กรณ์ น้อมรับคำวินิจฉัยของศาล พร้อมเกาะติดกรอบ-การใช้เงิน 3.5 แสนล.

ปลัด ก.คลัง เตรียมเสนอแผนเข้า ครม.สัปดาห์หน้า เผยเน้นกู้เงินในประเทศเป็นหลัก ด้านกรณ์ ย้ำฝ่ายค้าน-วุฒิสภาจะตรวจสอบเข้ม ให้เวลาพิสูจน์ เร่งด่วนจริง ลั่นไม่ใช้ม.270ยื่นถอดถอนอีก
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการรับฟังการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 ว่าพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2555 และพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบการบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 นั้นเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ขั้นตอนต่อไปรัฐบาลก็สามารถนำ พ.ร.ก.ทั้ง 2 ฉบับยื่นให้สภาฯ ยืนยันได้ ซึ่งในส่วนของฝ่ายค้านก็เคารพในคำวินิจฉัยตัดสินของศาล และคงจะไปแสดงความคิดเห็นต่อไปในสภาฯ
"ในส่วนของ พ.ร.ก.กู้ยืมเงิน 350,000 ล้านบาทนั้น ขั้นตอนต่อไปที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการ คือ เสนอแผนในการใช้เงิน และเสนอโครงการให้สภาฯ ได้มีโอกาสในการพิจารณาก่อนที่จะกู้ยืมเงินได้ ทั้งนี้ ฝ่ายค้านไม่ได้ติดใจอะไรในคำวินิจฉัยตัดสินของศาล เพราะการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เนื่องจากเชื่อว่ากฎหมายทั้ง 2 ฉบับน่าจะพิจารณาได้ตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ มีความรัดกุมและถูกต้องมากกว่า รวมทั้ง จะเป็นประโยชน์ต่อวินัยทางการคลังในระยะยาว ที่ตนเห็นว่าควรต้องระมัดระวังการให้อำนาจฝ่ายบริหารในการตรากฎหมายได้โดยไม่ผ่านนิติบัญญัติพิจารณา"
นายกรณ์ กล่าวต่อว่า ฝ่ายค้านจะไม่ใช้มาตรา 270 ในการยื่นถอดถอนอีกครั้งอย่างแน่นอน เนื่องจากศาลได้วินิจฉัยแล้ว แต่ฝ่ายค้านก็กังวลว่าจะเป็นมาตรฐานที่ให้สิทธิอำนาจกับฝ่ายบริหารในการตรากฎหมายได้โดยไม่ต้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติได้ปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบในฐานะตัวแทนประชาชน ซึ่งตนคิดว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่ก็เคารพในคำวินิจฉัยของศาลทุกประเด็น
"หัวใจของการออกกฎหมายต้องมีความโปร่งใส ให้ฝ่ายค้านและสภาฯ โดยรวมได้ทำหน้าที่ตรวจสอบ ฉะนั้น การออกกฎหมายกู้ยืมเงินกว่า 350,000 ล้านบาท โดยไม่จำเป็นต้องแสดงรายละเอียดและระยะเวลาในการใช้เงินจะเป็นเรื่องอันตราย และพยายามชี้แจงกับตุลาการว่าขัดต่อหลักวินัยทางการคลังในบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ แต่กรณีดังกล่าว ศาลก็วินิจฉัยว่าเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากมีภัยน้ำท่วมและมีความจำเป็นเร่งด่วนในการฟื้นฟู"
นายกรณ์ กล่าวว่า หลังจากนี้ฝ่ายค้านจะติดตามดูกรอบและการใช้เงิน 350,000 ล้านบาทว่า เป็นไปในลักษณะที่เร่งด่วนจริงหรือไม่ เพราะหากระยะเวลาผ่านไป 1-3 ปี แต่เงิน 350,000 ล้านบาทยังใช้ไม่หมด ก็เป็นข้อพิสูจน์ในตัวเองว่า ไม่ได้มีความจำเป็นเร่งด่วนจริงในการกู้ยืม จากนี้ถือว่าศาลให้โอกาสรัฐบาลพิสูจน์ความจำเป็นเร่งด่วนดังกล่าว
"จากนี้เป็นกระบวนการที่รัฐบาลต้องออกมาชี้แจงรายละเอียด และรีบเร่งในการจัดทำแผนฟื้นฟูและแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยจะมีฝ่ายค้าน และวุฒิสภาคอยติดตาม ตรวจสอบในฐานะผู้แทนของประชาชน เพราะหากไม่มีการตรวจสอบอย่างเข็มข้น ก็อาจไม่เป็นแรงกดดันให้รัฐบาลทำหน้าที่ได้ตามที่ควร ซึ่งตนก็ห่วงว่าอาจเป็นเหตุผลให้รัฐบาลมีความมั่นใจขึ้นว่าอนาคตจะหลีกเลี่ยงการตรวจสอบโดยสภา"
นายกรณ์ กล่าวถึงการที่รัฐบาลจะกู้ยืมเงินมาใช้โดยไม่ผ่านการตรวจสอบของสภาฯ ก็เป็นความสะดวกในการดำเนินการ แต่หากอนาคตคิดว่าจะจัดงบประมาณในลักษณะนี้ได้อีก ก็จะมีผลทางลบต่อระบบการคลังของประเทศอย่างปฏิเสธไม่ได้ เหตุที่ฝ่ายค้านให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่า เมื่อมีการวินิจฉัยในลักษณะนี้อาจเป็นบรรทัดฐานต่อไปว่า รัฐบาลในอนาคตจะอ้างเหตุการณ์และตราพระราชกำหนด แทนที่จะออกกฎหมายผ่านการพิจารณาตามระบบในรัฐสภาอย่างที่ควร
สำหรับสิ่งที่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการนั้น นายกรณ์ กล่าวว่า คือ การชี้แจงว่าจะดูแลประโยชน์ของประชาชนผู้มีบัญชีเงินออมอย่างไร เพราะสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คือ ขณะนี้ความมั่นคงของสถาบันคุ้มครองเงินฝากหายไป เนื่องจากค่าธรรมเนียมที่เคยได้รับในอดีตจะหมดไป และทำให้เงินทุนในกองทุนคุ้มครองเงินฝากมีไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย รวมทั้งต้องติดตามไม่ให้สถาบันการเงินผลักภาระหนี้ที่ได้รับโอนมาจากรัฐบาลมายังประชาชนในระดับที่เกินควร
เดินหน้ากู้เงินในประเทศเป็นหลัก
ขณะที่นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้เตรียมพร้อมแล้วในเรื่องกระบวนการที่จะพิจารณากฎเกณฑ์ต่างๆ ของเงินกู้ โดยนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีก็ได้ลงตรวจเยี่ยมพื้นที่ต่างๆ เพื่อที่ให้โครงการมีความชัดเจน และให้ กยน.มีโครงการที่ชัดเจน ก็จะมีการทยอยดำเนินการอย่างดำเร่งด่วนออกมา ซึ่งจะเร่งเสนอให้ รมว.คลัง ลงนาม และยื่นต่อ ครม.ในสัปดาห์หน้า
"การกู้เงินจะดูว่าสอดคล้องกับการใช้เงินว่าเป็นสกุลบาท หรือสกุลต่างประเทศ ส่วนใหญ่เมื่อดูจากแผนแล้วจะเป็นเงินสกุลเงินภายในประเทศ ดังนั้น ก็จะกู้เงินภายในประเทศเป็นหลัก โดยรูปแบบก็คงจะออกเป็นพันธบัตร ทั้งนี้ การกู้เงินจะสอดคล้องกับการใช้จ่ายของเงิน และการอนุมัติโครงการ ซึ่งคาดว่าไม่เกินเดือนมิถุนายน 2556 จะแล้วเสร็จ และสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างเต็มรูปแบบ กระทรวงต่างๆ และ กยน.ก็จะรุดหน้าทำแผนออกมาให้ชัดเจน ขับเคลื่อนไปข้างหน้าให้มีการแก้ไข เพื่อสร้างความมั่นใจกับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ"
นายอารีพงศ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะ จะทำให้เกิดความชัดเจนและเกิดความมั่นใจกับต่างประเทศ และผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ ว่าการจัดการที่จะกู้เงินต่างประเทศต่อไปข้างหน้าจะสามารถทำไปได้โดยมีวินัย และจะไม่เกินภาระของภาครัฐในการที่จะสามารถหาเงินมาชดใช้ได้
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550
ส่วนที่ 3
การถอดถอนจากตำแหน่ง
มาตรา 270 ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด หรืออัยการสูงสุด ผู้ใดมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง วุฒิสภามีอำนาจถอดถอนผู้นั้นออกจากตำแหน่งได้
บทบัญญัติวรรคหนึ่งให้ใช้บังคับกับผู้ดำรงตำแหน่งดังต่อไปนี้ด้วย คือ
(1) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน และกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
(2) ผู้พิพากษาหรือตุลาการ พนักงานอัยการ หรือผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ศาล รธน. ชี้ขาด พ.ร.ก. 2 ฉบับผ่านฉลุย
