12 บ.ใหญ่ บรรลุภารกิจ “พลังน้ำใจไทย” ฟื้นฟู 84 ร.ร. สร้างอนาคตชาติ

12 บริษัทยักษ์ใหญ่ปิดโครงการ “พลังน้ำไทย” หลังฟื้นฟู-คืนรอยยิ้มครบ 84 ร.ร. จาก 12 จังหวัด เชื่อเยาวชนกำหนดอนาคตที่ดีประเทศได้ คาดอาจสานต่อโครงการต่อ
เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มโครงการ “พลังน้ำใจไทย Power of Thai” ที่ริเริ่มโดย บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ 12 องค์กร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน), บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด, กลุ่มบริษัททรู ในเครือเจริญโภคภัณฑ์, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน), กลุ่มมิตรผล, บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน), บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในเครือสหพัฒน์ จัดกิจกรรม โครงการพลังน้ำใจไทย บรรลุภารกิจ คืนรอยยิ้มให้กับโรงเรียน พร้อมส่งมอบโรงเรียนที่ 84 ณ โรงเรียนสามัคคีวิทยา (เชื้อผู้ดีอุปถัมภ์) อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมีคณะผู้บริหาร พนักงานในองค์กรและศิลปินร่วมงาน
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผจก.ใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บ.ทรูฯ ในฐานะตัวแทนกลุ่มโครงการพลังน้ำใจไทย กล่าวว่า โครงการ “พลังน้ำใจไทย Power of Thai” ก่อตั้งขึ้น เพื่อระดมทุนในการฟื้นฟูด้านการศึกษา โดยมุ่งตรงไปที่การฟื้นฟูโรงเรียนที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ผ่านมา ซึ่งโครงการเริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนธันวาคม และตั้งเป้าฟื้นฟู 84 โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
โดยที่เป็นโรงเรียนจาก 12 จังหวัด ประกอบด้วย จ.พระนครศรีอยุธยา 21 แห่ง จ.นนทบุรี 14 แห่ง จ.ลพบุรี 11 แห่ง จ.นครปฐม 11 แห่ง จ.สิงห์บุรี 8 แห่ง จ.ปทุมธานี 6 แห่ง จ.สุพรรณบุรี 4 แห่ง จ.ชัยนาท 4 แห่ง จ.นครสวรรค์ 2 แห่ง จ.พิษณุโลก 1 แห่ง จ.อุทัยธานี 1 แห่ง และ จ.อ่างทอง 1 แห่ง เพื่อให้สามารถเปิดการเรียนการสอนปกติได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งรูปแบบในการดำเนินการ เป็นการฟื้นฟู และซ่อมแซมอาคาร สถานที่ ปรับปรุงภูมิทัศน์ และมอบโต๊ะ-เก้าอี้เรียน รวมถึงอุปกรณ์ในการเรียนการสอน
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้กลุ่มพลังน้ำใจไทยฯ ได้ดำเนินการฟื้นฟูโรงเรียนมาจนถึงโรงเรียนที่ 84 ได้แก่ โรงเรียนสามัคคีวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัด สพฐ. โดยถือเป็นการบรรลุภารกิจในการฟื้นฟู และส่งคืนรอยยิ้มสู่โรงเรียนได้ครบทั้ง 84 แห่งตามปณิธาน ให้โรงเรียนกลับมาเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ ซึ่งอาจจะไม่ครบถ้วนทุกโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบ แต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี
“แม้ว่าอุทกภัยครั้งนี้จะส่งผลกระทบในหลากหลายด้าน ทั้ง เศรษฐกิจ และสังคม แต่ทางโครงการฯ เห็นว่า การฟื้นฟูโรงเรียน ที่เป็นองค์กรสร้างเยาวชนให้เป็นอนาคตที่ดีของชาติ และกำหนดความเจริญของประเทศในอนาคตจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และหากเป็นไปได้โครงการพลังน้ำใจไทยฯ อาจสานต่อกิจกรรมดีๆ เช่นนี้ต่อ”
นายกิตติศักดิ์ นิยมราษฎร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสามัคคีวิทยา กล่าวว่า โรงเรียนมีนักเรียนกว่า 300 คน เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล1 ไปจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม กระทั่ง 20 ธันวาคม 2554 รวมแล้วร้อยกว่าวัน ในระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ซึ่งเป็นน้ำที่กระทบมาจากอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี
“ในขณะที่ถนนสายหลัก และชุมชนโดยรอบน้ำเริ่มแห้งแล้ว แต่โรงเรียนยังคงท่วมและแห้งช้าที่สุด ส่งผลให้สภาพของโรงเรียนเสียหายอย่างหนัก อาคารเรียนชั้นล่าง รวมทั้งโต๊ะ-เก้าอี้เรียน ชั้นหนังสือ รวมถึงห้องสมุดได้รับความเสียหายมาก ในช่วงเริ่มเปิดเรียนแรกนักเรียนต้องนั่งเรียนกับโต๊ะไม้หิน และไม่มีน้ำใช้ การฟื้นฟูของโครงการพลังน้ำใจไทย นับเป็นการช่วยเหลือครั้งใหญ่ที่เปลี่ยนจากน้ำท่วมเป็นน้ำใจ”
ประมวลภาพเพิ่มเติม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 12 บริษัทยักษ์ใหญ่ ผนึกพลัง ตั้งโครงการ 'ฟื้นฟู' ประเทศ หลังน้ำลด
