"ปลอดประสพ" แจง รบ.เตรียมส่งคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจงบน้ำท่วม 1.2 แสนล้าน

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะเช็คถี่ยิบแผนป้องกันอุทกภัย ขีดเส้นพื้นที่กทม. เสริมเขื่อนกั้นคลองรังสิต-ปตร.จุฬาฯ แล้วเสร็จเดือนส.ค. มั่นใจน้ำเหนือไม่เข้ากรุงเทพฯ
วันที่ 30 เมษายน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้า ผลการดำเนินการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในระยะเร่งด่วนและยั่งยืน โดยมี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายสุพจน์ โตวิจักรชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา กรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมรายงานความคืบหน้า ณ ตึกแดง ทำเนียบรัฐบาล
นายปลอดประสพ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ประชุมเพื่อติดตามงานเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งประเด็นหลักๆ ได้มีการกำหนดระยะเวลา 3 ช่วงคือต้นน้ำ พื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศต้องแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน ทั้งการทำฝายแม้ว การปลูกหญ้าแฝก การขุดลอกและการซ่อมแซม ส่วนพื้นที่กลางน้ำต้องเสร็จในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเน้นหนักในเรื่องการขุดลอก แก้มลิง ถนนและประตูน้ำที่พัง ส่วนที่ต้องแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม คือ พื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพฯ ที่ต้องเน้นในเรื่องการระบายน้ำ การขุดลอก เก็บวัชพืช การซ่อมประตูระบายน้ำ การสร้างเขื่อนริมแม่น้ำ ริมคลอง เพื่อป้องกันการล้นทะลัก ซึ่งเขื่อนที่สำคัญที่สุด ได้แก่ เขื่อนกันน้ำคลองรังสิต ตลอดแนว 25 กิโลเมตร และการเสริมประตูจุฬาลงกรณ์ ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จมั่นใจได้ว่า น้ำจากทางเหนือจะไม่มีทางข้ามเข้าในกรุงเทพฯ ได้เป็นอันขาด
นายปลอดประสพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้มีการสอบถามความคืบหน้าเป็นรายกระทรวง กรม ใครทำอะไรที่ไหน อย่างไร พร้อมสั่งให้มีการซ้อมการเผชิญเหตุในเดือนกรกฎาคม โดยให้ตั้งสมมุติฐานปริมาณน้ำเท่ากับปีก่อน หน่วยราชการมีความพร้อมอย่างไร จะเคลื่อนย้ายคนไปที่ไหน ระบบการสื่อสารจะทำอย่างไร ซึ่งในเรื่องนี้จะได้มีการจัดทำเอกสารให้แก่ประชาชน ขณะเดียวกันระบบการแจงเหตุ การเตือนภัย นายกฯ ได้สั่งให้มีการสร้างระบบที่เชื่อมต่อกับผู้สื่อข่าว เพื่อให้ทราบข้อมูลในเรื่องการบริหารจัดการน้ำและการตัดสินใจต่างๆ จากรัฐบาลโดยตรง นอกจากนี้รัฐบาลจะจัดทำศูนย์รวบรวมบัญชีของใช้ เสื้อชูชีพ โรงพยาบาล ที่พัก เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นจะไปรับของได้ที่ใดบ้างอีกด้วย
นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมมีการหารือเกี่ยวกับพื้นที่รับน้ำ ซึ่งกำหนดไว้ที่ 2 ล้านไร่ สำหรับรับน้ำปริมาณ 5,100 ล้านคิว โดยแบ่งเป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมประจำ และพื้นที่ภายใต้โครงการชลประทาน ส่วนจะมีการชดเชยเยียวยามากน้อยเพียงใดนั้น ต้องลงไปดูพื้นที่จริงอีกครั้งก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย
นายปลอดประสพ กล่าวถึงปัญหาการรุกล้ำลำน้ำ ในพื้นที่กทม. ด้วยว่า รัฐบาลได้ขอให้กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพในเรื่องนี้ โดยรัฐบาลจะสนับสนุนในด้านงบประมาณ เพื่อให้สถานการณ์การบุกรุกคลี่คลาย เช่นเดียวกับการเพิ่มจำนวนเครื่องสูบน้ำ ผลักดันน้ำ ถ้า กทม.ต้องการเพิ่มในจุดใดทางรัฐบาลจะดำเนินการให้
อย่างไรก็ตาม นายปลอดประสพ กล่าวด้วยว่า สำหรับการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานป้องกันและบรรเทาอุทกภัยนั้น ในสัปดาห์หน้าจะมีคณะตรวจราชการจำนวน 2 คณะ ประกอบด้วยคณะตรวจราชการของ กบอ. และคณะของมหาวิทยาลัย ลงพื้นที่แต่จังหวัดเชียงรายลงมา เพื่อตรวจการใช้งบประมาณจำนวน 1.2 แสนล้านบาทที่ได้อนุมัติไปแล้ว
เมื่อถามว่า หากแผนไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จตามระยะเวลาที่วางไว้ ได้มีการคาดโทษหรือพูดถึงเรื่องนี้กันไว้อย่างไร นายปลอดประสพ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ไม่ได้มีการพูดถึงกัน แต่เป็นที่รู้กันในระบบราชการว่า กระทรวง กรมใดทำไม่ได้ตามแผน ก็ต้องรับผิดชอบ ส่วนความรับผิดชอบนั้นแปลว่าอะไรก็มีธรรมเนียมอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับเรื่องการคัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์หรือไม่ นายปลอดประสพ กล่าวว่า ไม่มีการพูดถึง แต่เมื่อประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย คนไม่ชอบก็ค้านได้ คือกันกับการที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ชอบในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญก็สามารถคัดค้านได้ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่ที่แน่ๆ การที่จะทำอะไรนั้น ต้องถือประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง ขณะเดียวกันสิ่งที่น่าถามก็คือ ขณะที่น้ำท่วม คนเดือดร้อน คนคัดค้านไปอยู่ที่ไหน
ขณะที่พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ที่ประชุมได้รายงานแผนในการขุดลอกคูคลองที่จะร่วมกับกรุงเทพมหานครในการเสริมคันคอนกรีตกั้นริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในระยะทาง 40 กิโลเมตร ความสูง 2.5 เมตร โดยจะเร่งให้มีการดำเนินการเร็วกว่ากำหนด 4% ซึ่งขณะนี้กำลังจัดหาเครื่องมือในการดำเนินการ และคาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือนสิงหาคม
ด้านนาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ กล่าวว่า จะมีการปรับปรุงเรื่องระบบเตือนภัย โดยจะเพิ่มเครื่องมือ เทคโนโลยีและการสื่อสาร ให้สามารถดำเนินการอย่างรวดเร็วและทันสมัยมากขึ้น และให้กระทรวงมหาดไทยเชื่อมโยงข้อมูลฐานชุมชน เพื่อเสริมข้อมูลด้านการเตือนภัยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเป็นไปตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ส่วนนายสุพจน์ กล่าวว่า ที่มีการนำเสนอข่าวกันมากว่า การบริหารจัดการน้ำโดยเสริมคันดินกั้นน้ำฝั่งตะวันตก ตามแนวคลองพระยาบันลือ และคลอพระพิมลราชาจะทำให้เกิดน้ำท่วมหนักที่ จ.นครปฐมนั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากแผนบริหารจัดการน้ำฝั่งตะวันตก วางไว้ว่าจะผันน้ำจากต้นน้ำภาคเหนือไปยังแก้มลิงและพื้นที่ป่าไม้ที่จัดเตรียมไว้ แต่หากปริมาณน้ำมากกว่าที่คาดไว้ การเสริมคันดินที่จัดทำขึ้นจะเป็นแผนสำรอง ซึ่งมั่นใจว่าคันดินจะไม่พังทลาย เนื่องจากในการจัดทำได้มีการรันโมเดลแล้วว่า น้ำที่ไหลมาจากต้นน้ำจะไหลไปตามลำน้ำโดยไม่ล้นตลิ่งอย่างแน่นอน นอกเสียจากจะเกิดฝนตกหนักในพื้นที่
ในส่วนปัญหาภัยแล้ง นายสุพจน์ กล่าวว่า การพิจารณาเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้งนั้นเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาควบคู่กันไป แต่เนื่องจากปีก่อนน้ำท่วมสร้างความเสียหายถึง 1.4 ล้านล้านบาท อีกทั้งเรามีเวลาเหลือแค่อีก 4 เดือนเรื่องนี้จึงต้องให้น้ำฟแหนักมากกว่าน้ำแล้งที่มีปัญหาเป็นจุดๆ เท่านั้น
