ได้เค้า"คาร์บอมบ์หาดใหญ่"รถปลัด อบต.ถูกฆ่า – ทุกฝ่ายรุมประณามทำร้ายผู้บริสุทธิ์
องค์กรภาคประชาสังคมออกแถลงการณ์ประณามการก่อเหตุรุนแรงที่ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องรับเคราะห์ จี้นายกฯหญิงรับผิดชอบภารกิจดับไฟใต้ด้วยตัวเอง "อภิสิทธิ์" นำทัพ ปชป.ลงพื้นที่ เรียกร้องรัฐบาลเอาใจใส่ปัญหามากกว่านี้ ขณะที่ฝ่ายรัฐส่งรัฐมนตรีมหาดไทยลุยตรวจความเรียบร้อย ผบ.ตร.ยันคาร์บอมบ์หาดใหญ่-ยะลาเชื่อมโยงกัน พบรถที่คนร้ายใช้ติดตั้งระเบิดใต้ถุนโรงแรมลีการ์เด้นส์เป็นของปลัด อบต.ที่ศรีสาคร ถูกฆ่าเมื่อปีทีแล้ว ศูนย์นเรนทรสรุปสังเวย 3 ศพที่หาดใหญ่ ส่วนยะลา 10 ศพ
มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม สององค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและกฎหมายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์ลอบวางระเบิดครั้งรุนแรงทั้งที่ อ.เมืองยะลา และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รวมถึง อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 13 ราย บาดเจ็บกว่า 200 ราย
แถลงการณ์ของมูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ โดย นางอังคณา นีละไพจิตร ระบุว่า ลักษณะการก่อเหตุร้ายเป็นการจงใจใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเลือกเป้าหมายที่เป็นพลเรือนโดยตรง ทำให้เหยื่อของความรุนแรงมีทั้งผู้สูงอายุ ผู้หญิง และเด็ก ซึ่งรวมถึงทารกด้วย จึงขอประณามการก่อเหตุร้ายทุกรูปแบบที่มุ่งทำลายชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริสุทธิ์โดยไม่คำนึงถึงหลักมนุษยธรรมและสิทธิของผู้บริสุทธิ์ มุ่งหวังเพียงเพื่อก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในอำนาจรัฐและสร้างความหวาดกลัวต่อประประชาชนในการใช้ชีวิตอย่างปกติสุข มูลนิธิฯ ขอเน้นย้ำว่าการใช้ความรุนแรงเพื่อให้เกิดความหวาดกลัวในรูปแบบต่างๆ จะไม่สามารถนำพาไปสู่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้อย่างยั่งยืน
พร้อมกันนี้ มูลนิธิฯ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ที่ต้องสูญเสียทรัพย์สินในเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงประชาชนทั่วไป และขอเรียกร้องให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยตนเอง เยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทุกฝ่ายอย่างทั่วถึง เป็นธรรม ควรให้ความสำคัญปัญหาชายแดนใต้เป็นวาระแห่งชาติ แต่งตั่งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อแก้ไขความขัดแย้งในพื้นที่ด้วยสันติวิธี โดยให้คณะกรรมการดังกล่าวสามารถทำงานได้อย่างอิสระ มีความต่อเนื่อง และสามารถเสนอคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาต่อรัฐบาล พร้อมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานความมั่นคงเร่งปฏิรูประบบงานการข่าวให้มีความถูกต้อง แม่นยำ มีประสิทธิภาพ และเป็นเอกภาพ เพื่อส่งผลให้เกิดความคุ้มครองและสามารถระงับเหตุความรุนแรงได้อย่างแท้จริงด้วย
ส่วนแถลงการณ์ของมูลนิธิผสานวัฒนธรรม โดย น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ มีเนื้อหาประณามผู้ใช้ความรุนแรง การก่อเหตุที่โหดร้าย มุ่งประสงค์ต่อผู้บริสุทธิ์ และสร้างความเสียหายต่อสาธารณะเช่นกัน พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบมีความอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุและสร้างความแตกแยกระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐและปฏิบัติหน้าที่สืบสวนสอบสวนนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เคารพต่อหลักการของกฎหมาย สิทธิมนุษยชน และการใช้เครื่องมือด้านวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายแสดงจุดยืนต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ ร่วมมือกันสร้างมาตรการเพื่อยุติวงจรความรุนแรง ซึ่งหมายถึงการเปิดพื้นที่เพื่อการเจรจายุติการใช้ความรุนแรง
ฝ่ายค้าน-รัฐบาลลงพื้นที่ "อภิสิทธิ์" จี้เอาใจใส่ปัญหามากกว่านี้
วันอาทิตย์ที่ 1 เม.ย.2555 มีความเคลื่อนไหวในพื้นที่อย่างคึกคัก โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุระเบิดที่โรงแรมลีการ์เด้นส์พลาซ่า พร้อมเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล จากนั้น นายอภิสิทธิ์ พร้อมคณะซึ่งมี ส.ส.ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์รวมอยู่ด้วย ได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนปลอบขวัญประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดบริเวณถนนรวมมิตร ซึ่งเป็นย่านธุรกิจกลางเมืองยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บกว่า 100 ราย โดยนายอภิสิทธิ์ได้นำเสื้อยืดที่สกรีนข้อความว่า "คนยะลาไม่เอาระเบิด" สวมทับเสื้อเชิ้ตของตนเองในระหว่างลงพื้นที่ด้วย พร้อมรับปากว่าจะใช้บทบาทหน้าที่ความเป็น ส.ส.เป็นปากเป็นเสียงติดตามการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลต่อไป โดยย้ำว่ารัฐบาลต้องเอาใจใส่ต่อปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้มากกว่านี้
ทางฟากรัฐบาล นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้นำรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเดินทางลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุและเยี่ยมผู้ได้รับผลกระทบที่ อ.เมืองยะลา และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เช่นกัน โดยได้เร่งรัดเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย และบอกว่าจะต้องบูรณการระหว่าง 3 หน่วยงาน คือ หน่วยงานความมั่นคง ตำรวจ และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนและ อ.หาดใหญ่ ร่วมกัน
ผบ.ตร.ยันคาร์บอมบ์ "หาดใหญ่-ยะลา" เชื่อมโยง
วันเดียวกัน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เดินทางไปตรวจจุดเกิดเหตุทุกจุด และกล่าวว่า ในเบื้องต้นเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ 2 จุดที่เกิดขึ้นกลางเมืองยะลา และเหตุคาร์บอมบ์ที่โรงแรมลีการ์เด้นส์ อ.หาดใหญ่ มีความเชื่อมโยงกัน เพราะลักษณะของการประกอบระเบิดและการนำไปก่อเหตุมีความคล้ายคลึงกัน ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วว่าเป็นกลุ่มไหน
สำหรับความคืบหน้าทางคดีนั้น มีการยืนยันจุดเกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์บริเวณลานจอดรถใต้ถุนอาคารลีการ์เด้นส์พลาซ่า อ.หาดใหญ่ ว่าอยู่ที่ชั้น B3 โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ในลานจอดรถ 5 ชั้นได้ครบทุกชั้นแล้ว ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยืนยันตัวเลขที่ 3 ราย
คาร์บอมบ์ลีการ์เด้นส์เป็นรถปลัด อบต.ที่ถูกฆ่า
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) ที่เข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุระเบิดบริเวณลานจอดรถใต้ดินของโรงแรมลีการ์เด้นส์พลาซ่า ให้ข้อมูลว่า รถที่คนร้ายนำมาใช้เป็นคาร์บอมบ์คือรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน กค 6734 พัทลุง ซึ่งเป็นของ นายธนษร เกื้อสุข ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่งถูกคนร้ายฆ่าชิงรถพร้อมอาวุธปืน เอ็ม 16 เมื่อวันที่ 23 ต.ค.2554
ส่วนเหตุระเบิดในย่านธุรกิจกลางเมืองยะลา สรุปว่ามี 2 จุด คือ บริเวณถนนจงรักษ์ตัดกับถนนรวมมิตร หน้าร้านข้าวต้มรุ่งเรือง คนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องประกอบใส่ถังแก๊สน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม ใส่ในรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน บฉ 955 ยะลา แล้วจุดชนวนระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร
อีกจุดหนึ่งคือบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่น อิเลฟเว่น ถนนรวมมิตร เป็นการประกอบระเบิดลักษณะเดียวกัน แต่รถยนต์ที่ใช้เป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จุดชนวนระเบิดด้วยวิทยุสื่อสารและโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ระเบิดอีกลูกหนึ่งซึ่งเกิดแทรกซ้อนขึ้น เป็นการระเบิดของถังแก๊สจากรถตู้ที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านข้าวต้มรุ่งเรือง
สรุปรายชื่อผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บทั้งสองเหตุการณ์
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่อาคารลีการ์เด้นส์พลาซ่า ศูนย์นเรนทรสรุปตัวเลขอย่างเป็นทางการ มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 3 ราย ประกอบด้วย นางยุพิน พุทธิมา อายุ 38 ปี นาย LOW TSIAN HOCK ชาวมาเลเซีย และชายไม่ทราบชื่ออีก 1 คน
ส่วนผู้บาดเจ็บที่ยังคงรักษาตัวอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ ขณะนี้เหลือ 133 ราย ประกอบด้วย โรงพยาบาลหาดใหญ่ 23 ราย โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.หาดใหญ่) 32 ราย โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี 28 ราย โรงพยาบาลศิครินทร์ 26 ราย และโรงพยาบาลกรุงเทพฯหาดใหญ่ 24 ราย ในจำนวนนี้รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู 28 ราย
ขณะที่เหตุระเบิดกลางเมืองยะลา มีผู้เสียชีวิตจำนวน 10 ราย เป็นชาย 5 รายและหญิง 5 ราย ได้แก่ น.ส.กรรณิการ์ บัวจันทร์ นายสมัย สีลา นายธุรชิต พรมญาณ ส.ต.อ.สุรชาติ วัฒนพันธ์ นายสมเกียรติ พยากรณ์ นางทีรนุช รอดทา นางปราณี พิมปรุ นางอ้อยใจ พิมปรุ นางสมใจ ชูโลก และ นายวิสุทธิ์ ล่วนล่อง
ผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งสิ้น 112 ราย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้วจำนวน 80 ราย คงเหลือรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 32 ราย มีรายชื่อเฉพาะกลุ่มที่ยังนอนโรงพยาบาล ดังนี้
1.นายยุทธนา มยะกุล 2.นายศุภฤกษ์ นิธิอนันต์สกุล 3.นายยุสรี อาบู
4.อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) สุวิทย์ ช่วยนะ 5.น.ส.จุไร สีลา 6.นายประจักษ์ ทองบัว
7.นายอภิวัฒน์ เพ็ญฉายแสง 8.น.ส.ณัฐกานต์ แก้ววิเชียรศรี 9.นายผยุงศักดิ์ อารัมภ์วิกรานต์
10.นายธงชัย เจียรกุลสวัสดิ์ 11.นายพิชัย เหละดุหวี 12.น.ส.นาดียา อิแต
13.นางสุนทรี ศรัญ 14.นายพรชัย กอวิวัฒนาการ 15.นายสุวิท ศิริมุสิก
16.ด.ญ.สุภารัตน์ หัสดินทร์ 17.นายวุฒิชัย ใจถาวร 18.นายเอกชัย ชัยเกตุ
19.นางมลิวัลย์ สมบูรณ์มี 20.นายอาซัน หมัดซีหมีน 21.นายทศพล ฮอม
22.ด.ต.มะรานี มะมิง 23.นางสุรีพร วรรณะ 24.ส.ต.อ.วิรัตน์ ขุนแก้ว
25.ส.ต.ท.กฤตพจ พิมประพร 26.น.ส.พัตรพิมล พิมแสนศรี 27.นายสมบูรณ์ ฉันทะ
28.นายธนรักษ์ จันดิษฐวงศ์ 29.นายบุญประสิทธิ์ จันทร์หนู 30.นางเกษฎา พงษ์สุวรรณศิริ
31.นางสว่างนภา นรสิงห์ 32.ด.ญ.ศุภาพิชญ์ คตนางพงศ์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 สภาพความเสียหายของอาคารรอบๆ โรงแรมและห้างสรรพสินค้าลีการ์เด้นส์พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
2 นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขณะลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่
3 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับฟังความรู้สีกของชาวบ้านที่ อ.เมือง จ.ยะลา