ใต้อึมครึมครูดับอีกศพ สองวันยิง-บึ้ม 4 จุด จนท.เจ็บ 8
อะหมัด รามันห์สิริวงศ์ / แวดาโอ๊ะ หะไร
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
ใต้เดือดรายวัน ประกบยิงครูที่โคกโพธิ์ดับอีกศพ ผบ.พตท.เต้นสั่งสอบมาตรการรักษาความปลอดภัย จี้ทบทวนด่วน เหตุกำชับแล้วกำชับอีกก็ยังปล่อยให้เกิดเรื่อง สถานการณ์ในพื้นที่วุ่นหนัก สองวัน "ยิง-บึ้ม" ถล่มเจ้าหน้าที่ 4 จุด เจ็บรวม 8 นาย กราดยิงผู้ใหญ่บ้านสาหัสที่รือเสาะ ค้นบ้านต้องสงสัยที่จะกว๊ะ เจอเอกสารผลิตระเบิดเพียบ ด้าน ผบ.ทบ.ล่องใต้เรียกประชุมผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงวิกฤติและเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 15.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย.2553 พ.ต.ท.กีรติ แวยูโซ๊ะ รองผู้กำกับการ สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนสายโคกโพธิ์-เทพา หน้าปั๊มน้ำมันบางจาก ท้องที่หมู่ 2 บ้านกาโผะ ต.โคกโพธิ์ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี)
ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า หมายเลขทะเบียน ฌ 7700 ปัตตานี ล้มคว่ำอยู่ข้างทาง ข้างๆ กันมีกองเลือดกองใหญ่ ส่วนผู้บาดเจ็บมีพลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์แล้ว คือ นายบุญนำ ยอดนุ้ย อายุ 41 ปี ครูโรงเรียนบ้านท่าคลอง โดยนายบุญนำถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 เข้าที่ลำตัว 3 นัด อาการสาหัส แพทย์ได้พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากเสียเลือดมาก จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายบุญนำกำลังขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้ากลับบ้าน โดยมีเพื่อนครูขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมาด้วยจำนวน 5 คัน เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบอย่างรวดเร็ว และชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่นายบุญนำหลายนัดต่อหน้าต่อตาเพื่อนครูที่ขี่รถตามหลัง ทำให้รถเสียหลักล้มลงข้างทาง และนายบุญนำได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะเสียชีวิตดังกล่าว ขณะที่คนร้ายเร่งเครื่องรถหายไปอย่างไร้วี่แวว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
หลังเกิดเหตุ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ส่งข้อความสั้นทางโทรศัพท์มือถือ แจ้งว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัววัยรุ่นต้องสงสัยได้ 2 คน ขณะกำลังผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า คาดว่าน่าจะเกี่ยวกับเหตุการณ์ประกบยิงครูบุญนำ แต่จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวไปยังหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 เจ้าของพื้นที่ กลับได้รับการยืนยันว่าเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และควบคุมตัวไว้ได้เพียงคนเดียว
ทั้งนี้ นายบุญนำเป็นครูรายที่ 2 ที่ถูกยิงเสียชีวิตในห้วงเวลาไม่ถึง 1 เดือน โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ก่อนเปิดภาคเรียนใหม่เพียง 10 วัน คนร้ายได้ก่อเหตุลอบยิง นายภาศ ลาภเจือจันทร์ อายุ 45 ปี ครูโรงเรียนบ้านกรือเซะ ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เสียชีวิตมาแล้ว โดยนายบุญนำนับเป็นบุคลากรทางการศึกษารายที่ 129 ที่ต้องสูญเสียชีวิตในสถานการณ์ความไม่สงบที่ดำเนินมากว่า 6 ปี
ผบ.พตท.เต้นสั่งสอบข้อเท็จจริง
พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการกองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท.) กล่าวว่า ได้สั่งให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงการดูแลความปลอดภัยครูของ จ.ปัตตานี หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงนายบุญนำ ครูโรงเรียนบ้านท่าคลองจนเสียชีวิต เนื่องจาก จ.ปัตตานี เกิดเหตุการณ์รุนแรงกับครูมาแล้วหลายครั้ง ทั้งๆ ที่ได้กำชับให้เฝ้าระวังความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
"ผมจะสั่งให้ทบทวนแผนการ รปภ.ครูของเจ้าหน้าที่ชุด รปภ.ที่รับผิดชอบพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ เพื่อดูว่ามีความบกพร่องหรือผิดพลาดตรงขั้นตอนไหน รวมถึงในช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้นมีกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลคุ้มครองคณะครูที่เดินทางกลับบ้านพร้อมกันหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด" พล.ท.กสิกร ระบุ
ผบ.พตท. กล่าวด้วยว่า พื้นที่ อ.โคกโพธิ์ นั้น ก่อนหน้านี้ประมาณ 1-2 สัปดาห์พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมออกมาสร้างสถานการณ์ถี่ผิดปกติ ทำให้กำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายในจังหวัดเฝ้าระมัดระวังเหตุร้ายมากขึ้น แต่สุดท้ายก็ยังเกิดความรุนแรงขึ้นจนได้ จึงจำเป็นต้องทบทวนแผนทั้งหมดอีกครั้ง
ดักบึ้มทหารพรานที่เจาะไอร้องเจ็บหนึ่ง
เมื่อเวลา 07.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ ผู้กำกับการ สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พร้อมด้วย พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 45 พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ รองผู้กำกับการพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบเหตุระเบิดบริเวณป่ารกทึบทางเข้าหน่วยพัฒนาสันติที่ 31-11 กรมทหารพรานที่ 45 ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงเรียนบ้านยานิง หมู่ 2 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 นาย คือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) อมร บุญทอง อายุ 27 ปี
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบร่องรอยระเบิดที่คนร้ายใช้ เป็นชนิดแสวงเครื่องแบบเครโม ประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก น้ำหนัก 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ วางไว้โคนต้นไม้ปากทางเข้าฐานปฏิบัติการหน่วยพัฒนาสันติที่ 31-11 ทำให้บริเวณโคนต้นไม้เกิดหลุมลึกประมาณ 2 ฟุต กว้าง 4 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนระเบิดกระจายเกลื่อน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบปากคำ ส.ท.อิทธิชัย เพชรรัตน์ทอง อายุ 29 ปี สังกัดหน่วยพัฒนาสันติที่ 31-11 ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเขาได้ขับรถยนต์เก๋งของ อส.ทพ.อมร ออกจากฐาน โดย อส.ทพ.อมร นั่งคู่กันไปด้วย เพื่อเดินทางไปรับคอมพิวเตอร์ที่นำไปซ่อมไว้ที่ตลาดในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เสร็จแล้วจึงขับรถไปรับ นางวิมล บุญทอง พี่สาวของ อส.ทพ.อมร นั่งรถมาด้วยกัน 3 คน เนื่องจากนางวิมลจะใช้รถยนต์ของ อส.ทพ.อมรต่อ
เมื่อถึงปากทางเข้าฐาน และ อส.ทพ.อมร กำลังลงจากรถ มีคนร้ายซึ่งคาดว่าแฝงตัวอยู่ในมุมมืดใช้โทรศัพท์มือถือกดจุดชนวนระเบิดที่นำไปวางไว้บริเวณโคนต้นไม้ จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงระเบิดทำให้ อส.ทพ.อมร ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เพื่อนทหารช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ที่ จ.นราธิวาส พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. และแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เดินทางลงพื้นที่เพื่อประชุมติดตามผลการปฏิบัติงานการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ โดยมีนายทหารระดับผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจากทุกจังหวัดและผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจเลข 2 ตัวเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
ค้นบ้านผู้ต้องสงสัยที่จะกว๊ะเจอคู่มือผลิตระเบิด
ที่ จ.ยะลา พ.ต.ท.ทรงวุฒิ ศรีอาราม สารวัตรใหญ่ สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน พร้อมด้วย พ.ท.อิศรา จันทกระยอม ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 ได้สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านปูลาสะนอ หมู่ 3 ต.จะกว๊ะ เนื่องจากช่วงหัวค่ำของวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายบุญส่ง มณีโชติ อายุ 31 ปี ราษฎรบ้านทุ่งขมิ้น หมู่ 3 ต.ตะโละหะลอ อ.รามัน จนเสียชีวิต และนายอายุ หะตะมะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 3 บ้านปูลาสะนอ ต.จะกว๊ะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ทั้ง 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ไปล่าสัตว์ในป่าท้ายหมู่บ้าน
ทั้งนี้ เมื่อกำลังผสมกำลังเคลื่อนที่ผ่านไปยังบ้านไม่มีเลขที่หลังหนึ่งซึ่งปลูกอยู่ท้ายหมู่บ้าน ปรากฏว่ามีชายฉกรรจ์จำนวน 3 คนกระโจนออกจากหน้าต่างหลังบ้านแล้ววิ่งหนีเข้าป่ายางด้านหลังไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าตรวจค้นภายในบ้าน เจ้าหน้าที่พบเอกสารสำคัญหลายรายการ โดยเฉพาะเอกสารที่เกี่ยวกับการประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง ทั้งแบบจุดชนวนกับเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ และแบบอื่นๆ เช่น แบบตั้งเวลา แบบเหยียบ จึงได้ยึดไปตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าชายฉกรรจ์กลุ่มนี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลอบเผาสถานีทวนสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ แล้วลอบวางกับระเบิดแบบเหยียบเอาไว้ใต้ป้ายผ้าที่เขียนข้อความสนับสนุนรัฐปัตตานี จนทำให้ จ.ส.อ.พิสิทธิ์พงศ์ พิมพ์วาปี ทหารสังกัดหน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 เดินไปเหยียบจนเกิดระเบิดและขาขวาขาด เหตุเกิดเมื่อตอนสายวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา
บึ้มชุด รปภ.ครูที่บาเจาะเจ็บ 2
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพุธที่ 2 มิ.ย. ยังเกิดเหตุรุนแรงอีกหลายเหตุการณ์ โดยเมื่อเวลา 08.10 น. ร.ต.อ.สุชาติ หมีลำพอง ร้อยเวร สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดหวังสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดรักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) บนถนนเพชรเกษม (นราธิวาส-ปัตตานี) ช่วงหน้าโรงเรียนปะลุกานากอ ในเขตเทศบาลตำบลบาเจาะ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มคว่ำอยู่ 1 คัน นอกจากนั้นบริเวณโคนต้นไม้ใหญ่เจ้าหน้าที่ยังพบหลุมระเบิดลึก 5 ฟุต กว้าง 8 ฟุต โดยมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ กระจายเกลื่อนถนน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อนตำรวจได้นำตัวส่งโรงพยาบาลบาเจาะไปก่อนหน้าแล้ว คือ ส.ต.ท.สนธยา อุดหลี กับ ส.ต.ท.วีระพงศ์ ศรีสวัสดิ์ แต่เนื่องจากอาการค่อนข้างสาหัส แพทย์จึงส่งต่อไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
สอบสวน ร.ต.ท.แวยีดิง อิสาเฮาะ สารวัตรป้องกันและปราบปราม (สวป.) สภ.บาเจาะ หัวหน้าชุด รปภ.ครู ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำกำลังรวม 8 นาย ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน และนั่งรถสายตรวจอีก 1 คัน ออกจาก สภ.บาเจาะ เพื่อทำหน้าที่ส่งครูโรงเรียนปะลุกานากอ เสร็จแล้วจึงเดินทางกลับโรงพัก โดยมี ส.ต.ท.สนธยา และ ส.ต.ท.วีระพงศ์ ขี่รถจักรยานยนต์ปิดท้ายขบวน เมื่อถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายซึ่งแฝงตัวอยู่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือกดจุดชนวนระเบิดจนเกิดระเบิดขึ้น 1 ครั้ง แรงระเบิดทำให้ ส.ต.ท.สนธยา และ ส.ต.ท. วีระพงศ์ ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ยิงถล่มตำรวจบาเจาะขณะ รปภ.โรงเรียน-ลวงบึ้มซ้ำ
เวลา 11.05 น.ที่ อ.บาเจาะเช่นกัน เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามอาก้ายิงถล่มเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ประจำ สภ.บาเจาะ จำนวน 4 นาย ขณะทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 9 หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.อภิรัฐ สังข์ขาว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (รองผบก.ภ.จว.นราธิวาส) พร้อมด้วย พ.ต.อ.จำลอง งามเนตร ผู้กำกับการ สภ.บาเจาะ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรุดไปตรวจสอบ พบปลอกกระสุนปืนอาก้าของคนร้ายตกอยู่กว่า 20 ปลอก
ขณะที่ พ.ต.อ.อภิรัฐ กำลังรอกำลังสนับสนุนจาก พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หัวหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดก่อนเข้าเคลียร์พื้นที่นั้น ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งได้กระจายกันไปหลบแดดอยู่ตามร่มไม้และศาลาที่พักริมทาง ทันใดนั้นเองมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซึ่งแฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือกดจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 กิโลกรัม วางไว้โคนต้นไม้ข้างศาลาที่พักริมทาง จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกสะเก็ดระเบิดตามลำตัวได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ ส.ต.ต.พรชัย ชนะพจน์ กับ ส.ต.ต.เรวัตร ไพรินทร์ ส่วน พ.ต.อ.อภิรัฐ รอดจากสะเก็ดระเบิดมาได้อย่างหวุดหวิด เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบเช่นกัน
กราดยิง ผญบ.รือเสาะปางตาย-บึ้มอีกลูกที่กรงปินังทหารเจ็บ
ช่วงเย็นวันเดียวกัน ที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส คนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 กราดยิง นายนาวี แวหะมะ อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านสะโล หมู่ 7 ต.รือเสาะ ได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะขับรถกระบะกลับจากประชุมที่อำเภอ เหตุเกิดบริเวณโค้งมะโยง หมู่ 2 บ้านยะบะ ต.รือเสาะ
ที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ขณะที่ทหารชุดสันติสุขที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจยะลา 13 จำนวน 10 นาย กำลังเดินทางโดยรถกระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นบิ๊กเอ็ม สีเขียวเข้ม หมายเลขทะเบียน บว 8993 ยะลา เพื่อไปร่วมพิธีฝังศพ นายมะยูโซ๊ะ สาเมาะ อายุ 38 ปี ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านโฉลง ซึ่งถูกคนร้ายประกบยิงเสียชีวิตที่บ้านคล้า หมู่ 1 ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้ใช้เส้นทางลัดสายปุโรง-สะเอะ ซึ่งเป็นเส้นทางสายเปลี่ยวนั้น
ขณะรถแล่นเข้าพื้นที่บ้านโฉลง หมู่ที่ 1 ต.ปุโรง อ.กรงปินัง ได้ถูกคนร้ายจุดชนวนระเบิดที่ติดตั้งไว้ในถังดับเพลิงฝังไว้ใต้ผิวถนนจนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงระเบิดทำให้ให้รถกระบะได้รับความเสียหายและไถลตกถนน ทั้งยังทำให้ ส.อ.เรืองเดช โพธิ ได้รับบาดเจ็บ
-------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : รถกระบะของทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลา 13 ที่ถูกลอบวางระเบิดระหว่างเส้นทางในท้องที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา อยู่ในสภาพพังยับ