ม่วนซื่นโฮวแซว เครือข่ายปชช. 4 ภาค จัดสงกรานต์ 'ตรอกขี้แกลบ' ข้างทำเนียบ

สภาเครือข่ายประชาชนอีสาน -สภาประชาชน 4 ภาค ปักหลักชุมนุม หน้าทำเนียบฯ ขึ้นป้ายข้อความ “วันมหาสงกรานต์ ประจำปี 2555 ณ ตรอกขี้แกลบ” เปรียบ ‘แกลบ’ คือบริบท พฤติกรรม ความสัมพันธ์ ความเข็มแข็งของฐานล่างในสังคมไทย
วันที่ 12 เมษายน 8.20 น. ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวอิศรา ลงพื้นที่ติดตามการชุมชนของสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) และสภาประชาชน 4 ภาค ซึ่งปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณถนนพิษณุโลก ฝั่งด้านหน้าและด้านข้างทำเนียบรัฐบาล โดยพบว่า บริเวณสถานที่ชุมนุมมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด บุคคลที่เข้า-ออกพื้นที่ต้องมีการลงลายมือชื่อ พร้อมระบุเวลากำกับทุกครั้ง
ระหว่างติดต่อรอสัมภาษณ์ แกนนำกลุ่มฯ หนึ่งในเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล่าวกับ ผู้สื่อข่าวว่า นอกจากมาตรการดังกล่าวแล้ว ผู้เข้าร่วมชุมนุมทุกคนจะต้องถูกบันทึกภาพถ่าย เพื่อเก็บเป็นข้อมูลประวัติ ให้ทราบถึงที่ไปที่มา ใครเข้าร่วมบ้าง
“สำหรับยอดผู้ชุมนุมนั้น เมื่อวันที่ 25 มีนาคม มีผู้เข้าร่วมประมาณ 20,000 กว่าคนจาก 20 กว่าจังหวัด อาทิ มุกดาหาร กาฬสินธุ์ สกลนคร หนองคาย สุรินทร์ นครพนม ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากจังหวัดทางภาคอีสานตอนบน ขณะที่ปัจจุบัน มียอดผู้ชุมนุมลดลงเหลือประมาณ 5,000 กว่าคน เนื่องจากเดินทางกลับไปประกอบอาชีพ ปฏิบัติภารกิจต่างๆ แต่จะมีการผลักเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเข้าร่วมอีกครั้งอย่างสม่ำเสมอ”
สำหรับเป้าหมายการเดินทางมาชุมนุมครั้งนี้ นายอุทัยรัฐ ปรีชา โฆษกสภาประชาชน 4 ภาค กล่าวว่า เป็นการติดตามข้อเรียกร้องเดิมที่ทางเครือข่ายฯ เสนอให้รัฐบาลแก่ปัญหาเกษตรกร คนยากจน ซึ่งไร้ที่ดินทำกิน ไม่มีที่อยู่อาศัย และแม้ขณะนี้รัฐบาลจะรับทราบเกี่ยวกับการชุมนุมครั้นนี้แล้ว แต่ผู้ชุมนุมยังยืนยันจะรอจะได้รับข้อสรุปในการแก้ไขที่ชัดเจนก่อน
“ถามว่า คนจนมีทางออกตรงไหน กลับไปก็ถูกคดี ไม่มีที่ดิน ไม่มีที่อยู่อาศัย หลายคนถูกฟ้องล้มละลาย หลายคนต้องย้ายไปอาศัยอยู่ที่ ‘ศูนย์อพยพคนไทยไร้แผ่นดินที่จังหวัดนครราชสีมา’ แบบยกครอบครัว ฉะนั้น การที่อยู่ตรงนี้จึงเป็นความหวังของเรา โดยจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันกลับไปบ้าน ไปผลิตอาหาร ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์แล้วขนเสบียงกลับขึ้นมาใหม่”
นายอุทัยรัฐ กล่าวถึงสาเหตุที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาของประชาชนได้ เพราะความไม่จริงใจที่จัดหาที่ดินให้กับประชาชน ทำให้คนจนต้องไปยึดครองที่ดินของเอกชน เพื่อใช้ทำกินระหว่างรอการตัดสินใจของรัฐบาล ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าการชุมนุมเรียกร้องไม่ได้หวังที่เอาของฟรี เพียงแต่ต้องการให้รัฐช่วยเหลือในลักษณะโครงการกู้ยืม กำหนดชำระคืนอย่างอย่างต่ำ 25 ปี มีอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม
เมื่อถามว่า ทำไมต้องเดินทางมาชุมนุมในกรุงเทพฯ แทนที่จะขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น นายอุทัยรัฐ กล่าวว่า ประชาชนไม่สามารถพึ่งเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นได้ เนื่องจากทัศนคติของข้าราชการทุกระดับ ยังมองประชาชนเป็นภาระ น่ารังเกียจ จึงไม่ได้ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ขณะเดียวกันยังพบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ที่ส่อในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนอีกด้วย
เมื่อถามถึงความแตกต่างในการเข้าถึงผู้แทนประชาชน ในช่วงก่อนและหลังเลือกตั้ง นายอุทัย กล่าวว่า ตนเองมองเรื่องนี้อย่างเข้าใจ เป็นเรื่องธรรมดา จึงไม่อยากแสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าว อยากให้การชุมนุมเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เมื่อรัฐบาลอ้างเหตุในเรื่องลำดับความสำคัญของภารกิจ อะไรเร่งด่วนต้องทำก่อน-หลัง ต่างคนจึงต้องเคารพในหน้าที่ของกันและกัน เช่นเดียวกับผู้ชุมนุมซึ่งมีหน้าที่สร้างความมั่นคงให้แก่ครอบครัว สังคมฐานล่าง โดยปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ การมีส่วนร่วม และหน้าที่พลเมือง เพราะฉะนั้น จึงเห็นว่า เพื่อให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ การจับมือกันจึงไม่ใช่เรื่องเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าว ถามถึงการจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วยว่า ได้มีการเตรียมการณ์อย่างไรบ้าง นายอุทัยรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้เราได้ขึ้นป้ายข้อความ “วันมหาสงกรานต์ ประจำปี 2555 ณ ตรอกขี้แกลบ”ไว้เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งการใช้ชื่อขี้แกลบนั้นก็เพื่อสะท้อนให้ว่า ‘แกลบ’ เป็นของทิ้งที่คนส่วนใหญ่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้มองไม่เห็นประโยชน์ ต่างจากคนที่อยู่ในภาคการเกษตร ที่เข้าใจมองเห็นประโยชน์ในเรื่องอินทรีย์สาร สิ่งเหล่านี้คือบริบท พฤติกรรม ความสัมพันธ์ ความเข็มแข็งของฐานล่างในสังคมไทย
นายอุทัยรัฐ กล่าวด้วยว่า การจัดงานคงไม่ได้สาดน้ำกันมากมาย แต่จะเป็นการรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ มีการแสดงตามเอกลักษณ์วัฒนธรรมของพื้นถิ่นต่างๆ เช่น รำ เซ้ง เพราะผู้ชุมนุมก็มาจากหลากหลายจังหวัด ขณะเดียวกันการจัดการที่นี้ก็ทำให้ลูกหลานที่อยู่ในกรุงเทพฯ ได้เข้ามาร่วมงาน เยี่ยมเยียนพ่อแม่พี่น้องได้

