“Brave”ภาพยนตร์ดีๆ มีบทเรียนวันแม่

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมและครอบครัวได้ไปชมภาพยนตร์เอนิเมชัน ยิ่งใหญ่ น่ารัก เรื่อง Brave เป็นเรื่องดีที่ดูได้ทั้งครอบครัวทุกเพศทุกวัย ทั้งสนุกสนาน อลังการ ตระการตา และยังมีสาระน่าสนใจหลายประการ ดังนี้
1. ยอดหญิง เป็น คนจริง คนเก่ง และ คนดี เจ้าหญิง เมริดา เป็นบุตรสาวคนโต ของพระราชาเฟอร์กัส กับ พระราชินี เอลินอร์ เธอเป็นคนจริง เผชิญเรื่องต่างๆอย่างเข้มแข็ง แม้แม่จะไม่อยากให้จับอาวุธเหมือนผู้ชาย แต่เธอก็ยังชอบทำตามพ่อ ผู้เป็นนักรบที่เข้มแข็ง ผลก็คือ เธอเก่งจริง ฝึกฝนธนูตั้งแต่เด็ก จนแม้ขี่ม้ายิงธนู ก็ยังยิงเข้าเป้า ทั้งเป้านิ่ง เป้าหมุน และเป้าเคลื่อนที่ ในการประกวดยิงธนู เธอก็เป็นคนยิงเอง ได้ผลดีเหลือเชื่อราวกับการ์ตูน !
และเธอเป็นคนดี หวังความรักสามัคคีของคนเผ่าต่างๆที่หลากหลาย หาวิธีการอันชอบธรรมเพื่อสร้างความปรองดอง เธอกล้าหาญพอที่จะยืนหยัดต่อสู้กับหมีมาดู ผู้หิวกระหายอำนาจ จนกลายเป็นหมีดุร้าย ทำลายบ้านเมืองจนแทบล่มสลายเหลือเพียงซากปรักหักพัง
2. ยอดพระราชา กล้าต่อสู้ต้านอำนาจอธรรม นำคนให้เป็นคนดี รักสามัคคี และ พอเพียง พระราชาเฟอร์กัส พร้อมยืนหยัดต่อสู้ กับหมีมาดูที่ดุร้าย ในที่สุดถึงกับต้องเสียขาข้างหนึ่งไป แต่พระองค์ก็ยังคงเข้มแข็ง สดชื่น เป็นกำลังใจกับลูกๆและคนรอบข้างเสมอ พระองค์ทรงเป็นคนดี ก็ทรงสอนทุกๆคนให้เป็นคนดี ให้ทำความดี ให้รักสามัคคีกัน เป็นกังวลเมื่อคนเผ่าต่างๆทะเลาะต่อสู้กัน และทรงเป็นแบบอย่างของความพอเพียง ไม่โลภเหมือนหมีมาดู ที่หวังยึดครองทุกอย่างเป็นของตัว จนใช้อำนาจกดขี่คนอื่นๆ และทรงยังมีความสุขได้ แม้เสียขาไปแล้วข้างหนึ่ง
3. ยอดพระราชินี เคียงข้างพระสวามี สอนเจ้าหญิงให้เป็นหญิง เข้มแข็งได้เมื่อถึงเวลา พระราชินีเอลินอร์ ทรงสอนเจ้าหญิง ให้เป็นกุลสตรี คอยดูแลความเรียบร้อยของบ้าน และทุกคนในครอบครัว เธอดูจะเป็นหญิงมากๆ และอยากให้ลูกสาว ก็เป็นหญิงเต็มที่เช่นกัน แต่เมื่อเธอเรียนรู้ความท้าทายของการเผชิญโลก พร้อมจะเป็น “หญิง” ที่เป็น “นักสู้” เธอก็เรียนรู้ และร่วมปกป้องครอบครัวจากหมีร้ายได้เช่นเดียวกัน
4. ผู้กระหายอำนาจ อยากใช้อำนาจ กดคนอื่นๆ กลายเป็นหมีร้าย เป็นเพียง “ผู้ทำลาย” ใน 4 ทายาท มีผู้หวังอำนาจเหนือคนอื่นๆ ถึงกับอยากอาศัยอำนาจเวทย์มนต์ ทำให้ตนมีกำลังเป็น 10 เท่า จึงกลายเป็นหมีร้าย ทำร้ายได้ทุกคน จนบ้านเมืองพังทลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง
5. เลี้ยงลูก ตามสภาพ และ ศักยภาพของลูก แม้ลูก อาจจะไม่ได้มีจุดเด่นอย่างที่เราหวัง เราก็น่าจะสังเกตจุดเด่นของลูก มองหาสภาพและศักยภาพของลูก และสนับสนุนลูกให้มีชีวิตของลูก ตามพรสวรรค์ และศักยภาพของเขาทุกคน
ดังที่ Stephen Covey ผู้เขียนหนังสือ “7 อุปนิสัยของผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จสูง” และ “อุปนิสัยที่ 8” โดยในหนังสือ “อุปนิสัยที่ 8” ได้กล่าวไว้ว่า “Find you voices, and inspire others to find theirs.” คือ “หาเสียงเร้าของคุณ และช่วยคนอื่นหาเสียงเร้านั้น” เราทุกคนจะมีเสียงเร้าในใจว่า เราใฝ่ฝันอยากทำอะไร เราอยากเป็นอะไร ก็ควรจะพยายามหาเสียงเร้านั้นให้พบ
John Maxwell ผู้เขียนหนังสือ “21 คุณภาพของผู้นำ” “The Rights to Lead” ก็ได้กล่าวไว้ว่า “ถ้าเราอยากรู้ว่า เราได้พรสวรรค์อะไรในชีวิตของเรา ก็ให้สังเกตว่า เราชอบทำอะไร เราฝันอยากทำอะไร เราทำอะไรแล้วเรามีความสุข...แต่เท่านั้นยังไม่พอ เราควรทำได้ดี แข่งขันได้ด้วย” ถ้าเราอยากทำ แต่ทำไม่ได้ดี เราก็จะมีปัญหา
John Ng ผู้เขียนหนังสือ “ติ๋มซำ บทเรียนผู้บริหาร” ได้กล่าวไว้ว่า คนเราควรมองหา สิ่งที่เรา เก่งที่จะทำ (Ability to do) อยากที่จะทำ (Want to do) และ ควรที่จะทำ (Should do) เพราะ
...ถ้าเราเพียงอยากที่จะทำ ควรที่จะทำ แต่ พยายามยอย่างไร ก็ยังไม่เก่งที่จะทำ ก็เป็นเพียง “ฝันลมๆแล้งๆ” ที่ทำแล้วก็ไปไม่ได้ไกล
...ถ้าเราเพียงเก่งที่จะทำ ควรที่จะทำ แต่ไม่อยากที่จะทำ ไม่อยู่ในความใฝ่ฝันที่จะทำ เพราะความฝันคืออย่างอื่น ก็เป็นเพียง “การงานที่แห้งแล้ง” ไม่สนุก
...ถ้าเราเก่งที่จะทำ อยากที่จะทำ แต่ไม่ควรทำ ก็เป็น “ความบาป”
...ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่ เราเก่งที่จะทำ อยากที่จะทำ และ ควรที่จะทำ จะนับเป็น “ฮาเลลูยาโซน” คือ “สุดยอดพระพร” สำหรับชีวิตของเราจริงๆ
ในที่สุด แม่ก็เห็นศักยภาพของลูก สนับสนุนลูกตามศักยภาพ และพร้อมเปิดโอกาสให้ลูกได้มีทางเลือกในชีวิตของลูกเอง โดยลดบทบาทจาก “ผู้บงการชีวิต” เป็น “ผู้แนะนำความคิด” ด้วยความรักและความหวังดีเท่านั้น และลูกก็จะได้รับคำแนะนำดีๆ และมีสิทธิ์ที่จะกำหนดชีวิตของเขาเอง
6. รักแม่ เห็นความรักของแม่ และดำเนินชีวิตในพระคุณของแม่ ในที่สุด เจ้าหญิงมาริดาก็เห็นความรักของแม่ แม้จะมีความคิดบางเรื่องที่ไม่ตรงกัน แต่ก็เข้าใจในความรักของแม่และความตั้งใจดีของแม่ พ่อแม่ย่อมรักและให้สิ่งที่ดีกับลูกที่พ่อแม่ให้กำเนิดมาเสมอ เพียงเรามองเข้าถึงหัวใจ เราก็จะเข้าใจ และเราจึงควรที่จะดำเนินชีวิต ในทางที่ดี เพื่อให้พ่อแม่ได้ชื่นใจ และภาคภูมิใจ เพื่อทดแทนพระคุณความรักที่ยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ของเรา
ก็เป็นภาพยนตร์ดีๆอีกเรื่อง ที่แต่ละครอบครัวน่าจะไปดูกัน ลูกๆก็ถือโอกาสพาแม่ไปดูก็ดีนะครับ มีความตระการตา และมีความรักและความอบอุ่นที่คุ้มค่าจริงๆครับ
สุขสันต์เดือนแห่งวันแม่ครับ
มนตรี ศรไพศาล ([email protected]; www.oknation.net/blog/richwithlove; @montrees)
ขอบคุณภาพจาก : http://www.majorcineplex.com
