นายกฯได้ข่าวมี"คาร์บอมบ์"รับปีใหม่ แม่ทัพภาคใต้ยันแนวโน้มสันติสุขเกิดแล้ว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ถึงรายงานข่าวจะมีการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงปีใหม่ โดยเฉพาะคาร์บอมบ์ว่า ส่วนใหญ่เมื่อถึงเทศกาลปีใหม่จะมองถึงการครบรอบเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้น (เหตุการณ์ปล้นปืน วันที่ 4 ม.ค.2547) จึงได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์ต่างๆ อยู่ และยอมรับว่ามีการข่าวรายงานเข้ามาจริง ส่วนในช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งดูเหมือนเหตุรุนแรงเบาบางลงนั้น อาจเกิดจากปัญหาน้ำท่วม
"ตอนนี้ได้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด หน่วยงานต่างๆ ก็รับทราบแล้ว เมื่อการข่าวระบุเช่นนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องดูแลและดำเนินการป้องกัน" นายกรัฐมนตรี ระบุ
อนึ่ง ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวทางสื่อบางแขนง อ้างถึงข้อมูลจากหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า กลุ่มก่อความไม่สงบเตรียมก่อเหตุรุนแรงครั้งใหญ่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมีเป้าหมายคือสถานที่ราชการ สถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ และแหล่งชุมชน ทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดระเบิด "คาร์บอมบ์" ในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
แต่ยังยืนยันเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินบางอำเภอ
อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่านายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ในช่วงที่มีข่าวรัฐบาลเตรียมจะยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ซึ่งอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ในบางอำเภอของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในเร็ววันนี้
โดย นายอภิสิทธิ์ ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ปาฐกถาพิเศษในงาน “100 ปี สภาความมั่นคงแห่งชาติ” ที่หอประชุมสโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต ในวันเดียวกันว่า ปัญหาความมั่นคงที่พบทุกวันเป็นเรื่องเกี่ยวกับชายแดนภาคใต้และความมั่นคงในพื้นที่อื่น โดยในส่วนของภาคใต้นั้นหลายส่วนมีความคล้ายคลึงกับการแก้ไขปัญหาประเทศในภาพรวมในการทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยอย่างยั่งยืน โดยมีกระบวนการพัฒนาและการอำนวยความยุติธรรมเพื่อนำความสุขกลับคืนมา ตามแนวทาง "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"
ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่มีส่วนร่วมจากประชาชน และขณะนี้โครงการพัฒนาระดับหมู่บ้าน ตลอดจนการสร้างโอกาสและอาชีพได้ช่วยให้หลายพื้นที่มีความไว้เนื้อเชื่อใจกันมากขึ้น ทำให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการรักษาความสงบ กระทั่งรัฐบาลกำลังมุ่งสู่การยกเลิกกฎหมายพิเศษ โดยในอนาคตอันใกล้นี้จะมีการยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในบางอำเภอของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
แม่ทัพ 4 ให้ข้อมูลอีกด้าน-ยันแนวโน้มสันติสุขเกิด
ด้าน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) กล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" เมื่อวันอังคารที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ถึงแนวโน้มสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงนับจากนี้ไป ว่า แนวโน้มสันติสุขเริ่มเกิดขึ้นแล้ว เพราะ 7 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ทุ่มเทกำลังคน งบประมาณ และวิธีคิด วิธีปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการทำความเข้าใจกับประชาชนส่วนใหญ่ได้มากขึ้นว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่เป็นปัญหาจากคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่มีความไม่พอใจการปกครองของรัฐบาลไทย
พล.ท.อุดมชัย กล่าวต่อว่า ช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ความรุนแรงเริ่มลดระดับลง และกองทัพมีความพร้อมที่จะให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในบางอำเภอของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สถานการณ์เบาบาง เช่น เจ้าหน้าที่รัฐหน่วยอื่นที่ไม่มีอาวุธสามารถเข้าไปปฏิบัติงานได้อย่างเต็มภารกิจแล้ว หรืออำเภอที่มีแต่อาชญากรรมธรรมดา อาทิ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เป็นต้น เหล่านี้สามารถยกเลิกได้ทันที
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีการเรียกร้องให้ถอนทหารออกจากบางพื้นที่ ทางกองทัพมีความยินดี ถ้าพื้นที่ไหนปกติก็จะเอาทหารออก เพราะต้องการฟื้นฟูกำลังเพื่อไปทำหน้าที่ด้านอื่นอยู่แล้ว และเป้าหมายของกองทัพก็อยากให้ตำรวจกับอาสารักษาดินแดน (อส.) เป็นผู้ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในท้องถิ่นต่อไปเหมือนพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ
ยิงประธานกลุ่มสตรีสาหัสที่บันนังสตา-รวมผู้ต้องสงสัยฆ่า 2 ทหารพราน
ด้านสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันพฤหัสบดีที่ 16 ธ.ค. ยังคงเกิดเหตุรุนแรงรายวัน และมีปฏิบัติการเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. เวลา 19.45 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นางนารียานี นิซอ อายุ 38 ปี ประธานกลุ่มสตรีบ้านอูแบ หมู่ 1 อยู่บ้านเลขที่ 44 บ้านอูแบ หมู่ 1 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดขณะที่นางนารียานีกำลังเดินเข้าบ้านหลังกลับจากร้านน้ำชาในหมู่บ้าน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ก่อนหน้านั้น เวลา 11.30 น. หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 31 ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เข้าปิดล้อมตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 26 บ้านยานิง หมู่ 2 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง และสามารถควบคุมตัว นายมะนาอิง ลาเต๊ะ เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาส ในคดีลอบยิงทหารพรานเสียชีวิต 2 นาย บริเวณตลาดนัดบ้านยานิง หมู่ 2 ต.จวบ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ประกบยิงหมอฟันดับ-กู้บึ้มกลางสวนยางระแงะ
วันพุธที่ 15 ธ.ค. เวลา 18.40 น. คนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายนิกอเด็ง โว๊ะ อายุ 42 ปี อาชีพหมอชาวบ้าน เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฟัน ขณะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากร้านน้ำชามุ่งหน้ากลับบ้าน เหตุเกิดบนถนนทางเข้าหมู่บ้านมั่นคง บ้านปูโปะ หมู่ 9 ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้นายนิกอเด็งเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าสาเหตุการสังหารเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ส่วนที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เวลา 10.40 น.วันเดียวกัน ชาวบ้านเจ้าของสวนยางพาราในท้องที่หมู่ 1 ต.ตันหยงลิมอ ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณโคนต้นยาง เจ้าหน้าที่จึงประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกระป๋องนม น้ำหนัก 1 กิโลกรัม ประกอบเป็น "กับระเบิดแบบเหยียบ" จึงเก็บกู้เอาไว้ได้อย่างปลอดภัย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของผู้ไม่หวังดีที่พยายามวางระเบิดในสวนยางพาราของพี่น้องไทยพุทธ
ซุ่มยิงผู้ใหญ่บ้านเจ็บที่ปาดี ดักฆ่าลูกเขย-แม่ยายดับคาถนน
วันอังคารที่ 14 ธ.ค. เวลา 16.50 น. คนร้ายประมาณ 5-6 คน ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และอาก้า ซุ่มยิง นายซายนุง อาดา อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านดอเฮะ ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ขณะขับรถยนต์ไปบ้านภรรยาที่บ้านลาโล๊ะ หมู่ 5 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี ทำให้นายซายนุงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เหตุเกิดบนถนนสายบ้านตันหยง-บ้านลาโล๊ะ หมู่ 5 ต.สากอ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
วันจันทร์ที่ 13 ธ.ค. เวลา 19.25 น. คนร้ายประมาณ 6 คน ใช้อาวุธปืนอาก้าและเอ็ม 16 ลอบยิงฐานของหน่วยพิทักษ์สันติ 25-3 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 ที่บ้านเขาดิน หมู่ 3 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ทำให้เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนสงครามยิงตอบโต้จนคนร้ายล่าถอยไป เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ สันนิษฐานว่าคนร้ายเป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบ
วันอาทิตย์ที่ 12 ธ.ค. เวลา 14.00 น. คนร้ายจำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายอับดุลเลาะ มะเซ็ง อายุ 41 ปี และ นางเจ๊ะแย รอนิง อายุ 68 ปี ทั้งคู่เป็นลูกเขยกับแม่ยาย อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 148/1 บ้านลูโบ๊ะเย๊าะ หมู่ 7 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ทำให้ทั้งคู่เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบนถนนสายชนบทบ้านเจาะไอร้อง-บ้านป่าไผ่ ขณะที่นายอับดุลเลาะกำลังขี่รถจักรยานยนต์โดยมีนางเจ๊ะแยนั่งซ้อนท้าย กลับจากเยี่ยมญาติที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง มุ่งหน้ากลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุที่แน่ชัดของการสังหารโหดครั้งนี้
---------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เป็นประธานปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจออกระดมกวาดล้างอาชญากรรม ป้องปรามยาเสพติด และเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามแผนปฏิบัติการในช่วงเทศกาลปีใหม่ (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
ขอบคุณ : คุณปาเรซ โลหะสัณห์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คมชัดลึกประจำจังหวัดปัตตานี เอื้อเฟื้อข่าวจาก จ.ปัตตานี