ลดอุบัติเหตุสงกรานต์ “มูลนิธิเมาไม่ขับ” มอบโล่-เงิน จังหวัดจัดการตายเป็นศูนย์

มูลนิธิเมาไม่ขับ รณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาล เปิดโครงการสงกรานต์ปลอดภัยตายเป็นศูนย์ จี้ทุกจังหวัดบริหารจัดการเข้มงวดกวดขันบังคับใช้กฎหมาย ตรวจจับผู้มีแอลกอฮอล์เกินกำหนด
นายดำรง พุฒตาล ประธานมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวกับศูนย์ข้อมูลข่าวสารนโยบายสาธารณะ สำนักข่าวอิศรา ถึงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ โครงการสงกรานต์ปลอดภัยตายเป็นศูนย์ ว่า ที่ผ่านมาพบว่าคนที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุส่วนใหญ่จะเกิดจากผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ แม้อุบัติเหตุในถนนใหญ่หรือถนนหลวงลดน้อยลง แต่จะไปเกิดถนนสายเล็ก ระหว่างหมู่บ้าน หรือ อำเภอ
"ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา เชียงรายเป็นจังหวัดที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับ 1 และมีจำนวนผู้ที่เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ทางมูลนิธิฯ จึงมีแนวคิดโครงการช่วยลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลให้เป็นศูนย์ คือไม่มีผู้เสียชีวิตเลย แม้จะมีความเป็นไปได้ยาก แต่ก็พบจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเลยมีมากถึง 10 จังหวัด"
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ประธานมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า มีการสานต่อโครงการนี้ โดยเห็นว่าควรมีการให้กำลังใจ ประกาศยกย่องสรรเสริญ ส่งเสริมให้คนทำดี ให้คนรักบ้านรักเมือง แทนคุณแผ่นดิน โดยการมอบโล่เกียรติยศจากมูลนิธิรัฐบุรุษ พ.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มี พ.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีเป็นประธานมูลนิธิ ให้การสนับสนุน”
" 10 จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วงเทศกาลปีใหม่ มีการเข้มงวดกวดขันในการตรวจแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ ทุกมุมถนน จึงทำให้ประชาชนไม่กล้าขับขณะมีอาการมึนเมา ซึ่งเมื่อไม่ขับขณะมึนเมาก็จะไม่เกิดอุบัติเหตุ ฉะนั้นในครั้งนี้ทางมูลนิธิฯ ได้การแบ่งพื้นที่จังหวัดออกเป็น 4 กลุ่ม โดยอาศัยฐานข้อมูลอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ย้อนหลัง 6 ปี (2549-2554 ) โซนสีแดง สีเหลือง สีเขียว และสีขาว หากทางจังหวัดในแต่ละโซนสามารถบริหารจัดการไม่ให้มีผู้เสียชีวิตได้ จะได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงิน รางวัล 1 ล้าน 3 แสนบาท 1 แสนบาท และ 5 หมื่นบาท ตามลำดับ ถือเป็นความท้าทายของจังหวัดที่จะต้องมีการบริหารให้ดีเพื่อให้ยอดผู้เสียชีวิตเป็นศูนย์"
นายดำรง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงมากๆ หากสามารถจัดการไม่ให้มีผู้เสียชีวิตเลย จะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และสร้างชื่อเสียงให้กับผู้บริหารในจังหวัด
"คำว่า "ปลอดภัยตายเป็นศูนย์” ได้กลายมาเป็นนโยบายของรัฐบาลสำหรับรณรงค์ในช่วงสงกรานต์นี้แล้ว ซึ่งหากเป็นนโยบายทุกจังหวัดก็ต้องรับทราบ ฉะนั้น มูลนิธิเมาไม่ขับ ไม่ได้วางเป้าหมายว่า แต่ละพื้นที่จะมีกี่จังหวัดที่สามารถทำได้ แต่ควรที่จะต้องมีการเข้มงวดกวดขันในการบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจาก ที่ผ่านมามีการบังคับใช้กฎหมายอย่างหละหลวม และจะเห็นว่าหากมีการเข้มงวดในเรื่องกฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้มีแอลกอฮอล์เกินกฎหมายกำหนดก็ต้องถูกจับ ถูกลงโทษ ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้ที่เสียชีวิตในช่วงเทศกาลก็จะเป็นศูนย์ได้"
เมื่อถามถึงมาตรการงดขายเหล้าช่วงสงกรานต์ ประธานมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี แต่ในช่วงสงกรานต์คิดว่า เป็นเรื่องยากลำบาก นอกจากนี้สาเหตุของอุบัติเหตุ ก็ไม่ใช่แค่เมาแล้วขับอย่างเดียว แต่มีส่วนของถนนหนทาง และสมรรถภาพของยานพาหนะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และที่สำคัญคือเรื่องของคน
"จำไว้ว่าถึงเราเองจะไม่ดื่มเหล้าไม่ได้เมาก็ไม่ได้แปลว่าเราจะปลอดภัย เพราะคนที่ดื่มเหล้าแล้วเมาอาจจะขับรถมาชนเราก็เป็นได้ ฉะนั้นขอให้ทุกคนไม่ประมาทและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด”
