ควบกระบะปาบึ้มฟอสฟอรัส-ยิงซ้ำจุดตรวจนราฯ ตชด.ดับ1 ชายแดนใต้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯครบ 5 ปี
แวดาโอ๊ะ หะไร และทีมข่าวอิศรา
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
นราธิวาสตึงเครียด คนร้ายควบกระบะ 2 คันปาระเบิดฟอสฟอรัสถล่มจุดตรวจปลักปลาในเขตอำเภอเมือง ก่อนใช้อาวุธสงครามยิงซ้ำ ตชด.พลีชีพ 1 นาย พลทหารสาหัสยังไม่ฟื้น เจ้าหน้าที่จัดกำลังไล่ล่าถึงบาเจาะ ปะทะเดือดกองกำลังติดอาวุธอีกระลอก ระแงะระทึกกู้ระเบิดถังดับเพลิงหนัก 20 กิโลกรัม หลังสองวัยรุ่นโยนทิ้งเหตุขับมอเตอร์ไซค์สวนตำรวจ "สุเทพ" ล่องใต้เร่งรัดใช้จ่ายงบโครงการพัฒนา ขณะที่ ครม.ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯอีก 3 เดือน เผยชายแดนใต้ใช้กฎหมายพิเศษครบ 5 ปี
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดและเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีข่าวขบวนการที่มีอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนบางกลุ่มประกาศหยุดยิงในพื้นที่ 3 อำเภอของ จ.นราธิวาส คือ อ.ระแงะ อ.ยี่งอ และ อ.เจาะไอร้อง ช่วงเวลา 1 เดือนระหว่างวันที่ 10 มิ.ย.ถึง 10 ก.ค.ที่ผ่านมาก็ตาม แต่เหตุร้ายก็ยังคงเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ และดูจะหนักกว่าปกติ
โดยเมื่อเวลา 19.30 น.วันจันทร์ที่ 12 ก.ค.2553 ร.ต.ท.สุรศักดิ์ วงษ์ประวิทย์ ร้อยเวร สภ.เมืองนราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายขว้างระเบิดก่อนจะใช้อาวุธสงครามยิงถล่มซ้ำบริเวณจุดตรวจบริการประชาชนบ้านปลักปลา ต.ลำภู อ.เมืองนราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ทำลายล้างวัตถุระเบิด
ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ของคนร้ายตกเกลื่อนถนนกว่า 100 ปลอก และที่บริเวณบังเกอร์หน้าป้อมจุดตรวจ พบสลักนิรภัยของระเบิดขว้างตกอยู่ 1 อัน รวมทั้งกองเลือดขนาดใหญ่ ส่วนผู้บาดเจ็บนั้น เพื่อนทหารและตำรวจได้ช่วยกันลำเลียงส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาสไปก่อนแล้ว ทราบชื่อคือ ด.ต.เชิดศักดิ์ สิงบุตรดา อายุ 52 ปี ผู้บังคับหมู่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 22 จาก จ.อุบลราชธานี มีบาดแผลถูกกระสุนปืนเอ็ม 16 ที่บริเวณขาซ้าย 1 นัด กับอีกรายหนึ่งคือ พลทหารเอก นิ่มนวล อายุ 22 ปี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 33 มีบาดแผลถูกกระสุนปืนชนิดเดียวกันที่ศีรษะ อาการสาหัส
จากการสอบปากคำ พลทหารวัฒนา โอระกะ สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 33 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ขณะเกิดเหตุ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ ตชด. ทหาร และตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส รวมทั้งอาสารักษาดินแดน (อส.) จ.นราธิวาส จำนวน 10 นาย กระจายกำลังกันอยู่ตามบังเกอร์ต่างๆ เพื่อคอยตรวจสอบยานพาหนะที่สัญจรผ่านไปมาบนท้องถนน
จากนั้นมีรถกระบะจำนวน 2 คัน สีดำ 1 คันและสีขาว 1 คัน แล่นผ่านบริเวณบังเกอร์ ทันใดนั้นเองคนร้ายที่นั่งอยู่ในกระบะหลังของรถกระบะสีดำได้ขว้างระเบิดใส่ป้อมจุดตรวจ 1 ลูก จนไฟส่องสว่างดับ แล้วคนร้ายอีก 2-3 คนที่นั่งมาในกระบะหลังของรถกระบะสีขาวที่ขับตามกันมา ได้ใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 ยิงถล่มซ้ำซ้ำ จนทั้งสองฝ่ายเปิดฉากยิงกันอย่างดุเดือด
ภายหลังการปะทะ คนร้ายได้เร่งเครื่องรถกระบะทั้งสองคันขับหลบหนีไปทาง อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ส่วนเจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลียร์พื้นที่ พบเจ้าหน้าที่ ตชด.และทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลดังกล่าว
แฉคนร้ายใช้ระเบิดฟอสฟอรัส
ต่อมา เมื่อเวลา 08.30 น.วันอังคารที่ 13 ก.ค. พ.ต.ท.สมชาย พนมอุปการ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน (รองผกก.สส.) สภ.เมืองนราธิวาส พร้อมด้วยทีมพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน ได้นำกำลังไปตรวจหาพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ บริเวณจุดตรวจบริการประชาชนบ้านปลักปลา อ.เมืองนราธิวาส อีกครั้งหนึ่ง และพบหลักฐานเพิ่มเติมคือหัวกระสุนปืนเอ็ม 16 ปลอกกระสุน และร่องรอยของระเบิดขว้างที่คนร้ายใช้ เป็นระเบิดฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นการใช้ครั้งแรกในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
จากการตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดจำนวน 2 ตัวที่ติดไว้บริเวณจุดตรวจ พบว่าไม่สามารถบันทึกภาพกลุ่มคนร้ายได้ เนื่องจากกล้องถูกติดตั้งไว้ฝั่งตรงข้าม คาดว่ากลุ่มคนร้ายได้วางแผนปฏิบัติการมาเป็นอย่างดี
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นการกระทำของคนร้ายกลุ่ม นายดุลยา อาบู ซึ่งเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 6 ก.พ.2553 โดยนำกำลังบุกยิงเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 เสียชีวิต 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ร้านค้าของคนไทยพุทธ บริเวณปากซอยเข้าวัดทุ่งคา หมู่ 2 ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ส่งตำรวจนอกเครื่องแบบออกติดตามเบาะแสของคนร้ายกลุ่มนี้แล้ว
ตชด.สิ้นใจ-พลทหารส่ออัมพาต
ส่วนอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 นายนั้น ล่าสุด ด.ต.เชิดศักดิ์ ได้เสียชีวิตลงแล้ว เนื่องจากกระสุนตัดเส้นเลือดใหญ่บริเวณขาซ้าย ขณะที่ พลทหารเอก ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ยังอยู่ในห้องไอซียู อาการเป็นตายเท่ากัน และอาจเป็นอัมพาตครึ่งซีกหากรอดชีวิต
ที่ศาลาพระพินิตสมณการ วัดบางนรา อ.เมืองนราธิวาส พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ ด.ต.เชิดศักดิ์ โดยมีข้าราชการระดับสูงทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง มาร่วมไว้อาลัยอย่างคับคั่ง บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด เบื้องต้นได้มีการมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวของ ด.ต.เชิดศักดิ์ เป็นเงินราว 1 ล้านบาท พร้อมเสนอปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ เลื่อนยศเป็นพันตำรวจเอก และในวันที่ 14 ก.ค.จะเคลื่อนศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.อำนาจเจริญ
ปะทะเดือดกองกำลังติดอาวุธ-สงสัยแก๊งบึ้มจุดตรวจ
วันเดียวกัน น.ท.นฤมิตร สุขศมิติ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 32 พร้อมด้วย พ.ต.ท.นิพนธ์ มหินทรเทพ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน (รองผกก.สส.) สภ.บาเจาะ นำกำลังทหาร ตำรวจกว่า 100 นายเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย เพื่อติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุขว้างระเบิดและยิงถล่มซ้ำป้อมจุดตรวจบ้านปลักปลา หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยซ่อนตัวอยู่ในป่าเขตรอยต่อระหว่างบ้านตันหยง หมู่ 1 กับบ้านจูโว หมู่ 5 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
ผลการปิดล้อม เจ้าหน้าที่พบกองกำลังติดอาวุธประมาณ 8 คน มี นายวาเฮะ กะเด็ง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 4 บ้านตันหยง ต.บาเร๊ะใต้ และ นายมะรอโซ จันทรวดี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162 บ้านดูกูสุเหล่า หมู่ 7 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ ซึ่งเป็นแกนนำระดับปฏิบัติการรวมอยู่ด้วย โดยทั้งหมดพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ชายป่าท้ายหมู่บ้านจูโว
เมื่อกองกำลังติดอาวุธดังกล่าวสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่ จึงเปิดฉากยิงใส่ทันที จนเกิดการยิงปะทะกันนานกว่า 15 นาที แต่ฝ่ายผู้ต้องสงสัยใช้ความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ จากการเคลียร์พื้นที่บริเวณโคนต้นไม้ใหญ่ซึ่งทำเป็นค่ายพักแรมชั่วคราว พบแม็กกาซีนปืน เอชเค 33 จำนวน 1 อัน รองเท้าแตะและรองเท้ายางจำนวน 4 คู่ เครื่องอุปโภคบริโภคอีกจำนวนหนึ่ง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน และจัดกำลังออกไล่ล่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยต่อไป
กู้ระทึกบึ้มถังดับเพลิงหลัง 2 วัยรุ่นเหวี่ยงทิ้งข้างทาง
วันจันทร์ที่ 12 ก.ค. ยังเกิดเหตุระทึกขวัญอีก 1 เหตุการณ์ กล่าวคือขณะที่ ร.ต.ท.รัฐกาญจน์ รัตนฐากูล รองสารวัตรกลุ่มงานสืบสวนสอบสวน บก.ภ.จว.นราธิวาส นำกำลังตำรวจออกลาดตระเวนพื้นที่ ต.ตันหยงมัส ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิาส โดยใช้รถตราโล่ของตำรวจนั้น ปรากฏว่าเมื่อรถแล่นถึงถนนในหมู่บ้านกายูมาตี หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส มีวัยรุ่น 2 คนขี่รถจักรยานยนต์สวนทางมา โดยมีกระเป๋าผ้าสีแดงวางอยู่ระหว่างคนซ้อนท้ายกับคนขับ ทำให้ ร.ต.ท.รัฐกาญจน์ เรียกตรวจ แต่วัยรุ่นทั้ง 2 คน รีบโยนกระเป๋าใบดังกล่าวทิ้งในป่าละเมาะริมถนน และขี่รถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
จากการตรวจสอบพบว่า ในกระเป๋าใบดังกล่าวมีระเบิดแสวงเครื่องชนิดแอมโมเนียมไนเตรทบรรจุในถังเคมีดับเพลิงสีแดง น้ำหนัก 20 กิโลกรัม จำนวน 1 ลูก สายไฟฟ้าชนิดอ่อนยาวประมาณ 100 เมตร และอุปกรณ์วางระเบิด จึงประสานหน่วยเก็บกู้ทำลายล้างวัตถุระเบิดเข้าเก็บกู้เอาไว้ได้โดยปลอดภัย
"สุเทพ"ลงพื้นที่เร่งโครงการพัฒนา-ครม.ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯอีก 3 เดือน
ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ยังคงมีเหตุการณ์อื่นๆ เกิดขึ้นในพื้นที่ เริ่มจากวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค. คนร้ายสวมชุดดำ 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายฮามะ มะสะ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/5 หมู่ 6 บ้านทุ่งยาว ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากกรีดยางพารามุ่งหน้ากลับบ้าน ทำให้นายฮามะเสียชีวิตคาถนน เหตุเกิดบนถนนสายบ้านทุ่งยาว-บ้านช้างไห้ตก หมู่ 6 ต.โคกโพธิ์
วันจันทร์ที่ 12 ก.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อตรวจเยี่ยมและเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดปัตตานี โดยนายสุเทพได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดโครงการและเบิกจ่ายงบประมาณ เนื่องจากใกล้จะสิ้นปีงบประมาณแล้ว แต่โครงการพัฒนาต่างๆ ยังดำเนินการไปได้แค่ร้อยละ 50 เท่านั้น จึงจะเดินทางลงพื้นที่ทุกๆ 10 วันเพื่อเร่งรัดทุกโครงการ
วันอังคารที่ 13 ก.ค. ที่มัสยิดกลางจังหวัดยะลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้นำเงินช่วยเหลือตามโครงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ จำนวน 5 หมื่นบาท ไปมอบให้กับ นายมะแซ ตือมิงหม๊ะ สามีของ นางสาซือนะ ตือมิงหม๊ะ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุระเบิดบนถนนตรงข้ามมัสยิดกลางประจำจังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยล่าสุด นางสาซือนะ เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา
วันที่ 13 ก.ค.เช่นกัน คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ออกไปอีก 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.ถึง 19 ต.ค.2553 โดยการต่ออายุครั้งนี้ทำให้พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างต่อเนื่องมาแล้ว 5 ปีเต็ม ตั้งแต่เดือน ก.ค.2548 เป็นต้นมา
----------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส (เสื้อสีขาว) ขณะตรวจจุดเกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดและยิงถล่มป้อมจุดตรวจที่บ้านปลักปลา ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส