"เยียวยา" กับ "รายอ"
วันศุกร์ที่ 17 ส.ค.2555 ก่อนเทศกาลฮารีรายอประจำฮิจเราะห์ศักราช 1433 เพียง 1 วัน ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) หน่วยงานฝ่ายปกครอง และคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ได้ร่วมกันจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นวันแรก และเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 9 ปีไฟใต้ที่มีการจ่ายเงินเยียวยากันอย่างคึกคักพร้อมเพรียงเช่นนี้
การจ่ายเงินเยียวยาที่เริ่มกันไป เป็นการจ่ายล็อตแรกตามมติคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน โดยกลุ่มที่ได้รับเงินเยียวยาล็อตแรก ได้แก่ กลุ่มประชาชนทั่วไป 6,868 ราย ซึ่งคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ปรับเกณฑ์เยียวยาใหม่จาก 80,000 ถึง 100,000 บาทในกลุ่มผู้เสียชีวิตและทุพพลภาพ เป็น 500,000 บาทเทียบเท่ากับเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งยังมีกลุ่มบาดเจ็บสาหัส บาดเจ็บปานกลาง และบาดเจ็บเล็กน้อยด้วย ใช้งบประมาณ 430 ล้านบาทเศษ (เป็นงบประมาณสำหรับปีแรก โดยคณะรัฐมนตรีมีมติให้ทยอยจ่ายจนถึงปีงบประมาณ 2558)
นอกจากนั้นยังมี "กลุ่มเฉพาะกรณี" ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง หรือก่อความสูญเสียขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2547 (เหตุการณ์กรือเซะ) กรณีมัสยิดกรือเซะ และ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา, เหตุการณ์สลายการชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส (เหตุการณ์ตากใบ) เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547 และกรณีบุคคลถูกบังคับให้สูญหาย รวมถึงกรณีอื่นๆ อีกบางกรณีที่คณะกรรมการเยียวยาฯ อนุมัติให้แล้ว
ด้วยเหตุนี้บรรยากาศที่อาคารเอนกประสงค์ ศอ.บต. ริมถนนสุขยางค์ ในเขตเทศบาลนครยะลา จึงเต็มไปด้วยความคึกคัก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.ได้เป็นประธานมอบเงินเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบกรณีตากใบ กรือเซะ สะบ้าย้อย และผู้ทุพพลภาพจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ตลอดจนข้าราชการที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วย (รายละเอียดและยอดการจ่าย ทั้งแยกรายจังหวัด และยอดรวม อ่านได้ใน ดีเดย์จ่ายเยียวยาล็อตแรก 430 ล้าน 17 สิงหาฯ อนุมัติเพิ่ม "ฆ่าพระ-ไอร์ปาแย" http://www.isranews.org/south-news/Other-news/28-2009-11-14-06-19-24/15765--430-17-q-q-.html)
สำหรับกลุ่มที่ไม่ค่อยปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้เลย คือ กรณีชดเชยเยียวยาผู้ถูกควบคุมตัวหรือถูกคุมขังตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) แลต่อมาได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีความผิด ซึ่งเบื้องต้นได้รับเงินเยียวยาด้วย 29 ราย เป็นเงิน 1,096,800 บาท
พิธีมอบเงินเยียวยาที่ ศอ.บต.มีประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมเป็นสักขีพยาน และมี นายฟัครุดดิน บอตอ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จ.นราธิวาส ซึ่งถูกยิงจนทุพพลภาพ (ภายหลังคดีชัดเจนว่าผู้ก่อเหตุคือเจ้าหน้าที่รัฐที่รับจ้างมายิง) รวมทั้ง นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของ นายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม ที่ถูกอุ้มหาย เดินทางมารับเงินเยียวยารายละ 7.5 ล้านบาทตามมติของคณะกรรมการเยียวยาฯด้วย
"ปัตตานี-นราฯ" จ่ายเยียวยาชื่นมื่น
ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบของ จ.ปัตตานี ซึ่งทางจังหวัดได้ดำเนินการตรวจสอบหลักฐานต่างๆ เรียบร้อยแล้วจำนวน 695 ราย จากทั้ง 12 อำเภอ โดยประชาชนที่ยังไม่พร้อมเข้ารับเงินเยียวยา สามารถไปติดต่อขอรับได้ในวันต่อๆ ไป ณ ที่ว่าการอำเภอใกล้บ้าน
ส่วนที่หอประชุมสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายประดิษฐ์ สุคนธสวัสดิ์ รองผู้ว่าฯ พร้อมด้วย นายวิเชียร จันทรโณทัย รองเลขาธิการ ศอ.บต.ได้ร่วมกันเป็นประธานจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติมสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยกลุ่มที่คัดเลือกมาจ่ายที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนั้น เป็นกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจาก อ.เมืองนราธิวาส อ.ยี่งอ อ.ระแงะ และ อ.บาเจาะ ส่วนอำเภออื่นๆ อีก 9 อำเภอ จ่าย ณ ที่ว่าการอำเภอ
ยอมรับพบปัญหา "ทายาท" ตกลงกันไม่ได้
นายวิเชียร กล่าวว่า การจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติมครั้งนี้ ได้มอบให้ประชาชนพร้อมกันหมดทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมแล้วมีผู้ได้รับเงินเยียวยาเพิ่มเติมในส่วนของประชาชน จำนวน 6,868 คน อย่างไรก็ดี บางพื้นที่ยังมีปัญหาทายาทไม่สามารถตกลงกันได้ว่าใครคือผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยา จึงต้องให้หน่วยงานภาครัฐเข้าไปเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยและทำข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งจะต้องตกลงกันให้ได้ก่อน จึงจะมอบเงิน
เหยื่อไฟใต้รับเยียวยาน้ำตาพรู
ความรู้สึกของผู้ได้รับผลกระทบและครอบครัวที่เดินทางไปรับเงินเยียวยา ส่วนใหญ่แสดงความดีใจและปลื้มใจที่รัฐยังเหลียวแลช่วยเหลือ บางรายเมื่อเล่าถึงสภาพความลำบากที่ต้องเผชิญตลอดมา ก็ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
นางฟาซีลา มาซอ ภรรยาของ นายกูอัมรัน ลือบา ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบจนทุพพลภาพ กล่าวว่า สามีของนางทำงานเป็นลูกจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตันหยงลิมอ และถูกคนร้ายยิงเมื่อปี 2548 จนพิการต้องนั่งรถเข็นจนถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมาเคยได้รับเงินช่วยเหลือจากทางจังหวัด 80,000 บาท
"การได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติมครั้งนี้ถือเป็นเรื่องดีมาก จะได้ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัวและค่ารักษาพยาบาลของสามี แม้ตลอดมารัฐจะช่วยเหลือโดยให้รักษาฟรี แต่ก็ต้องเสียค่าเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อทำกายภาพบำบัดทุกวัน"
นางรอฮีมะ ดะแต ทายาทผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ กล่าวว่า แม้การได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาเป็นเรื่องดี เพราะสามารถนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว และสามารถบรรเทาความเดือดร้อนไปได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเงินที่ได้จะทดแทนความสูญเสียของครอบครัวที่ต้องเสียบิดาไปได้ เพราะทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น
"ปัญหาที่ยังต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้คือเรื่องการทำงาน ฉันอยากให้แม่กับน้องอีก 2 คนมีงานทำ หากเป็นไปได้อยากให้คนใดคนหนึ่งรับราชการ"
นางมัสตะ เจ๊ะอูมา อายุ 51 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งต้องสูญเสียลูกชาย 1 คนในเหตุการณ์ตากใบ คือ นายมะซับรี อาบูคารี อายุ 14 ปี และต่อมาลูกชายอีกคน คือ นายอับดุลเลาะห์ อาบูคารี ก็หายตัวลึกลับขณะเป็นพยานคดีซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดีปล้นปืน กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากเพราะสิ่งที่ได้ต่อสู้มาประสบความสำเร็จ ถือว่าได้รับความเป็นธรรมระดับหนึ่ง
"ฉันขอขอบคุณ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. และขอบคุณรัฐบาลที่ดูแลเรื่องนี้มาด้วยดีโดยตลอด หลังจากนี้จะนำเงินไปทำบุญให้กับลูกที่เสียชีวิต และ จะใช้จ่ายอย่างประหยัดเพื่อดูแลหลานต่อไป"
ขณะที่ นางแมะซู อาบูบากา อายุ 34 ปี ชาวบ้าน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ที่ต้องสูญเสียสามีจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2547 กล่าวว่า เมื่อต้องเสียสามีไป เธอก็ต้องลำบาก เพราะต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง เมื่อวันนี้รัฐให้ความช่วยเหลือ ไม่ทอดทิ้ง จึงรู้สึกดีใจมาก ขอขอบคุณ พ.ต.อ.ทวี ที่ดูแลผู้ได้รับผลกระทบมาโดยตลอด หวังว่าจากนี้ไปชีวิตของเธอและลูกน่าจะดีขึ้น
ถือเป็นเรื่องดีๆ ท่ามกลางข่าวร้ายๆ จากดินแดนปลายขวานที่ยังรอเติมฝันสู่วันสันติสุข...
"รายอ" 19 ส.ค.
วันศุกร์ที่ 17 ส.ค.2555 นอกจากจะเป็นวันแรกของการจ่ายเยียวยาเหยื่อไฟใต้ครั้งประวัติศาสตร์แล้ว ยังเป็นวันที่จุฬาราชมนตรีประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันที่ 1 ของเดือนเซาวาล (วันอีฎิ้ลฟิตริ) ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1433 ด้วย
เหตุนี้จึงทำให้ที่หอชมดวงจันทร์บ้านบูเก๊ะปาเระ อ.ยะหา จ.ยะลา คลาคล่ำไปด้วยพี่น้องมุสลิมจากชายแดนใต้ที่เดินทางไปดูดวงจันทร์กันอย่างเนืองแน่น โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. นายอุดร น้อยทับทิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายปรีชา ชนะกิจกำจร นายอำเภอยะหา พ.อ.ยุทธนา เพชรม่วง ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 47 และตัวแทนประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ไปร่วมดูดวงจันทร์กับพี่น้องประชาชนด้วย พร้อมนำหมวกกะปิเยาะห์กับผ้าปูละหมาดไปแจกจ่าย ทั้งยังได้กล่าวอวยพรให้พี่น้องมุสลิมเฉลิมฉลองฮารีรายอกันอย่างมีความสุข แต่อย่างไรก็ดี ไม่มีผู้ใดเห็นดวงจันทร์
ต่อมา ได้มีประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง กำหนดวันอีฎิ้ลฟิตริ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1433 ความว่า ตามที่ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้ประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันที่ 1 ของเดือนเซาวาล (วันอีฎิ้ลฟิตริ) ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1433 ในวันศุกร์ที่ 17 ส.ค.2555 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้านั้น ปรากฏว่าในวันและเวลาดังกล่าวไม่มีผู้เห็นดวงจันทร์
จึงอาศัยอำนาจจุฬาราชมนตรี ผู้นำกิจการศาสนาอิสลามในประเทศไทย ประกาศว่า วันอีฎิ้ลฟิตริ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1433 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 19 ส.ค.2555
ยิงเอ็ม 79 ถล่มฐานทหารเจ็บ 5 ส่งท้ายรอมฎอน
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบส่งท้ายเดือนรอมฎอนยังคงมีขึ้นประปราย โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 17 ส.ค.เวลา 19.00 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 และอาวุธสงครามไม่ทราบชนิด ยิงถล่มฐานปฏิบัติการ กองร้อยทหารราบที่ 1333 (ร้อย.ร.1333) หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 ที่บ้านบือแนกือบง หมู่ 3 ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 5 นาย ทราบชื่อคือ
1) พลทหารอภิชาต โพธิ์จันทรา 2) พลทหารจักรพงษ์ การนิตย์ 3) พลทหารสุทธิพงษ์ สาริโส 4) พลทหารอภิรักษ์ ศรีสุทัศน์ และ 5) พลทหารคงเดช แสนศรีคำม้วน โดยทั้งหมดอาการไม่สาหัส และหลังเกิดเหตุ ฝ่ายทหารได้ยิงตอบโต้ ทั้งยังขอการสนับสนุนเครื่องบินแบบ AU23 ขึ้นบินตรวจการณ์ด้วยความร้อนและทิ้งพลุส่องสว่าง 3 นัดจนคนร้ายล่าถอยไป
ที่ อ.ยะรัง เช่นกัน เวลาประมาณ 23.00 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดจ่อยิง นายมูหะมะ ปูลา อายุ 43 ปี นายก อบต.ดาโต๊ะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อยู่บ้านเลขที่ 90/1 หมู่ 1 บ้านเปี๊ยะ ต.ดาโต๊ะ อ.หนองจิก เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 174/66 บ้านบินยะรัง หมู่ 3 ต.ยะรัง ซึ่งเป็นบ้านเช่าของนายมูหะมะเอง
สอบสวนทราบว่า นายมูหะมะเพิ่งกลับจากทำธุระ และได้ขับรถกระบะกำลังจอดรถบริเวณหน้าบ้าน ระหว่างนั้นคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดเช่นกัน และทำทีเข้าไปพูดคุย เมื่อสบโอกาสได้ชักอาวุธปืนออกมายิงใส่จนนายมูหะมะเสียชีวิตคาที่ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 พิธีจ่ายเงินเยียวยาที่ จ.นราธิวาส (ภาพโดย สุเมธ ปานเพชร)
2-4 บรรยากาศที่ ศอ.บต.คึกคักเป็นพิเศษ (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
5 การ์ดอวยพรสำหรับเทศกาลฮารีรายอ
ขอบคุณ : เนื้อหาข่าวเฉพาะส่วนบรรยากาศการดูดวงจันทร์ เอื้อเฟื้อโดยสำนักสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ ศอ.บต.