นายกฯ หวั่นปฏิรูปศึกษาซ้ำรอยรอบแรกสูญเสียทั้งเวลา-ทรัพยากร
นายกฯ อภิสิทธิ์ ประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 แนะปฏิรูปการศึกษาให้มุ่งดูเฉพาะเรื่อง อย่าดูหลายเรื่องไม่เช่นนั้นจะสับสน
วันนี้ (15 ก.พ.) เวลา 08.00 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 ครั้งที่ 1/2553 โดยมีนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รองศาสตราจารย์ธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา คุณหญิง กษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายอำพล กิตติอำพล เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตลอดจน ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมด้วย
ที่ประชุมรับทราบข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ. 2552-2561) ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา โดยคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาเฉพาะกิจปฎิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง ได้ทำการศึกษาในหลาย ๆ ด้าน รวมทั้งการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนใน 4 ภูมิภาคและกรุงเทพมหานคร ก่อนจัดทำเป็นข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง เสนอต่อที่ประชุมสภาการศึกษาและเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2552 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบข้อเสนอการปฏิรูปดังกล่าวและให้ดำเนินการต่อไปได้
จากนั้นศาสตราจารย์ธงทอง ได้รายงานเกี่ยวกับหลักการและกรอบแนวคิดของการปฏิรูปการศึกษาฯ ที่เน้นการปฏิรูประบบการศึกษาและการเรียนรู้ โดยปัจจัยสำคัญของระบบการศึกษา ประกอบด้วย ครู หลักสูตร สถานศึกษา และกระบวนการสร้างและถ่ายทอดความรู้ ส่วนประเด็นที่สำคัญที่สุดในการปฏิรูปคือ การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษา ส่งเสริมและยกระดับมาตรฐานวิชาชีพครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาอย่างยั่งยืน เป็นวิชาชีพที่มีคุณค่า โดยมีการกำหนดวิสัยทัศน์สำหรับการปฏิรูปการศึกษาในครั้งนี้ว่า “คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ” ที่เน้นประเด็นหลัก 3 ประการคือ 1. พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาและเรียนรู้ของคนไทย 2. โอกาสทางการศึกษาและเรียนรู้ 3. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนของสังคมในการบริหารและจัดการศึกษา
ส่วนการปฏิรูปที่จะมีต้องเร่งดำเนินการใน 4 ประการคือ 1. พัฒนาคุณภาพคนไทยยุคใหม่ 2. พัฒนาคุณภาพครูยุคใหม่ 3. พัฒนาคุณภาพสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้ ยุคใหม่ และ 4. พัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการใหม่
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองต่อที่ประชุม 2 ข้อคือ 1.งานปฏิรูปการศึกษาเป็นงานที่จะต้องมีจุดสิ้นสุด ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน และต้องมีตัวชี้วัดที่ชัดเจนว่า ผลที่ต้องการคืออะไร อย่าให้เหมือนกับการปฎิรูปในรอบแรกที่สูญเสียทั้งเวลา และทรัพยากรเกี่ยวกับโครงสร้างที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ต้องมุ่งไปสู่ผลสัมฤทธิ์ทางด้านการศึกษาของผลผลิตของระบบการศึกษาอย่างแท้จริง 2.งานปฏิรูปไม่ว่าจะดำเนินการในเรื่องใดก็ตาม ควรให้ทำตามเป้าหมาย พร้อมกำหนดทิศทางและตัวชี้วัดที่ชัดเจน เช่น กรณีของเด็กนักเรียนจะต้องผ่านการประเมินผลสัมฤทธิ์ในวิชาหลักอย่างทั่วถึงโรงเรียนทุกแห่งก็จะต้องผ่านเกณฑ์การประเมินด้วย ตลอดจนมีการตั้งเป้าหมายในเรื่องการเพิ่มสัดส่วนของโรงเรียนระดับอาชีวศึกษาและการศึกษาเอกชน เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินการทางวิชาการว่า จะต้องทำอย่างจริงจังและชัดเจน ใครทำอะไรก็ขอให้ทำตรงนั้น ส่วนตรงไหนที่จำเป็นต้องมีการประสานงานเชื่อมโยงกันก็ขอให้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทุกคนจะได้ไม่เสียสมาธิ ขอให้มุ่งดูแลเฉพาะเรื่องที่จะทำจริง ๆ อย่าดูหลายเรื่องไม่เช่นนั้นจะสับสน และไม่เกิดประโยชน์ต่อการปฏิรูปการศึกษา
ทั้งนี้ มติที่ประชุมรับข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ ที่คณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันหารือและนำเสนอ โดยฝ่ายเลขาฯ จะได้มีการรวบรวมแล้วรายงานให้ที่ประชุมได้รับทราบในในคราวต่อไป