ดร.อานนท์ เผยผลทดลองรันโมเดล แผนบริหารจัดการน้ำ กยน.

กรรมการ กยน. ชี้ชัดหากการดำเนินงานเป็นไปตามแผน บางบัวทองด้านล่างยังคงมีท่วมบ้าง ฝั่งธนบุรีเขตกทม.จะไม่ท่วม รอดหมด ทั้งดอนเมือง สายไหม และหลักสี่ ส่วนนครปฐม นนทบุรี และปทุมธานี ท่วมบางส่วน
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา กรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการกยน. ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ต่อจากนี้คณะทำงานจะมีการทำงานการสื่อสารทำความเข้าใจมากขึ้น จัดทำระบบให้ข้อมูลต่างๆ ที่เคยกระจัดกระจายและเป็นข้อมูลทางเทคนิค ให้เข้าใจและสื่อสารได้ง่ายขึ้น อีกประมาณ 1 สัปดาห์ จะได้เห็นว่าแต่ละโครงการจะตอบสนองยุทธศาสตร์อย่างไรบ้าง
ดร.อานนท์ กล่าวว่า มีการกำหนดพื้นที่รับน้ำไว้คร่าวๆ แล้ว อย่างไรก็ตามในปี 2555 ยังคงต้องใช้กระบวนการทางธรรมชาติเป็นหลัก เพราะในหลักการพื้นที่รับน้ำตามทฤษฎีต้องมีระบบบริหารจัดการที่ดีกว่านี้ ในปีนี้ทางกายภาพคงยังทำอะไรไม่ได้มาก แต่ก็จะมีกระบวนการในการชดเชยและทำความเข้าใจ รวมถึงการส่งเสริมเรื่องอาชีพและการทำการเกษตรที่สอดคล้องกับน้ำท่วม
“หลักๆ เป็นพื้นที่ตอนบน เช่น พิษณุโลก พิจิตร ลงมาถึงนครสวรรค์ ส่วนตอนล่าง มีอยุธยา และบางส่วนของสุพรรณบุรี อำเภอผักไห่ เสนา และสองพี่น้อง ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ในแต่ละปีท่วมขังรวมๆ กันแล้วหลายล้านไร่ ที่เคยได้ยินตัวเลขพื้นที่รับน้ำ 2 ล้านไร่นั้นไม่ใช่พื้นที่ทั้งหมด แต่เป็นเป้าหมายเบื้องต้นว่า ในระยะแรกการบริหารจัดการเริ่มต้นที่ 2 ล้านไร่ เพราะให้ปูพื้นทั้งหมดยังทำไม่ไหว ซึ่งหลายอย่างเริ่มต้นแล้วในปีนี้ และบางส่วนอยู่ในระยะยั่งยืน ทั้งนี้ ในส่วนของแผนระยะเร่งด่วนจะต้องเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2555 เช่น โครงการซ่อมต่างๆ” ดร.อานนท์ กล่าว และว่า สำหรับค่าเยียวยาในแต่ละพื้นที่ในวันนี้ยังไม่ได้พูดคุยในรายละเอียด แต่จะมีคณะทำงานด้านนี้แน่นอน ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะลงรายละเอียดเรื่องการชดเชยเยียวยา
ทั้งนี้ ดร.อานนท์ ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวในช่วงท้ายเกี่ยวกับการคาดการณ์สถานการณ์อุทกภัยในฐานะนักวิชาการว่า ได้มีการทดลองรันโมเดล โดยใช้แผนบริหารจัดการน้ำของกยน. เช่น การจัดการ Rule Curve การขยายคลอง ฯลฯ พบว่าผลของกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะสามารถลดปริมาณน้ำที่ท่วมขังในบริเวณเหล่านี้ได้ครึ่งหนึ่ง จากเดิมจุดสูงสุด 7,500 ล้านลูกบาศก์เมตร จะลดเหลือ 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ฉะนั้น การป้องกันพื้นที่ปริมณฑลที่อยู่ภายในคันกั้นน้ำจะรอดทั้งหมด ที่จะท่วม คือพื้นที่ทุ่งและพื้นที่รอบนอกบางส่วน
“ผลการทดลองรันโมเดลหากการดำเนินงานของกยน.เป็นไปตามแผนทั้งหมด พบว่า บางบัวทองด้านล่างยังคงมีท่วมบ้าง ฝั่งธนบุรีเขตกทม.จะไม่ท่วม นครปฐม นนทบุรี และปทุมธานียังมีท่วมบางส่วน สำหรับอยุธยา อำเภอบางบาล ผักไห่ก็เป็นพื้นที่ที่กำหนดให้รับน้ำอยู่แล้ว แต่ระยะในการท่วมและระดับในการท่วมจะสั้นลงประมาณครึ่งหนึ่งอย่างแน่นอน เขตกทม.จริงๆ จะรอดหมด ทั้งดอนเมือง สายไหม และหลักสี่” ดร.อานนท์ กล่าว และว่า ในส่วนพื้นที่ที่มีคันพระราชดำริ จะมีการเสริมคันให้สูงขึ้นประมาณ 2.8-3 เมตร อย่างดอนเมืองแผ่นดินจะทรุดลงปีละ 2 เซนติเมตร แต่คันสร้างขึ้นมาเป็น 10 ปี รวมๆ ก็ทรุดไปกว่าฟุต ความสูงของคันจึงต้องมีการปรับปรุง
พิษณุโลก-พิจิตรน้ำจะท่วมเร็วขึ้น 1 เดือน
ผู้สื่อข่าวถามถึงสถานการณ์น้ำค้างทุ่งในขณะนี้ ดร.อานนท์ กล่าวว่า จากภาพถ่ายดาวเทียมในวันที่ 25 มกราคม 2555 มวลน้ำเหลืออยู่ 2 พันกว่าตารางกิโลเมตร ในแถบอำเภอบางบาล สองพี่น้อง บางปลาม้า และมีกระจัดกระจายอยู่แถบอยุธยา สิงห์บุรีและอ่างทองบางส่วนแต่ไม่มาก แต่พื้นที่แก้มลิงและทุ่งน้ำนอง อย่างพิษณุโลก และพิจิตรน้ำจะท่วมเร็วขึ้นประมาณ 1 เดือน จากปกติน้ำจะมาเดือนกรกฎาคม ตอนนี้อาจจะเดือนพฤษภาคม ดังนั้น การทำความเข้าใจและมีมาตรการฟื้นฟูเยียวยา ส่งเสริมการประกอบอาชีพให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ก็จะสามารถช่วยทุเลาลงได้
“มาตรการนี้พื้นที่ที่น้ำท่วมจะน้อยลง เพราะยืดการท่วมไปเป็น 5 เดือนเศษๆ ใช้หลักการคือ แทนที่จะให้น้ำโหมมาอยู่ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคมเหมือนเดิม จะกระจายให้ยาวขึ้นและเกลี่ยให้เท่ากัน ฉะนั้น ปีนี้จะเห็นได้ว่าน้ำในเจ้าพระยาจะเต็มฝั่งตลอดแต่ไม่ล้น เพราะมีการเร่งระบายน้ำให้ลงทุ่งเพื่อให้ไหลลงทะเล ส่งผลให้การกระจายน้ำลงทะเลดีขึ้นตลอดทั้งปี แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศชายฝั่งที่ต้องมีการวิเคราะห์ต่อไป เช่น การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ปัจจัยค่าความเค็มเป็นเรื่องสำคัญ”
