“กองทุนสตรี” ไม่เปรี้ยง ตั้งข้อแม้ ส่อเค้าบังคับ สมัครสมาชิก

ชาวบ้านแจง "กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี" รายละเอียดไม่ชัด เผยไม่อยากเป็นหนี้เพิ่ม รบ.ขยายเวลารับสมัครไปสิ้นมิ.ย. ด้าน 'มีชัย' ชี้หากบังคับ ขรก.หญิงมาเป็นสมาชิกขัดรธน.

ภายหลังที่รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนให้ดำเนินงานจัดตั้ง "กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี" ภายใต้วิสัยทัศน์ "สร้างสรรค์พลังสตรี ให้เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ" มุ่งสร้างรายได้ ลดปัญหา พัฒนาเครือข่าย ให้ผู้หญิงเข้มแข็ง เท่าเทียม ทั่วถึง ซึ่งดำเนินการภายใต้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พ.ศ.2555 โดยที่กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จะเป็นทั้งกองทุนกู้ยืมและสนับสนุนโครงการ หนุนเสริมการลงทุนแบบกลุ่มในระดับจังหวัด หรือตำบล และเบื้องต้นได้ประกาศรับสมัครสมาชิกถึงวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมานั้น

ผู้สื่อข่าวตรวจสอบไปยังแหล่งข่าวที่จังหวัดเชียงใหม่ ให้ข้อมูลว่า ในพื้นที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ รวมทั้งเครือข่ายสตรี 17 จังหวัดภาคเหนือ ยังมีผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกน้อย ด้วยเพราะกลุ่มสตรีในพื้นที่ยังไม่ทราบรายละเอียดและไม่มีความเข้าใจที่แน่ชัดเกี่ยวกับโครงการของกองทุนฯ โดยเข้าใจเพียงว่าเป็นกองทุนที่ให้กู้ยืมเงิน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น กลุ่มสตรีคงไม่อยากเข้าร่วม เพราะไม่อยากมีหนี้สินเพิ่ม ทั้งนี้ หากกองทุนฯ มีจุดมุ่งหมายและรายละเอียดเพื่อพัฒนา "บทบาท" ของสตรีอย่างแท้จริง ก็เป็นที่น่าสนับสนุน

แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวด้วยว่า ช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการน้อยมาก สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่รับสมัครสมาชิกกองทุนฯ จึงได้ทำหนังสือในลักษณะแผ่นพับประชาสัมพันธ์มายังกลุ่มสตรีในพื้นที่ให้มาสมัครเป็นสมาชิกกองทุนฯ โดยให้ขยายเวลาในการรับสมัครสมาชิกไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน รวมทั้งตั้งข้อแม้ด้วยว่า หากไม่ร่วมเป็นสมาชิก จะไม่สามารถเกี่ยวข้อง หรือรับรู้ถึงกระบวนการและการจ่ายเงินในกองทุนในพื้นที่ตนเองได้ ทำให้ชาวบ้านเข้าใจว่ามีความจำเป็นต้องสมัครเป็นสมาชิก

ซึ่งในประเด็นดังกล่าวนี้ เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา ได้ตอบคำถามผ่านเว็บไซต์มีชัย ไทยแลนด์ http://www.meechaithailand.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ถามตอบปัญหากฎหมายและการเมือง ถึงประเด็นคำถามจากนโยบายกองทุนพัฒนาสตรี ที่มีผู้ตั้งกระทู้ถาม กรณีข้าราชการที่เป็นหญิงและไม่สมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนพัฒนาสตรี ตามที่จังหวัดสั่งการ จะมีความผิดทางวินัยฐานขัดคำสั่งหรือไม่ สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลหรือฐานอื่นใดหรือไม่

ข้อซักถามดังกล่าว มีความสอดคล้องกับการเปิดเผยของแหล่งข่าวที่มีความพยายามจากองค์กรภาครัฐ เพื่อให้กลุ่มสตรีเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกของกองทุนฯ เพิ่มมากขึ้น ในหลากหลายวิถีทาง โดยนายมีชัย ได้ตอบข้อซักถามดังกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า

"การรวมตัวเป็นหมู่คณะ เป็นสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ใครจะบังคับให้ต้องเข้าร่วม หรือกีดกันไม่ให้เข้าร่วม ก็ไม่ได้ เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ และสิทธิมนุษยชน"