ขอได้แล้ว TOR ทำแผนบริหารจัดการน้ำประเทศไทย วงเงิน 3 แสนล้าน

ตั้งแต่สัปดาห์หน้าบริษัทต่าง ๆ ที่สนใจทำแผนบริหารจัดการน้ำ รับเอกสาร TOR ได้ที่สำนักปลัดก.วิทย์ฯ-สบอช. 'ปลอดประสพ' เผยวงเงิน 3.5 แสนล้าน ใช้ไปแล้ว 4 หมื่นล้าน อีก 1 หมื่นล้าน กยอ. เก็บไว้ใช้ปรับโครงสร้างศก.
วันที่ 3 กรกฎาคม ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แถลงผลการประชุมเกี่ยวกับเรื่องแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องข้อกำหนดสำหรับการจัดซื้อจัดจ้าง (Terms of Reference:TOR) ที่จะใช้ในการคัดเลือกบริษัททั้งในและต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งมีความสนใจที่จะเข้ามาร่วมทำงานจัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทยว่า TOR ฉบับนี้ ประกอบด้วยแผนงานที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) และคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่เกี่ยวกับลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งมี 8 ลุ่มน้ำ และลุ่มน้ำอื่น ๆ อีก จำนวน 17 ลุ่มน้ำ
นับจากวันนี้รัฐบาลจะประกาศเชิญชวนให้ผู้ที่มีความสนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้รับทราบ ผ่านหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อจะได้เข้ามาร่วมทำโครงการดังกล่าวในการจัดทำแผนหลักหรือ Conceptual Plan ซึ่งในส่วนของต่างประเทศนั้น กระทรวงการต่างประเทศจะได้ประกาศผ่านทางสถานเอกอัครราชทูต และแจ้งไปยังบริษัทที่อยู่ในต่างประเทศด้วย โดยตั้งแต่สัปดาห์หน้าบริษัทต่าง ๆ ที่สนใจสามารถมารับเอกสาร TOR ได้ที่สำนักปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ หรือที่ สำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.)
และหลังจากบริษัทที่สนใจทำ Conceptual Plan เสนอประเทศไทยแล้ว จะมีคณะกรรมการเพื่อคัดเลือกบริษัทที่มีคุณสมบัติครบตามที่กำหนดหรือมีความเหมาะสมที่สุด จำนวน 3 บริษัท หรือ 3 กลุ่มบริษัท โดยใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน ก่อนประกาศให้รับทราบต่อไป ก่อนคัดเลือกให้เหลือเพียง 1 บริษัท เพื่อทำ Detail Design ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทั้งหมดครอบคลุม 14 โปรเจกต์ขนาดใหญ่ ในวงเงิน 3 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตามบริษัทที่จะเข้ามาทำ Conceptual Plan นายปลอดประสพ กล่าวว่า จะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานกับรัฐบาลของตนเองด้วย ซึ่งการดำเนินการเรื่องนี้จะใช้วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ จากวงเงินทั้งหมดที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทย ทั้งระยะสั้นและระยะยาว จำนวนประมาณ 3 แสนล้านบาท ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาถึงผลการดำเนินงานและประสบการณ์ของบริษัทที่จะเข้ามาทำโครงการนี้ เพราะสามารถสะท้อนถึงฐานะทางการเงินได้ โดยผลงานของบริษัทที่ได้ดำเนินงานมาต้องไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท
สำหรับวงเงินที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทย ทั้งระยะสั้นและระยะยาวทั้งหมดประมาณ 3 แสนล้านบาท โดยในส่วนเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ได้มีการใช้จ่ายไปแล้ว 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้อนุมัติให้กระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงคมนาคม กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมชลประทาน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ ฯลฯ ในการดำเนินการในเรื่องเร่งด่วนหรือฉุกเฉิน โดยเงินจำนวน 1 หมื่นล้านบาท ดร. วีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) เก็บไว้เพื่อใช้ปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากผลกระทบอุทกภัยที่ผ่านมา
