แจ้งให้ทราบ
Current Item Layout Template is 'default-thaireform' does not exist
- Please correct this in the URL or in Content Type configuration.
- Using Template Layout: 'default'
ผู้เชี่ยวชาญจีนลงพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ พบการบังคับใช้กม.ไทยมีปัญหา

ผู้เชี่ยวชาญน้ำจากจีนลงพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ พบทางน้ำส่วนใหญ่ถูกบุกรุก เป็นเรื่องของกฎหมาย แต่ไทยไม่เลือกใช้ จนส่งผลการบริหารจัดการน้ำ ไร้ประสิทธิภาพ ขณะที่มีงบฯ แก้ปัญหาจำนวนมาก แต่ก็กระจัดกระจาย ต่างคนต่างทำ ขาดความเชื่อมโยง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างวันที่ 11 – 14 มิถุนายน ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) มอบหมายให้ รศ.ดร.อภิชาต อนุกูลอำไพ ประธานอนุกรรมการวิชาการและวิเคราะห์โครงการคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและ อุทกภัย นำ Mr. ZHANG Zhitong ผู้อำนวยการ Office of State Flood Control and Drought Relief Headquarter และคณะผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงทรัพยากรน้ำของสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 29 คน เดินทางไปปฏิบัติราชการ ณ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดตาก จังหวัดพิจิตร จังหวัดชัยนาท และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากการศึกษาดูงานและลงพื้นที่ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ของคณะผู้เชี่ยวชาญน้ำของไทยกับคณะผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงทรัพยากรน้ำของ สาธารณรัฐประชาชนจีน มีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเบื้องต้นดังนี้
รศ.ดร.อภิชาต อนุกูลอำไพ ประธานอนุกรรมการวิชาการและวิเคราะห์โครงการคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและ อุทกภัย กล่าวว่า จากที่เราได้ไปศึกษาและพูดคุยกัน พบว่า สภาพปัญหาน้ำท่วมของไทย ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่นั้นเข้าใจปัญหาหมด ประเด็นก็คือ วิธีแก้ปัญหานั้นมีปัญหา
ปัญหาแรกเรื่อง การบังคับใช้กฎหมายตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ท้ายน้ำ ส่วนใหญ่ทางน้ำถูกบุกรุก พื้นที่จะให้น้ำอยู่ก็ถูกขยายเป็นเมือง ตอนนี้วิธีแก้ไขนั้นเกี่ยวกับมวลชนเป็นเรื่องของกฎหมาย หน่วยราชการต่างๆ ก็ไม่ค่อยอยากจะใช้วิธีการนี้ ก็เลยคิดวิธีการอื่นๆ ซึ่งไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
ประเด็นที่สอง แม้ว่ารัฐบาลจะมีงบประมาณในการแก้ปัญหาจำนวนมาก แต่กระจัดกระจายลงจังหวัดบ้างลงหน่วยงานบ้าง แต่ละหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณก็ไปทำโครงการของตัวเอง ขาดความเชื่อมโยง รูปแบบก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นแทนที่จะได้ผล 100 % ก็ได้แค่ 50 %
รวมทั้งเรื่องเชิงนโยบาย หน่วยงานที่ประสานดูแลในภาพรวมยังขาดอยู่ เช่น ถนนหนทางที่ทำอยู่ บางครั้งบางคราวอาจแก้ไขได้ในเรื่องจราจร แต่ในขณะเดียวกันอาจจะเป็นตัวกีดขวางการระบายน้ำด้วย
"จากที่คุยกับจีนปัญหาหลักๆ เมื่อปีที่แล้วคือน้ำมันระบายไม่ได้ เราไม่ได้ดูแลการขุดลอกคูคลองอย่างสม่ำเสมอ สองคือเมื่อขุดลอกแล้วเราก็ไม่ได้ขนดินออกไป อีกเรื่องคือการขยายตัวของชุมชนก็ดี การบุกรุกที่ดิน อันนี้ต้องย้ายชุมชนที่อยู่ 2 ข้าง แม่น้ำออก เพื่อขยายลำน้ำช่วยในการระบายน้ำ" รศ.ดร.อภิชาต กล่าว และว่า แนวทางที่รัฐบาลกำหนดจะคล้ายกับความคิดเห็นของจีน คือ เราต้องดูแลทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และท้ายน้ำ วิธีการก็คล้ายๆ กัน จะต่างกันก็ตรงที่วิธีปฏิบัติคือ ของจีนวิธีการบังคับใช้กฎหมายวิธีการปฏิบัติค่อนข้างรวดเร็ว แต่ของเรานั้นติดที่มีอุปสรรคมากอย่างเช่น จะเอาคนออกจากพื้นที่บุกรุกนั้น กว่าจะผ่านขั้นตอนการฟ้องร้องนั้นนาน เรื่องที่สอง คือ เขามีหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรง เช่น ทีมคณะผู้เชี่ยวชาญนี้สำนักงานเขาดูแลเรื่องแผนงานโครงการต่างๆ เกี่ยวกับน้ำท่วมภัยแล้งทั้งประเทศจีน ฉะนั้นไม่ว่ากระทรวงหรือหน่วยงานไหนที่จะมีโครงการน้ำท่วมภัยแล้งจะต้องผ่าน การเห็นชอบจากสำนักงานนี้
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ทางคณะผู้เชี่ยวชาญจีนขอเข้าพบดร.ปลอดประสพ เพื่อหารือว่าแนวของรายงานจะออกมาในรูปแบบไหน แล้วจะต้องเสร็จก่อนวันที่ 20 มิถุนายน เพราะทางคณะจะกลับวันที่ 21 มิถุนายน
สำหรับเหตุผลที่ทางคณะจีนเดินทางมาก็สืบเนื่องจากที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางไปดูงานที่ประเทศจีน ทางกระทรวงทรัพยากรน้ำของจีนก็ได้มาต้อนรับและพาดูงาน ทางท่านนายกได้เล็งเห็นถึงความสามารถด้านนี้จึงได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือ ส่งผู้เชี่ยวชาญเดินทางมาให้คำแนะนำประเทศไทย
ขณะที่ Mr. ZHANG Zhitong ผู้อำนวยการ Office of State Flood Control and Drought Relief Headquarter มีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเบื้องต้นว่า การเดินทางมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้ของคณะผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงทรัพยากร น้ำจีน วัตถุประสงค์เพื่อให้คำปรึกษากับรัฐบาลไทยในเรื่องการจัดการเกี่ยวกับน้ำ หลายวันมานี้เราก็ได้ไปศึกษาดูงานที่จังหวัดเชียงใหม่ ตาก พิจิตร ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา และกรุงเทพฯ จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนร่วมงานผู้เชี่ยวชาญฝ่ายไทย รวมทั้งสิ่งที่เราได้เห็นโดยภาพรวมเมื่อปีที่แล้วที่เกิดน้ำท่วม รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ใช้มาตรการมากมายในการแก้ปัญหาน้ำท่วม มีการเตรียมการอย่างจริงจังและได้ผลในการป้องกันน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งมีการซ่อมแซมเขื่อนที่ชำรุด การขุดลอกคลอง การบูรณะซ่อมแซมโครงการต่างๆ
" จากที่เห็นในช่วงตอนต้นของแม่น้ำเจ้าพระยาขีดความสามารถในการกักเก็บน้ำยังต้องเพิ่ม และในช่วงตอนกลางของแม่น้ำความสามารถในการระบายคงจะต้องพัฒนา การที่จะใช้อ่างเก็บน้ำเพื่อกักเก็บน้ำในต้นทาง รวมทั้งการสร้างทางผ่านน้ำท่วม หรือฟลัดเวย์ในช่วงตอนกลางจะสามารถระบายน้ำท่วมได้ในระดับหนึ่ง และในด้านการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จีนก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับไทย เราจึงเล็งเห็นว่าควรจะมีความร่วมมือกับไทยในการหาวิธีแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เพราะจีนกับไทยเป็นเพื่อนบ้านและมิตรที่ดี"
