ปชป.ประเมินผลงานรัฐบาล 1 ปีล้มเหลว 6 ด้าน
ครม.เงา พรรค ปชป.ประเมินผลงานรัฐบาล 1 ปีล้มเหลว 6 ด้าน มีหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นครอบครัวละกว่า 1 แสนบาท วอนรัฐบาลเปิดใจกว้างรับฟังการตรวจสอบเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขปัญหา
คณะรัฐมนตรีเงา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงประเมินผลงานรัฐบาล " 1 ปี รัฐบาลเพื่อไทย ทุกข์ที่คนไทยจำทน " โดยมีรัฐมนตรีเงา 6 คน ร่วมทวงถามสัญญาที่รัฐบาลเคยหาเสียงกับประชาชน เช่น การเพิ่มกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา เรียนก่อน ผ่อนทีหลัง ,เพิ่มเงินปริญญาตรี 15,000บาท ,ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท, และรถไฟฟ้า 10 สาย 20 บาททั่วกทม. แต่รัฐบาลไม่สามาถทำได้ตามสัญญา กลับล้มเหลวโดยสิ้นเชิง รวม 6 ด้าน
โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายกรัฐมนตรีเงา ยืนยันว่าการทวงสัญญานโยบายแทนประชาชน ถือเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านในการตรวจสอบ และข้อมูลทั้งหมดนำมาจากส่วนราชการ และประชาชน ที่ได้รับผลกระทบ ดังนั้น รัฐบาลควรเปิดใจกว้างเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เงา ย้ำความล้มเหลวค่าครองชีพ เรื่องกองทุนน้ำมัน ที่ราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งการประกาศยกเลิกกองทุนน้ำมัน รัฐบาลทำได้เพียงช่วงต้นของการหาเสียง และทำให้กองทุนมีหนี้ 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่การขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท เป็นปรับค่าครองชีพแทน ส่วน 300 บาท ค่าแรงขั้นต่ำ ก็ขึ้นเพียง 7 จังหวัดเท่านั้น และมีการปรับลดสวัสดิการ แต่ภาพรวมค่าครองชีพสูงขึ้น
ขณะที่นายเกียรติ สิทธีอมร รองนายกรัฐมนตรีเงา ระบุว่าราคาสินค้าเกษตร ถูกลงทุกรายการของสินค้าเกษตร สวนทางกับนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ และข้าวเจ้า ส่งผลให้ไทยตกอันดับการส่งออกข้าวจากอันดับ 1 ลงมาที่อันดับ 3 และทำให้เสียรายได้ ขณะที่ราคายางพาราก็ผันผวนและต่ำลง โดยอ้างว่าได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ไม่ดี ซึ่งตรงข้ามเพราะจีนเศรษฐกิจ ร้อยละ 7.8 ส่วนมันสัมปะหลังจากราคาเปิดอยู่ที่ 4 บาท/ก.ก แต่ขายได้จริง ก.ก ละ 1.20 บาท และมีการสวมสิทธิ์ จากเดิมมีเกษตร 4 แสนราย เพิ่มเป็น 7 แสนราย และทำให้หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยครอบครัวละ 1.1 แสนบาท
นอกจากนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเงา พูดถึงความพยายามผลักดันร่าง พ.ร.บ ปรองดอง ซึ่งเป็นการออกกฎหมายล้างผิดคนโกง
ขณะที่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเงา กล่าวถึงความล้มเหลวการแก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง ซึ่งภาพรวมการบริหารที่ล้วเหลวทำให้ประชาชนเป็นหนี้จำนวนมากต่อครัวเรือน

