รวมพลคนต้านโกง “ภาคีสีขาว” ปลุกเยาวชนร่วมกันกวาดล้างคอร์รัปชั่น
ภาคีสีขาว ผนึกกำลังทุกภาคส่วน ดึงเยาวชนร่วมต้านทุจริต เปิดใช้ "ดีพาสปอร์ต" การันตีความดี เผยมี 16 องค์กร 15 มหาวิทยาลัย ตบเท้าร่วมโครงการรับคนดีเข้าเรียน-ทำงาน
เมื่อเร็วๆ นี้ กรุงเทพมหานคร สำนักงานทูตความดีแห่งประเทศไทย ร่วมกับองค์กรภาคีสีขาว ทั้งภาครัฐ เอกชนและสถาบันการศึกษา ร่วมกันจัดงาน "รวมพลคนต้านโกง" ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลป์กรุงเทพ สี่แยกปทุมวัน ซึ่งเป็นการรวมพลังจากหลายภาคส่วน และเป็นเวทีให้เยาวชนทั่วประเทศได้แสดงพลัง และวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทย โดยมี นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม คณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น นางรสนา โตสิตระกูล สมาชิกวุฒิสภา เหล่าเยาวชนทูตความดีและเยาวชนจากโครงการโตไปไม่โกงกว่า 300 คน ร่วมงาน
นางทยา กล่าวว่า ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นมะเร็งร้ายที่ฝังรากลึกมายาวนานในสังคมไทย และถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง ให้หมดไปเร็วที่สุด โดยในส่วนของกรุงเทพมหานครได้เปิดหลักสูตร "โตไปไม่โกง" ร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และแม้โครงการดังกล่าวอาจไม่มีผลในระยะสั้น แต่ในระยะยาวมั่นใจว่าจะเป็นการฉีดวัคซีนความดี ความซื่อสัตย์ ให้นักเรียนตั้งแต่เด็ก ให้มีภูมิคุ้มกันกับการคดโกง และเชื่อว่านักเรียนจะเติบโตเป็นเยาวชนที่มีสำนึกในคุณค่าความดีไปตลอดชีวิตไม่ว่าจะดำเนินธุรกิจหรืออาชีพใดก็ตาม
"ในการรวมพลคนต้านโกงครั้งนี้ เป็นโอกาสดีที่จะเริ่มต้นใช้ D Passport หรือหนังสือเดินทางแห่งความดี ที่เป็นเครื่องมือวัดผลหรือประเมินผลการทำความดีอย่างเป็นรูปธรรม หนังสือเล่มนี้จะทำหน้าที่เสมือนสมุดบันทึกความดีที่ผ่านการรับรองจากสถาบันการศึกษา เพื่อสะสมแต้มและสามารถใช้ยื่นประกอบในการพิจารณาเข้าศึกษาต่อในระดับต่างๆ รวมทั้งการรับเข้าทำงานด้วย"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีภาครัฐและภาคเอกชนกว่า 16 องค์กร ที่เข้าร่วมในโครงการ ซึ่งจะรับพนักงานโดยพิจารณาจาก D Passport ประกอบด้วย อาทิ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัทโตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ฯลฯ ในส่วนสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมมีกว่า 15 แห่ง อาทิ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต ฯลฯ
ขณะที่นางผาณิต กล่าวว่า เด็ก คือ อนาคตของชาติ เปรียบเสมือนเพชรที่จะส่องสว่าง และเมล็ดพันธุ์ที่จะเติบโตไปในอนาคต ปัจจุบันแม้ประเทศไทยจะมีองค์กรอิสระในการตรวจสอบการทุจริตแห่งชาติ แต่ก็มีกำลังไม่มาก คนโกงจึงยังลอยนวล อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เด็กๆ สามารถช่วยกันได้ ให้ลองพิจารณาสิ่งที่นักการเมือง หรือผู้ที่ใช้อำนาจรัฐในการปกครองประเทศกระทำอยู่ในขณะนี้ว่าถูกต้องหรือไม่
"สังคมปัจจุบันต้องใช้ทั้งแว่นขยายและไฟส่องสว่างให้มองเห็นว่า ใครทำไม่ถูกและช่วยกันบอกกล่าว การรวมพลคนต้านโกงเกิดขึ้น เพราะเห็นว่ามาตรการการป้องกันและปราบปรามเอาไม่อยู่แล้ว มีอย่างเดียว คือ ปลุกจิตสำนึกให้เกิดขึ้น ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถเป็นทั้งแว่นขยาย ไฟส่องสว่างและไม้กวาด ที่คอยกวาดล้างสิ่งไม่ดีออกไปจากสังคมได้"
ทั้งนี้ ในช่วงท้าย มีตัวแทนเยาวชนขึ้นแสดงวิสัยทัศน์และแนวทางในการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น โดยตัวแทนนักเรียนจากโรงเรียนวัดปทุมวนารามในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวตอนหนึ่งว่า สาเหตุของการทุจริตคอร์รัปชั่น ส่วนหนึ่งมาจากกระแสค่านิยมของคนไทย ความโลภ อยากได้อยากมี อยากเป็น เช่น การซื้อตำแหน่ง ความเห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ประโยชน์ของตนเอง ครอบครัวและพวกพ้องเป็นหลัก จึงเป็นเหตุแห่งการเอาเปรียบคนในสังคม อีกทั้ง การประพฤติตนไม่พอเพียง จนก้าวไปสู่ความคดโกง
สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาพฤติกรรมการทุจริตคอร์รัปชั่น ตัวแทนนักเรียนเห็นว่า ทุกคนทุกอาชีพ ต้องยึดมั่นในคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา ในข้อ "หิริโอตัปปะ" นั่นคือ ความเกรงกลัวต่อการกระทำทำความชั่ว เช่น การโกงเงินแผ่นดิน และหากปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ของตนเองจะลดวิกฤตปัญหาสังคมได้ สิ่งสำคัญ ผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เยาวชนรุ่นต่อๆ ไป
ชมคลิปตัวแทนนักเรียนกล่าวแนวทางแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น
{youtubejw}NNhP8l8CaMQ{/youtubejw}
