอเพียงแผนลดความรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอนของฝ่ายบีอาร์เอ็น โดยไม่ได้แก้ไขหรือป้องกันการเกิดเหตุร้ายอย่างเต็มที่ ไม่มีการปรับมาตรการรับมือความรุนแรงในช่วงเจรจา พอถึงวันนัดพูดคุยครั้งหน้าก็นำสถิติความรุนแรงไปสอบถามแกนนำบีอาร์เอ็น แล้วก็ไม่เคยได้คำตอบกลับมาเช่นเดิม นี่คือความอ่อนแอของคณะพูดคุยฝ่ายรัฐบาลที่ส่งผลต่อสถานการณ์ในพื้นที่อย่างรุนแรง
สมช.จ่อตั้งทีมพิสูจน์เหตุรุนแรงฝีมือใคร
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช. ซึ่งเดินทางไปร่วมสัมมนาเกี่ยวกับมุสลิมในประเทศไทยที่ จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงข้อตกลงกับกลุ่มบีอาร์เอ็นที่จะลดเหตุรุนแรงในช่วงเดือนรอมฎอนว่า น่าจะได้รับแผนประมาณสัปดาห์หน้า รวมทั้งคำอธิบายข้อเรียกร้อง 5 ข้อด้วย หลังจากนี้จะดูว่ามีเหตุการณ์รุนแรงในเดือนรอมฎอนหรือไม่ ถ้ามีก็จะตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบว่าเป็นฝีมือของกลุ่มไหน เพราะบีอาร์เอ็นส่งสัญญาณกับกลุ่มของตนแล้ว หากยังมีการก่อเหตุก็จะต้องพิสูจน์ทราบว่ากลุ่มไหนทำ หากเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบกลุ่มอื่นก็จะไปทำความเข้าใจ หรือจริงๆ แล้วเป็นเรื่องภัยแทรกซ้อน ยาเสพติด น้ำมันเถื่อน ก็ต้องปราบปรามกันต่อไป
ศอ.บต.ดึงทูตโอไอซีร่วมสัมมนานานาชาติ
ที่โรงแรมเลอเมอริเดียน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับสำนักจุฬาราชมนตรี ได้จัดสัมมนานานาชาติเรื่อง "มุสลิมในประเทศไทย พลังในการพัฒนาประเทศ พลังในการขับเคลื่อนอุมมะห์ (ประชาชาติมุสลิม)" เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือโอไอซี โดยมีคณะทูตจากประเทศสมาชิกโอไอซีที่ประจำอยู่ในประเทศไทย 8 ประเทศเข้าร่วมและลงพื้นที่ดูวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ตลอดจนสิทธิเสรีภาพของพี่น้องมุสลิมในประเทศไทยซึ่งสามารถดำรงความเป็นอยู่ตามอัตลักษณ์และศาสนาได้อย่างมีความสุข
สำหรับคณะทูตได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย. โดยมี นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี และ นายวิสุทธิ์ บินล่าเต๊ะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรีประจำภาคใต้ ให้การต้อนรับ และรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน
ดร.วิสุทธิ์ กล่าวว่า การจัดสัมมนามีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศสมาชิกโอไอซี สร้างความเข้าใจต่อความเป็นจริงของสถานการณ์และพัฒนาการความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ประเทศสมาชิกโอไอซีให้ความสนใจ ถือเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศมุสลิม องค์กรมุสลิมนานาชาติ และประเทศหรือองค์กรต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆเพื่อนำไปสู่ความร่วมมือในกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า เหตุผลที่จัดสัมมนาครั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาเคยนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกโอไอซีไปศึกษาวิถีชีวิตของพี่น้องมุสลิมในภาคใต้มาแล้วหลายครั้ง จึงอยากให้ลองศึกษาพื้นที่ภาคเหนือบ้าง เพื่อดูความหลากหลายและความเป็นอยู่ของพี่น้องมุสลิมในประเทศไทย และจะพบว่ามีสิทธิเสรีภาพในการใช้ชีวิต และดำรงอัตลักษณ์โดยไม่ได้ถูกขัดขวาง
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 กันชนหน้ารถกระบะจ่ายกับข้าวของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 หลุดกระเด็นออกจากตัวรถเพราะแรงระเบิดที่ถูกคนร้ายดักโจมตีขณะเดินทางเข้าไปจ่ายตลาดที่ อ.เมืองยะลา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
2-4 บรรยากาศงานสัมมนานานาชาติเรื่อง "มุสลิมในประเทศไทย พลังในการพัฒนาประเทศ พลังในการขับเคลื่อนอุมมะห์ (ประชาชาติมุสลิม)" ซึ่งจัดโดย ศอ.บต. และสำนักจุฬาราชมนตรี มีทูตจากสมาชิกโอไอซีเข้าร่วมคึกคัก