ตลท.จับมือสสส.นำร่องสร้าง 250 องค์กรแห่งความสุข
ภายใต้โครงการ "ภาคีธุรกิจเพื่อสังคมภายในองค์กร สู่องค์กร สุขภาวะ" พญ.ชนิกา แนะแนวทางการสร้างสุข 8 ประการ เชื่อเมื่อพนักงานมีความสุขแล้วก็จะสามารถสร้างความสุขให้กับสังคมภายนอกต่อไปได้
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 52 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดแถลงข่าวลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดโครงการ"ภาคีธุรกิจเพื่อสังคมภายในองค์กรสู่องค์กรสุขภาวะ" เน้นนำแนวคิดเรื่อง Corporate Social Responsibility : CSR มาใช้ในองค์กรเพื่อสร้างความสุขให้กับพนักงานเพื่อสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ โดยจะนำร่องโครงการกับบริษัทจดทะเบียน 250 ราย พร้อมเผยแพร่ความรู้ด้านการบริหารเงิน แก่บุคลากรอีก 500 องค์กร ในเวทีเสวนาหัวข้อ “ภาคีธุรกิจเพื่อสังคมภายในองค์กรสู่องค์กรสุขภาวะ” ศ.เกียรติคุณ พญ.ชนิกา ตู้จินดา คณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 4 สสส. กล่าวถึงโครงการนี้ว่า จะเป็นการพัฒนาบุคลากรขององค์กรให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งในที่ทำงานและนอกที่ทำงาน โดยมุ่งเน้นให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุขตามแนวทางการสร้างความสุข 8 ประการ (Happy 8) ได้แก่ (Happy Body) การมีสุขภาพดี (Happy Heart) การมีน้ำใจงาม (Happy Relax) การผ่อนคลาย (Happy Brain) การใฝ่หาความรู้ (Happy Soul) การมีคุณธรรมหิริโอตัปปะ (Happy Money)การจัดการรายรับ-รายจ่ายของตนเองได้ (Happy Family) การมีครอบครัวที่ดี (Happy Society) การมีสังคมดี
ความสุข 8 ประการดังกล่าวนี้ ศ.เกียรติคุณ พญ.ชนิกา กล่าวว่า ถือเป็นแนวทางในการดำเนินงานด้าน CSR ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน ที่สามารถนำไปใช้ได้กับทุกองค์กร เมื่อพนักงานมีความสุข ก็สามารถสร้างความสุขให้กับสังคมภายนอกองค์กรต่อไปได้ ดังนั้น พนักงานจึงถือเป็นกำลังสำคัญที่จะขับเคลื่อน CSR ขององค์กรให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแกร่งและมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจขององค์กร
ด้านนางพัชรา ธณัติไตร ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล ตลท. กล่าวถึงการสร้างสุขภาวะภายในองค์กรว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเน้น 2 เรื่องคือ คน และเทคโนโลยี แต่จะให้ความสำคัญคนหรือทรัพยากรบุคคลเป็นอันดับแรก เมื่อกล่าวถึงเรื่องของคนก็คือเรื่องของผู้นำ โดยผู้นำไม่ใช่เฉพาะผู้บริหารแต่ทุกคนสามารถเป็นผู้นำได้ทั้งหมด ดังนั้นคุณสมบัติของผู้นำจะต้องมีสุขภาพกายสุขภาพใจและมีคุณธรรมที่ดี นั่นก็คือ Happy Body และHappy Soul ที่ทำให้องค์กรขับเคลื่อนไปได้
“สำหรับการบริหารบุคคลากรในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเน้นกุศโลบายของการสร้างคนด้านความร่วมมือของทุกคนทุกฝ่ายทั้งในการทำงานและทำกิจกรรมทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อให้บุคคลากรเกิดความคุ้นเคยรู้จักคนภายในองค์กรเดียวกันให้มากขึ้น เกิดความคิดนอกกรอบ ไม่ใส่หัวโขนเข้าหากัน ส่งผลให้ทำงานอย่างมีความสุขและพัฒนาองค์กรต่อไปได้”ผอ.ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล ตลท.กล่าว
ขณะที่นายดุสิต รัชตเศรษฐนันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานทรัพยากรมนุษย์ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) กล่าวว่า บมจ.บัตรกรุงไทย จะเน้นคำว่า แบรนด์ แบรนด์ที่ว่านี้ความน่าเชื่อถือ ซึ่งความน่าเชื่อถือจะต้องสร้างมาจากภายในองค์กร ได้แก่ ต้องมีความเป็นมืออาชีพ ทันสมัย เรียบง่าย พร้อมที่จะปรับเปลี่ยน และมีความสนุก เพราะฉะนั้นคนในองค์กรจึงซึมซับความน่าเชื่อถือนี้ โดยเฉพาะความสนุก เป็นความเชื่อขององค์กรที่ว่าถ้าทำงานด้วยความสนุก มีความสุข งานก็จะออกมาดี พนักงานมีความทุ่มเทในการทำงาน
“ยกตัวอย่าง เรื่องสภาพแวดล้อมการทำงาน จะเน้นการทำงานเป็นทีม เอารั้วฉากกั้นสำนักงานออก เพื่อให้พนักงานเกิดการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดได้สะดวกขึ้น หลังจากได้ปรับเปลี่ยน พนักงานเครียดน้อยลง มีความสนุกในการทำงานมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีโครงการสร้างการเป็นผู้นำให้แก่พนักงาน คือ เปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้ามาฝึกงานกับองค์กร และให้พนักงานบุคคลากรช่วยเป็นพี่เลี้ยง เกิดการเรียนรู้ทั้งสองฝ่าย นักศึกษามาเรียนรู้งาน พนักงานก็เรียนรู้การสร้างมนุษยสัมพันธ์และการเป็นผู้นำ” นายดุสิต กล่าว
ส่วนนายสุระชัย ธีรวิจารณญาณกุล ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการบริหารงานในองค์กรเพื่อให้เกิดการสร้างสุขว่า 7-Eleven มีสาขาทั่วประเทศ มีพนักงานกว่า 50,000 คน เป็นเรื่องยากที่จะบริหารพนักงานให้ดำเนินแนวทางเดียวกันหมด เพราะทุกคนต่างก็มีความแตกต่างของตัวเอง เช่น การศึกษาที่มีตั้งแต่ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ถึงระดับปริญญาเอก ซึ่งการบริหารจัดการ ใช้หลักการปลูกฝังสร้างความกลมเกลียวในจิตใจของพนักงาน คนใดทำดีปฏิบัติดีก็จะมีหนังสือชมเชยมอบให้ รวมถึงมีโครงการเพชรเซเว่นที่จะมอบให้พนักงานที่มีทัศนะคติ มีความรู้ความสามารถโดยเฉพาะการเป็นคนดีรักเซเว่น อีกทั้งนำแนวคิดของนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ CEO ของ บ.ซีพีออลล์ มากำหนดเป็นวัฒนธรรมองค์กร
สำหรับโครงการ "ภาคีธุรกิจเพื่อสังคมภายในองค์กรสู่องค์กรสุขภาวะ" ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมมือกับสสส.ครั้งนี้ มุ่งเน้นให้บริษัทจดทะเบียนนำแนวคิดของการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจ ไปใช้ในการดำเนินงาน โดยเน้นการให้ความสำคัญกับพนักงาน ซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร อันถือเป็นแนวทางสำคัญที่จะสร้างความยั่งยืนให้กับทุกธุรกิจ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เริ่มทำงานร่วมกับ สสส. มาแล้วตั้งแต่ต้นปี 2552 จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องธุรกิจ เพื่อสังคมภายในองค์กรให้กับผู้บริหาร พนักงาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนนำร่องจำนวน 250 บริษัทเข้าร่วมโครงการในระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2552 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรและคู่มือให้ความรู้ด้านการบริหารเงิน แก่บุคลากรทั้งของบริษัทจดทะเบียน และบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีก 500 องค์กร เพื่อเพิ่มทักษะด้านการบริหารเงินให้กับพนักงาน ซึ่งถือเป็นการสร้างรากฐานที่สำคัญในการดำรงชีวิตที่สำคัญอย่างยิ่งอีกด้วย