กทม.ดีเดย์ 12 สิงหาฯ ออกใบอนุญาตก่อสร้างบ้าน เสร็จภายใน 30 วัน

กทม.จับมือภาคีเครือข่ายต้านคอร์รัปชั่น ดันโครงการฮั้วไม่จ่าย เปลี่ยนแปลงระบบ ออกใบอนุญาตยิ้ม สร้างบ้านเสร็จภายใน 30 วัน ยัน 12 ส.ค.55 ทำได้ทั่วกรุงเทพฯ ด้านภาคีเครือข่ายฯ ช่วยจับตา ตรวจสอบ ทำได้จริงทุกขั้นตอน
วันที่ 13 มิถุนายน สำนักงานโยธาธิการ กรุงเทพมหานคร ร่วมกับภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น จัดงานแถลงข่าวและเสวนา รวมพลังสร้างกรุงเทพฯ เป็นเมืองสวรรค์ "เปิดมิติใหม่ รวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบได้กับใบอนุญาตยิ้ม" ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพฯ โดยมี ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่ากรุงเทพฯ คุณหญิงชฏา วัฒนศิริธรรม ประธานกรรมการสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทยและกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น และดร.ธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย ร่วมแถลงข่าวความร่วมมือโครงการฯ
ดร.ธีระชน กล่าวว่า โครงการความร่วมมือดังกล่าว เป็นการระดมความคิดเห็นและความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ในการแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุมเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกระบวนการดำเนินงานของภาครัฐ เกี่ยวกับการออกใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคารหรือบ้านอยู่อาศัยให้มีความรวมเร็วยิ่งขึ้น หรือเรียกว่า "ใบอนุญาตยิ้ม" นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่ขั้นตอนที่ถูกร้องในการยื่นขอใบอนุญาตปลูกสร้างได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ยังได้จัดทำแบบบ้าน ให้ประชาชนสามารถมารับได้ที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ.
"ภายในวันที่ 12 สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป การออกใบอนุญาตก่อสร้างจะต้องรวดเร็วขึ้น และจะต้องเสร็จสิ้นหลังการยื่นเอกสารภายใน 30 วัน สำหรับใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง บ้านอยู่อาศัยพื้นที่ไม่เกิน 300 ตารางเมตร สูงไม่เกิน 3 ชั้น จากทุกสำนักงานเขตของกรุงเทพฯ รวมทั้งมีความถูกต้องและโปร่งใส เช่นเดียวกับการทำพาสปอร์ต"
ดร.ธีระชน กล่าวต่อว่า แม้เรื่องดังกล่าวจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเรื่องใหญ่ทำได้ยาก แต่จะสามารถทำได้ เช่นเดียวกับที่กรุงเทพฯ สามารถแก้ไขเรื่องช้างตามท้องถนนและเรื่องสนามหลวงได้ สำหรับขั้นตอนและวิธีการเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว โปร่งใส มีระบบเช็คลิสต์ (CHECKLIST) และเว็บไซต์ ซึ่งทางภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นจะรับหน้าที่ไปติดตาม
"ในส่วนรายละเอียดของระบบดังกล่าว จะมีการหารือเพิ่มเติมในเวทีเสวนาร่วมกับหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้แทนจากสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ผู้แทนจากภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นและสมาชิกกว่า 20 หน่วยงาน ผู้แทนจาก 5 กลุ่มเขตและผู้แทนจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ซึ่งผลสรุปที่ได้จากการเสวนา จะนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานเริ่มต้นในวันที่ 12 สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและเป็นต้นแบบในการขยายผลดำเนินโครงการไปสู่จังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะการขยายผลใช้กับอาคารใหญ่ๆ มีที่พื้นที่มากกว่า 300 ตารางเมตรหรือสูงเกิน 3 ชั้นได้ในอนาคต ทั้งนี้ ในส่วนแบบบ้านหรืออาคารที่ได้รับใบอนุญาตไปแล้ว แต่กลับทำการต่อเติมแบบผิดกฎหมายต่อจากนี้จะไม่มีการประนีประนอมอย่างเด็ดขาด"
ขณะที่คุณหญิงชฏา กล่าวว่า ทางภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น จะรับหน้าที่จัดทำระบบเช็คลิสต์ (CHECKLIST) ในการตรวจสอบเอกสาร ป้องกันความล่าช้าในการเดินทางหลายครั้ง หากเอกสารไม่ครบถ้วน และจัดทำซอฟท์แวร์ เว็บไซต์ ที่ภาคประชาชนสามารถมีส่วนร่วม เข้าสู่ระบบเพื่อติดตามว่าขั้นตอนการออกใบอนุญาตก่อสร้างของตนอยู่ในขั้นใด
"ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น จะรับหน้าที่ติดตามว่าภายหลังวันที่ 12 สิงหาคม การออกใบอนุญาตก่อสร้างเสร็จสิ้นภายใน 30 วันจริงหรือไม่ และมีการทุจริต ฮั้วหรือจ่ายเงินใต้โต๊ะอยู่หรือไม่ ตามหลักการและ "โครงการฮั้วไม่จ่าย" ที่ทางภาคีเครือข่ายฯ จัดทำขึ้น"
ด้านดร.ธวัชชัย กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาคอร์รัปชั่นร้ายแรงขึ้น ทำให้การติดต่อธุรกิจกับต่างประเทศยากขึ้น ถึงเวลาที่ต้องร่วมกันทำให้คอร์รัปชั่นลดน้อยลงหรือหมดไป อย่างในเรื่องโครงการออกใบอนุญาตก่อสร้าง หากเป็นไปอย่างล่าช้า ไม่ตรงไปตรงมา มีการอนุญาตแบบก่อสร้างที่ผิดก็จะกระทบต่อคนทั้งประเทศ ดังนั้น เป็นเรื่องดีที่วันนี้ได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวมาเริ่มทำ และผลักดันให้เกิดขึ้นต่อไปทั่วประเทศ
