ภตค. เปิดตัว 'หมาเฝ้าบ้าน' รับสมัครอาสาจับตาทุจริต

ภตค. เปิดตัวโครงการหมาเฝ้าบ้าน “ประมนต์” เผย เตรียมรับสมัครอาสาสมัคร 1,000 คนร่วมอบรมกฎหมาย-วิธีให้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ หวังสร้างเครือข่ายเตือนภัยคอร์รัปชั่นทั่วประเทศ
วันที่ 31 มกราคม นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น แถลงข่าวภายหลังการประชุมภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น (ภตค.) ครั้งที่ 1/2555 ร่วมกับองค์กรภาคี 39 องค์กรว่า ภตค .ได้วางบทบาทในการต่อต้านคอร์รัปชั่น ทั้งด้านการป้องกัน ปลูกฝังและร่วมมือกับภาครัฐ และเพื่อสร้างอาสาสมัครเครือข่ายเตือนภัยการทุจริตคอร์รัปชั่น ทางเครือข่ายฯ จึงได้เปิดโครงการ ‘หมาเฝ้าบ้าน’ (Watch Dog) เพื่อให้ประชาชนที่มีจิตอาสาจำนวน 1,000 คนจากทั่วประเทศ เข้ามามีส่วนร่วมในการต่อต้านคอร์รัปชั่น โดยจะมีการจัดหลักสูตรอบรมให้แก่อาสาสมัครดังกล่าว ทั้งหลักกฎหมาย การตรวจสอบ การให้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพน่าเชื่อถือ ตลอดจนการเป็นผู้นำสร้างจิตสำนึกในการต่อต้านคอร์รัปชั่น
“การอบรมโครงการหมาเฝ้าบ้านครั้งนี้ ภตค.ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ความรู้ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงบประมาณ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สื่อมวลชน และองค์กรเสริมสร้างความเป็นผู้นำ โดยโครงการจะเปิดรับอาสาสมัครตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะมีการอบรมในช่วงเดือนมีนาคม 2555 ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 02-622-1860-76 ต่อ 543-545”
ส่วนการเฝ้าระวังทุจริตในการใช้งบประมาณฟื้นฟูประเทศหลังอุทกภัยนั้น นายประมนต์ กล่าวว่า ทางเครือข่ายฯ ได้ยื่นจดหมาย สรุปข้อคิดเห็นของนักธุรกิจ นักวิชาการ รวมทั้งเอ็นจีโอ เกี่ยวกับแนวทางการเฝ้าระวังการทุจริตการใช้งบประมาณฟื้นฟูประเทศ ประกอบด้วย กลไกการเปิดเผยข้อมูล ทั้งภาครัฐและเอกชน กลไกการตรวจสอบ และการสนับสนุนให้คณะรัฐมนตรี เห็นชอบในข้อเสนอของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ให้หน่วยงานภาครัฐจัดทำและเปิดเผยราคากลาง การประมูลและจัดซื้อจัดจ้างตามโครงการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม เพื่อให้การตรวจสอบทุจริตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ทางเครือข่ายได้ส่งจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีอีกฉบับ เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว
นายประมนต์ กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าในส่วนของการประสานงานกับ ป.ป.ช. ในการผลักดันกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวกับระบบการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความโปร่งใส ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตตามมาตรา 103/7 และมาตรา 103/8 นั้น มีการความพยายามร่วมกันในการผลักดันอย่างต่อเนื่อง โดยเสนอให้ทุกโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เปิดเผยข้อมูลการดำเนินการผ่านระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและสามารถตรวจสอบข้อมูลได้
“นอกจากนี้ สมาชิกภาคีเครือข่ายฯ ยังได้วางโครงการที่จะช่วยปลูกฝังเยาวชน ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดกระแสการต่อต้านคอร์รัปชั่นมากขึ้นผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการ D Passport นวัตกรรมรับคนดีเข้าทำงาน เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการรับสมัครพนักงานเข้าทำงานในองค์กร”
