“สมัย ใจอินทร์” จี้รัฐเร่งปรับโครงสร้างปตท. เปิดเสรีอุตฯ ก๊าซธรรมชาติ

“นักวิชาการด้านพลังงาน” หนุนรัฐแก้ปมบิดเบือนตลาดก๊าซหุงต้ม อุ้มราคาจนถูกเหมือนของฟรี แนะใช้ภูมิยุทธศาสตร์พัฒนาพลังงาน ครองอ่าวเบงกอล แหล่งก๊าซธรรมชาติ-ศูนย์กลางการค้า สร้างรายได้ใหญ่เข้าประเทศ
นาวาเอก ดร.สมัย ใจอินทร์ นักวิชาการด้านพลังงาน กล่าวกับ ศูนย์ข่าวสารนโยบายสาธารณะ ถึงนโยบายสาธารณะด้านพลังงานในปี 2555 โดยเฉพาะนโยบายด้านพลังงานที่รัฐบาลระบุไว้ มีประเด็นหลักสำคัญ คือ การเปลี่ยนประเทศไทยจากอุตสาหกรรมพลังงานที่เป็นรายจ่ายของประเทศ ให้กลายเป็นรายได้ของประเทศ ซึ่งนับว่าน่าสนใจและน่าจับตามองว่ารัฐบาลจะทำได้แค่ไหน
“ในการจะเปลี่ยนอุตสาหกรรมที่เป็นรายจ่าย ให้เป็นรายได้ของประเทศนั้น สามารถทำได้หลายด้าน เช่น อุตสาหกรรมการแพทย์ ที่ประเทศไทยก็เป็นศูนย์กลางการแพทย์อยู่แล้วโดยที่ไม่ต้องโปรโมท อุตสาหกรรมการศึกษาก็เช่นกัน แม้จะเป็นรายจ่ายอันดับต้นๆ ของประเทศ แต่เราก็มีมหาวิทยาลัยเตรียมพร้อมรับอยู่หลายร้อยแห่ง หากเราไม่มัวทะเลาะเบาะแว้ง หรือวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลมาก อุตสาหกรรมการศึกษาก็จะเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ของประเทศได้เป็นอย่างดี”
นาวาเอก ดร.สมัย กล่าวถึงประเด็นใหญ่ๆ ของนโยบายด้านพลังงานที่จะสร้างรายได้ให้กับประเทศ อาจไม่ได้เป็นรายได้ตรงๆ แต่สามารถทำได้โดย ใช้หลักภูมิยุทธศาสตร์ หรือหลักที่ตั้งของประเทศเป็นจุดแข็งในการพัฒนา ดังนั้น ต้องครองอ่าวเบงกอลให้ได้ เนื่องจากพลังงานก๊าซธรรมชาติ 30% มาจากอ่าวเบงกอล จะสามารถโยงกับโครงสร้างพื้นฐาน ต่างๆ ได้
“ตั้งแต่อดีตที่ตั้งประเทศไทยมา 700 กว่าปี ยังไม่มีรัฐบาลชุดไหนทำเรื่องนี้อย่างจริงจังเลย ซึ่งหากรัฐบาลนี้เขียนนโยบายในด้านพลังงานออกมาเช่นนี้ แล้วสามารถทำได้จริงก็จะเป็นแนวทางในการสร้างรายได้จำนวนมหาศาล เพราะทุกวันนี้น้ำมันที่ต้องวิ่งผ่านช่องแคบมะละกาไม่ได้สะดวกเหมือนเดิมแล้ว มีข้อจำกัดเยอะมาก หากเร่งสร้างและผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมได้คงจะดี ทำทวายให้เป็นจุดศูนย์กลาง และเปิดอ่าวเบงกอลให้สามารถค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านได้ ก็สร้างรายได้ใหญ่ของประเทศเพิ่มขึ้น”
นาวาเอก ดร.สมัย กล่าวถึงนโยบายบัตรเครดิตพลังงานด้วยว่า เป็นกลไกที่มีเหตุผล แต่เป็นเรื่องที่น่าจับตามองว่ารัฐบาลจะจัดการหรือแก้ปัญหาม็อบแท็กซี่ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างไร ทั้งนี้ หากรัฐบาลกล้าทำจริง ก้ถือเป็นความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวทางการเมืองที่หาไม่ได้ในรัฐมนตรีพลังงานของรัฐบาลชุดที่ผ่านๆ มา
“หากทำได้ก็จะสามารถแก้ปมด้านพลังงานของไทยที่มีมานาน คือ เรื่องการอุ้มราคาก๊าซหุงต้ม จนทำให้เกิดความบิดเบือนของตลาด ทำให้ราคาก๊าซหุงต้มถูกมาก จนเหมือนเป็นของฟรี หากจะแก้เรื่องนี้ต้องใช้เวลาและความเด็ดเดี่ยวทางการเมืองมาก”
นาวาเอก ดร.สมัย กล่าวอีกว่า การปรับโครงสร้างปตท. เป็นนโยบายที่รัฐบาลยังไม่ได้ทำและควรจะทำ ไม่ว่าอย่างไรรัฐบาลจะต้องบริหารจัดการให้บริษัทที่ยังไม่ปรับให้เกิดการเปิดกว้างทางอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติ ต้องทำให้เห็นภาพชัดและเกิดเป็นรูปธรรม
“หากจะทำให้ก๊าซธรรมชาติเป็นการเปิดตลาดเสรี อย่างที่ควรจะเป็นนั้นต้องดูโครงสร้างการบริหาร ว่าจะบริหารบริษัทน้ำมันแห่งชาติกันอย่างไร ให้เกิดความโปร่งใส รักษาผลประโยชน์ของผู้บริโภคและรักษาความยุติธรรมของระบบตลาด เหล่านี้เป็นสิ่งที่จะต้องทำและยังไม่ได้ทำ”
สำหรับนโยบายพลังงานที่ควรจัดทำเร่งด่วน ในปี 2555 นาวาเอก ดร.สมัย กล่าวว่า จะต้องดูแลเรื่องก๊าซ น้ำมันและพลังงานทดแทน รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่รัฐบาลสัญญาไว้ในนโยบาย จึงจำเป็นต้องทำให้ได้ แต่ต้องไม่ลืมว่าปัญหาหลักของนโยบายพลังงานที่เกิดขึ้นเสมอ คือ การบิดเบือนราคาจนประชาชนคิดว่าพลังงานมีราคาถูก เรียกได้ว่าเป็นปัญหาเรื้อรัง ที่หากใครสามารถแก้ได้ คงเรียกได้ว่าเป็น "วีรบุรุษ"
