พิษน้ำท่วม คาดตกงาน 2 แสน “ทีดีอาร์ไอ” ชี้สปส. ใช้เงินชดเชย 600 ล.
“ดร.ณรงค์” ระบุ รง.ประสบภัยน้ำท่วม จ่ายเงินเดือนลูกจ้าง 75% ไม่ผิดกฎหมาย แนะ สปส. เข้าอุ้มคนตกงาน ยัน ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ผู้ประกอบการที่ไม่ประสบภัยสนองนโยบายรัฐได้
วันที่ 14 ตุลาคม ดร.วรวรรณ ชาญด้วยวิทย์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านหลักประกันสังคม สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์) กล่าวถึงเหตุการณ์น้ำท่วมที่ทำให้สถานประกอบการจำนวนมากต้องหยุดดำเนินการ และเป็นเหตุให้ลูกจ้างได้รับความเดือดร้อนทั้งจากภัยน้ำท่วมและการขาดรายได้ ดังนั้น จึงอยากเสนอให้กองทุนประกันสังคมใช้กลไกการประกันการว่างงานในการช่วยเหลือลูกจ้างที่ต้องหยุดงานเพราะภัยน้ำท่วม และเป็นลูกจ้างในระบบประกันสังคมที่เคยสมทบเงินประกันสังคมมาก่อน ไม่ใช่ลูกจ้างทั่วไป โดยให้สถานประกอบการในเขตน้ำท่วมแจ้งแก่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ถึงจำนวนวันที่หยุดดำเนินงาน เพื่อใช้ในการคำนวณเงินชดเชยกรณีว่างงาน
ดร.วรวรรณ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกองทุนประกันการว่างงานมีเงินสะสมมากกว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวสะสมไว้ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกงานด้วยเหตุที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น เศรษฐกิจตกต่ำ หรือกรณีโรงงานหยุดดำเนินการเพราะภัยพิบัติ
“เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ส่งผลให้ลูกจ้างตกงานชั่วคราวประมาณ 2 แสนคน กองทุนประกันสังคมต้องใช้เงินประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้ตกงานประมาณ 30 วัน ทั้งนี้ เงินชดเชยดังกล่าวเป็นสิทธิของผู้ประกันตนที่จ่ายสมทบทุกเดือน เพื่อประกันการว่างงาน ฉะนั้น การที่ผู้ประกันตนว่างงาน ด้วยเหตุภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกองทุนประกันการว่างงานก็ควรที่จะคุ้มครอง ด้วยเงินชดเชยร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ซึ่งจะเป็นการช่วยบรรเทาภาระด้านการเงินให้แก่ลูกจ้างได้ในระดับหนึ่ง”
ขณะที่ รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป กล่าวว่า ในกรณีโรงงานที่ประสบภัยน้ำท่วมมีกำลังจ่ายอยู่ กฎหมายก็กำหนดให้สามารถใช้มาตรการจ่ายค่าจ้างในอัตราร้อยละ 75 ของเงินเดือนได้ ในทางกลับกัน บริษัทที่เจ๊ง ถึงขั้นปิดโรงงานและพิสูจน์แล้วว่า ไม่สามารถจ่ายค่าจ้างได้เลย ประกันสังคมควรจะเข้ามาช่วยจ่ายเงินให้กับผู้ประกันตน โดยอัตราการจ่ายเบี้ยประกันประกันสมทบนั้น กำหนดไว้ที่ไม่เกิน 15,000 บาท
รศ.ดร.ณรงค์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้คาดว่าจะมีคนตกงานจำนวนหนึ่ง แต่ขณะนี้พบว่า ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ประมาณ 20 อุตสาหกรรม ซึ่งมีคนงานประมาณ 5-6 แสนคนได้ลดการผลิต รวมทั้งหยุดการผลิตไปบ้างแล้ว แต่ที่ติดตามก็พบว่า ยังมีการจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างร้อยละ 75 อยู่
สำหรับมาตรการเยียวยาหลังน้ำลดของ สปส. ที่จะเสนอมาตรการลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมในอัตราร้อยละ 1-2 ของค่าจ้าง เพื่อลดภาระของผู้ประกอบการและผู้ประกันตนที่ประสบอุทกภัยนั้น รศ.ดร.ณรงค์ กล่าวว่า เห็นด้วย ถ้าลดให้กับบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ส่วนจะชะลอการเก็บเงินสมทบออกไปหรือไม่นั้น ตนเห็นว่ายังเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่หากพิสูจน์แล้วว่า มีปัญหาจะชะลอหรือเลื่อนไป 1-2 เดือนก็สามารถทำได้
ส่วนเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทนั้น รศ.ดร.ณรงค์ กล่าวว่า คนงานก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำอะไร ถ้าโรงงานสามารถพิสูจน์ให้เห็นมีความจำเป็นจริงๆ ก็เลื่อนออกไปได้ แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของโรงงานที่ไม่ได้รับผลกระทบ ก็ควรจ่ายตามนโยบายดังกล่าว