"ประจวบ ไชยสาส์น" ประกาศตั้งสมัชชามหาวิทยาลัยอีสาน
17 ก.ย. นำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยอีสาน อดีตรมว.ทบวงมหาวิทยาลัย เผยเน้นเปิดพื้นที่สร้างการมีส่วนร่วมของปชช. เล็งดึงปราชญ์ชาวบ้าน อปท. หอการค้า สภาอุตฯ ร่วมขบวน สร้างรูปธรรม “มหาวิทยาลัยรับผิดชอบสังคม”
นายประจวบ ไชยสาส์น นายกสภามหาวิทยาลัยอีสาน และอดีตรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย เปิดเผยกับ "ศูนย์ข้อมูลข่าวสารปฏิรูปประเทศไทย" ถึงแนวคิดการจัดตั้ง “สมัชชามหาวิทยาลัยเพื่อปฏิรูปการศึกษาร่วมกับชุมชนท้องถิ่น” ว่า มีเป้าหมายเพื่อสร้างธรรมาภิบาลการบริหารจัดการการทำงานของมหาวิทยาลัย มุ่งเน้นการเปิดพื้นที่สร้างการมีส่วนร่วมให้ประชาชนในชุมชนท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถเข้ามามีบทบาทร่วมกันพัฒนา บริหารจัดการ ปฏิรูปการศึกษาของมหาวิทยาลัยได้ ซึ่งแนวคิดนี้ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน การนำภูมิปัญญท้องถิ่นมาร่วมพัฒนาการศึกษามหาวิทยาลัยให้รับใช้และใกล้ชิดท้องถิ่นยิ่งขึ้น
นายกสภามหาวิทยาลัยอีสาน กล่าวว่า เตรียมให้มหาวิทยาลัยอีสาน นำร่องการจัดสมัชชามหาวิทยาลัยอีสานกับการพัฒนาท้องถิ่นนี้ ขณะนี้ได้จัดทำเป็นแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอีสานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในวันที่ 17 ก.ย.นี้ จะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยอีกครั้งเพื่อขอความเห็นชอบในการจัดตั้งสมัชชามหาวิทยาลัยอีสาน หากผ่านความเห็นชอบจะดำเนินการออกจดหมายเชิญชวนประชาชนในท้องถิ่น หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคธุรกิจเอกชน เช่น นายกอบจ. นายกอบต. นายกเทศมนตรีในพื้นที่ภาคอีสาน ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมาร่วมสมัชชาด้วย
เมื่อถามถึงเหตุผลในการผลักดันแนวคิดนี้มาดำเนินการกับมหาวิทยาลัยอีสานเป็นแห่งแรกนั้น อดีตรมว.ทบวงมหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตนได้เสนอการสร้างบทบาทของมหาวิทยาลัยในการรับใช้สังคม (University Social Responsibility: USR) ไว้ตั้งแต่สมัยที่เป็นรมว.ทบวงมหาวิทยาลัย แต่ไม่ค่อยได้รับความสนใจในขณะนั้น และสังคมยังขาดความเข้าใจที่ถูกต้องในการสร้างการทำงานร่วมระหว่างมหาวิทยาลัยกับชุมชน ทำให้ไม่ค่อยเกิดรูปธรรมในประเด็นนี้นัก และในฐานะที่เป็นนายกสภามหาวิทยาลัยอีสานจึงตัดสินใจเริ่มนำแนวคิดนี้มาใช้กับมหาวิทยาลัย เนื่องจากบุคลากรและประชาชนในพื้นที่ค่อนข้างมีความพร้อม มีความรู้และความเข้าใจแนวคิดนี้ที่เพียงพอในการจัดตั้งให้เกิดสมัชชามหาวิทยาลัยกับการพัฒนาท้องถิ่นได้
“นับเป็นครั้งแรกของอุดมศึกษา และครั้งแรกของมหาวิทยาลัยไทยในการจะประกาศตัวเป็นสมัชชามหาวิทยาลัยร่วมกับชุมชนท้องถิ่นเพื่อพัฒนาการศึกษาที่รับใช้สังคม ไม่ว่ามหาวิทยาลัยของรัฐหรือเอกชนก็ตาม ต่างมีหน้าที่หลักที่รัฐมอบหมายให้จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศ ซึ่งทุกมหาวิทยาลัยควรมีหุ้นส่วนทางสังคมจากชุมชนในการบริหารจัดการมหาวิทยาลัยด้วย เพื่อให้เกิดการพัฒนาการทำหน้าที่การให้บริการชุมชนและสังคมของมหาวิทยาลัยเอง”
เมื่อถามถึงรูปแบบของสมัชชามหาวิทยาลัยอีสาน อดีตรมว.ทบวงมหาวิทยาลัย กล่าวว่า หากจัดตั้งเป็นสมัชชามหาวิทยาลัยอีสานได้แล้วนั้นจะกำหนดให้ต้องมีการประชุมปีละ 1ครั้งร่วมกันของสมาชิกสมัชชา ในการแก้ไขปัญหา พัฒนาการบริหารจัดการการทำงานระหว่างมหาวิทยาลัยกับชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเน้นการตัวอย่างการทำงานร่วมระหว่างมหาวิทยาลัยกับชุมชนที่ต้องสร้างธรรมาภิบาล การมีส่วนร่วม ความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบการทำงานร่วมกันได้
"หัวใจสำคัญคือการทำให้เกิดการทำงานระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน โดยใช้หัวใจมาทำงานร่วมกัน มหาวิทยาลัยก็ต้องถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชน ส่วนชุมชนก็ต้องนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาร่วมพัฒนาและสอนให้มหาวิทยาลัยด้วย เมื่อทำได้ทั้งสองก็จะเกิดความเข้าใจและความร่วมมือในการพัฒนาร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมได้"