
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการจัดงานแถลงข่าว “1 ปีรัฐบาลเพื่อไทย ทุกข์ที่คนไทยจำทน” โดยมีการนำป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย (พท.) นำติดไว้ตามเสาต่างๆ ขณะที่บนเวทีมีการขึ้นข้อความตรงฉากหลังว่า “1 ปีรัฐบาลเพื่อไทย ทุกข์ (ตัวใหญ่สีแดง) ที่คนไทย จำทน (สีแดง)” โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลทำงานครบ 1 ปี ฝ่ายค้านก็ถือโอกาสนี้ ประเมินผลงานรัฐบาล โดย ปชป.หยิบ 6 เรื่องที่สังคมให้ความสนใจ ส่งกระทบต่อประชาชน และรัฐบาลต้องตอบคำถามากที่สุด โดยคำถามของ ปชป.นำมาจากสิ่งที่ พท.เคยใช้ในการหาเสียงไว้ และข้อมูลในการประเมินก็นำมาจากเอกสารของราชการเป็นหลัก สิ่งที่เราเสนอวันนี้ จึงเป็นการนำเสนอความจริงของประเทศ
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้า ปชป.ในฐานะ รมว.กระทรวงพาณิชย์เงา จะกล่าวในหัวข้อ “ค่าครองชีพ แพงทั้งแผ่นดิน” ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยประกาศจะกระชากค่าครองชีพ แต่ที่ผ่านมากลับลอยตัวราคาพลังงาน ทำให้ค่าก๊าซและน้ำมันสูงขึ้น เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท ก็เลื่อนไปขึ้นปี 2557 ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทก็ปรับขึ้นทันทีแค่ 7 จังหวัด นอกจากนี้ รัฐบาลยังไม่มีมาตรการช่วยเหลือแรงงานนอกระบบ 24 ล้านคน ที่ได้รับผลกระทบจากขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขึ้นไปรอไว้แล้ว ค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่เคยบอกว่าจะตรึงไว้ 20 บาทตลอดสาย วันนี้ก็ยังไม่เกิดขึ้นจริง ค่าโดยสารก็ปรับขึ้นในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งๆที่เป็นช่วงเปิดเทอม มีการลดหน่วยใช้ไฟฟ้าฟรี ทำให้ชาวบ้านหลายล้านครัวเรือนเดือกร้อน นอกจากนี้ ยังขึ้นค่าเอฟทีทำให้รายจ่ายครัวเรือนในส่วนของค่าไฟฟ้าเพิ่มถึง 8-10%
“คำถามของผมถึงนายกฯ จึงมีว่า เมื่อไรของจะถูก เมื่อไรน้ำมันจะถูก และเมื่อไรจะทำตามที่หาเสียงไว้ คือกระชากค่าครองชีพลงมา” นายอภิรักษ์กล่าว
นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. ในฐานะรองนายกฯ เงา กล่าวในหัวข้อ “สินค้าเกษตร ถูกทั้งแผ่นดิน” ว่า ในขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภคแพง สินค้าเกษตรกลับถูก ทั้งๆที่รัฐบาลชุดนี้ใช้เงินในการดูแลสินค้าเกษตรมากที่สุดในประวัติศาสตร์ หลายแสนล้านบาท แต่ผลกลับเป็นสินค้าเกษตรหลัก 3 ตัว ทั้ง 1.ข้าว จำนำไม่ได้ตามราคาที่ประกาศ แถมมีการทุจริตทุกขั้นต่ำ 2.ยางพารา ไม่เคยขายได้กิโลกรัมละ 120 บาท อย่างที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เคยประกาศ เมื่อวันที่ 23ส.ค.ยังขายได้แค่กิโลกรัมละ 76 บาท และ 3.มันสำปะหลัง ก็เอื้อประโยชน์นายทุน โดยเฉพาะเจ้าของลานมัน ทั้งนี้มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยสำรวจภาวะหนี้สินของเกษตรกรไทย ปรากฎว่าเพิ่มขึ้น 7% หรือราว 1 หมื่นบาท จากหนี้ทั้งหมดของเกษตรกร ราว 1.1 แสนบาท เกษตรกรไปกู้หนี้นอกระบบเพิ่มขึ้น 40% ที่สำคัญ 28% ระบุว่าพร้อมขายที่นาไปใช้หนี้ มาตรการสินค้าเกษตรอื่นๆ อาทิ หอมแดง มะพร้าว ฯลฯ ก็มีการทุจริต โดยสรุปเกษตรกรไทยโดนหลอก โดนโกง รายได้ไม่เพิ่ม แต่หนี้สินเพิ่มทั้งแผ่นดิน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวในหัวข้อ “ปรองดองจอมปลอม” ว่า 1 ปีที่ผ่านมา คนไทยต้องทนทุกข์กับนโยบายปรองดองที่ล้มเหลว เพราะที่นายกฯเคยประกาศว่าจะแก้ไขไม่แก้แค้น ไม่ทำเพื่อพี่ชาย ไม่คืนทรัพย์สิน 4.6 หมื่นล้านบาท แต่กลับทำตรงกันข้ามถึง 4 เรื่อง 1.ที่บอกจะไม่แก้แค้น เป็นแค่วาทกรรม เพราะมีการใช้ทุกกลไก ข่มขู่เล่นงานฝ่ายตรงข้าม ไม่เว้นแม้แต่ภาคประชาชน ตุลาการ องค์กรอิสระ เพื่อให้สนองความต้องการทางการเมืองของรัฐบาล 2.นำงบประมาณไปเยียวยาผู้ชุมนุม ที่ส่วนใหญ่สนับสนุน พท. ถึง 7.5 ล้านบาท ขณะที่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่เสี่ยงภัยในพื้นที่อื่นๆ ไม่ได้ในมาตรฐานเดียวกัน3.แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอ้างประชาธิปไตยบังหน้า เป้าหมายแท้จริงคือลบล้างมาตรา 309 เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับคนพิเศษ ขณะที่นายกฯไม่ให้ความสำคัญกับสภาผู้แทนราษฎร ตอบกระทู้ถามสดแค่ 2 กระทู้ จากทั้งหมด 41 กระทู้ และ 4.เตรียมออกกฎหมายล้างผิด โดยตั้งชื่อว่า พ.ร.บ.ปรองดอง เพื่อลับ ลวง พราง ทั้งๆ ที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าเป็นกฎหมายล้างผิดคนโกง และถึงวันนี้ยังไม่มีการถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองทั้ง 4 ฉบับออกจากสภาฯ ซึ่งคาดว่าหากนำมาพิจารณาเมื่อใดจะเกิดวิกฤตรอบใหม่แน่นอน
“คำถามก็คือ เมื่อไรรัฐบาล พท.จะก้าวพ้นเรื่องผลประโยชน์ของคนๆ เดียว และนำประเทศไทยไปสู่ความสงบอย่างแท้จริงเสียที” นายจุรินทร์กล่าว
นายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส ปชป.ในฐานะ รมช.กระทรวงมหาดไทย กล่าวในหัวข้อ “ไฟใต้ยังไม่สงบ” ว่า การแก้ไขปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลนี้ล้มเหลวสิ้นเชิง การตั้งองค์กรใหม่ ทั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.จชต.) หรือเพนตากอน ก็เกาไม่ถูกที่คัน โดยมีความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหา 6 ประเด็น 1.สถิติความสูญเสียและเหตุรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ค.ของปีนี้ 2.ช่วงเทษกาลถือศีลอด (รอมฎอน) ในปีนี้ เพียง 10 วัน ก็มีผู้เสียชีวิตถึง 20 ราย มากกว่ารอมฎอนของปีที่แล้วทั้งปี ที่มีเพียง 8 ราย 3.เตรียมประกาศเคอร์ฟิวในช่วงรอมฎอนแสดงให้เห็นว่าไม่เข้าใจวิถีชีวิตของพี่น้องมุสลิมเลย 4.รัฐบาลไม่เข้าใจอัตลักษณ์ของคนมุสลิม 5.มีปัญหาเรื่องการบูรณาการทำงาน โดยเฉพาะการให้รองนายกฯ ถึง 3 คนร่วมกันดูแล ซึ่งทำให้เกิดความสับสน และ 6.ไม่มีการส่งเสริมความร่วมมือจากประชาชน
นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะ รมช.กระทรวงคมนาคมเงา กล่าวในหัวข้อ “น้ำทั้งท่วมทั้งแล้ง” ว่า น้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้ว ทำให้มีคนเสียชีวิตกว่า500 คน ชาวบ้านกว่า 1 ล้านคนต้องเร่รอน ธนาคารโลกเคยประเมินความเสียหายว่ามีราว 1.4 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของงบประมาณปี 2556 ถึงวันนี้ชาวบ้านจำนวนมากยังไม่ได้รับเงินเยียวยา ขณะที่โครงสร้างป้องกันน้ำท่วมล่าช้า หรือไม่ได้มาตรฐาน เช่น คันกั้นน้ำคลองพระยาบรรลือ ซึ่งถ้าน้ำมาจะท่วม จ.ปทุมธานีและนนทบุรีแน่ รัฐบาลอาจตายใจว่าปีนี้น้ำน้อย ไม่ท่วมแต่จะแล้ง เลยแก้ปัญหาไปตามยถากรรม การใช้เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท เป็นโครงการระยะยาว 5 ปีขึ้นไปทั้งสิ้น นอกจากนี้ การจ้างเหมาแบบบิลด์แอนด์ดีไซน์ หรือสร้างไปออกแบบไป ยังเปิดช่องให้มีการทุจริตได้มาก จึงอยากถามกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ 3 ข้อ 1.มั่นใจหรือไม่ว่าถ้ามวลน้ำก้อนใหญ่มาจะไม่ท่วมอีก 2.เมื่อไรจะมอบเงินเยียวยาให้กับประชาชนทุกคน และ 3.จะเปลี่ยนวิธีจ้างเหมาจากบิวด์แอนด์ดีไซน์ได้หรือไม่
จากนั้นมีการเปิดคลิปที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พูดไว้ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งปี 2554 ว่าหากมีการขาดดุลแฝด ทั้งงบประมาณและบัญชีเดินสะพัด ถือว่าอันตราย และสังหรณ์ว่า พท.จะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน เพราะ ปชป.สร้างหนี้สินไว้มาก
โดนนายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป.ในฐานะรองนายกฯ เงา จะกล่าวในหัวข้อ “หนี้ท่วมหัว” ว่า พ.ต.ท.ทักษิณพูดเองว่าถ้าขาดดุลแฝดจะอันตราย แต่สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดกลับเกิดขึ้นในรัฐบาล พท. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่วิกฤตต้มย้ำกุ้ง ในปี 2540 ที่มีการขาดดุลแฝด ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าตัวเองไม่ชอบกู้ แต่รัฐบาลชุดนี้กลับกู้มากที่สุด ทั้งที่เป็นหนี้ในระบบ 7 แสนล้านบาท และหนี้นอกระบบอีก 1 ล้านล้านบาท รวมแล้วรัฐบาล พท.สร้างหนี้ให้กับประเทศ 1.7 ล้านล้านบาท มากกว่าที่รัฐบาล ปชป.ใช้เวลาถึง 2 ปีเศษๆ นอกจากนี้ยังขาดวินัยทางการเมือง อย่างในงบประมาณปี 2556 มีการตั้งงบชำระหนี้ไว้เพียง 6.5% ที่เลวร้ายที่สุด คือรัฐบาลชุดนี้ ถนัดแต่กู้ แต่ใช้เงินไม่เป็น อย่างงบแก้ปัญหาน้ำท่วม 3.5 แสนล้านบาท รมช.กระทรวงการคลังยอมรับว่า ได้ใช้ไปเพียง 700 ล้านบาทเท่านั้น
“รัฐบาล พท.ถนัดใช้เงินมากกว่าทุกรัฐบาล แต่ไม่ยอมลดภาระให้กับประเทศชาติ นอกจากนี้ ทั้งๆ ที่ วิธีกู้เงินในระบบได้ แต่กลับไปกู้นอกระบบ เพื่อไม่ให้ยุ่งยากในการชี้แจงรายละเอียด ว่าจะไปใช้อย่างไร และจะมีผลตอบแทนอย่างไร” นายกรณ์กล่าว
นายกรณ์ยังกล่าวว่า เรื่องปัญหานี้สินก็เลวร้ายลงทุกวัน พ.ต.ท.ทักษิณพูดเองว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ ไม่ต้องไปดูตัวเลข ให้ล้วงเข้าไปในกระเป๋าก็รู้แล้ว ล่าสุด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยชี้ว่าหนี้สินเกษตรเพิ่มถึงครัวเรือนละ 1 แสนบาท มากที่สุดในรอบ 4 ปี ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยก็บอก่วา หนี้สินครัวเรือนไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่31% พูดง่ายๆว่า หากเงินมาได้ 100 บาท ต้องนำไปใช้หนี้ 31 บาท โครงการพักหนี้ของรัฐบาล ก็ช่วยได้แค่ลูกค้าของธนาคารรัฐ โดยสรุป 1 ปีของรัฐบาล พท.มีแต่แผนการใช้เงิน ขาดแผนการสร้างรายได้ ดุลสำคัญๆ ของประเทศติดลบหมด ประชาชนหนี้ท่วมหัว รัฐบาลขาดแนวทางลดหนี้ และขาดแนวความคิดในการสร้างรายได้ให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างสิ้นเชิง คำถามของพวกเราก็คือ รัฐบาลจะลดภาระหนี้ให้กับประเทศ และประเทศ เมื่อไรและอย่างไร
ท้ายสุด นายอภิสิทธิ์ กล่าวสรุปว่า 1 ปีรัฐบาล พท. ความทุกข์ของคนไทย 6 ข้อ มีทั้งแพงทั้งแผ่นดิน ถูกทั้งแผ่นดิน ขัดแย้งทั้งแผ่นดิน น้ำท่วม ไฟใต้ท่วม หนี้ท่วม ผมอยากให้ข้อคิดรัฐบาล การจะตอบคำถามทั้ง 6 ข้อของ ปชป. ใจของรัฐบาลต้องมีให้กับประชาชน ให้ยึดมั่นผลประโยชน์ของประชาชนก่อน 1.แพงะทั้งแผ่นดิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีกำไรสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์ ไตรมาสแรกของปี 2555 ปตท.ก็มีกำไรถึง 3.7 หมื่รนล้านบาท คำถามก็คือเมื่อไรรัฐบาลจะให้ผลประโยชน์ของประชาชนมาก่อนผลประโยชน์ของธุรกิจพลังงาน 2.ถูกทั้งแผ่นดิน ท่ามกลางความทุกของเกษตรกรทั่วประเทศ แต่บางธุรกิจ เช่น โรงสีกลับเฟื่องฟู คนกลางและเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนได้ประโยชน์จากการโกง คำถามก็คือ เมื่อไรรัฐบาลจะเอาประโยชน์ของเกษตรกรมาก่อนนายทุน โรงสี และคนเหล่านั้น 3.ขัดแย้งทั้งแผ่นดิน เราเห็นชัดว่าพฤติกรรมของรัฐบาลที่ผ่านมา ทำเพื่อประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือคนบางส่วนที่ทำผิดกฎหมาย แต่ต้องการหลุดพ้นคดี คำถามก็คือเมื่อไรจะเอาผลประโยชน์ของส่วนรวมและประเทศชาติ มาก่อนผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณและพรรคพวก
หัวหน้า ปชป.ยังกล่าวว่า 4.ไฟใต้ท่วม ประชาชนที่ต้องทุกข์กับความเสี่ยง ความตาย เขาเรียกร้องความจริงใจในการแก้ไขปัญหา แต่รัฐบาลกลับไม่จริงจัง นายกฯหรือคนที่มอบหมายไม่พร้อมไปเสี่ยงลงพื้นที่ มาตั้งศูนย์ในส่วนกลาง หลีกเลี่ยงการร่วมทุกข์สุขกับประชาชน คำถามก็คือเมื่อไรรัฐบาลจะเอาผลประโยชน์และสันติภาพของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาก่อนความกลัวของตัวเอง 5.น้ำท่วม มีการกู้เงินมหาศาล แต่รูปธรรมกลับไม่ชัดเจน โครงสร้างป้องกันน้ำท่วมในปี 2555 ก็เสร็จไม่ทัน โครงการระยะกลางและระยะยาวก็ไม่ชัดเจน แต่ผู้เกี่ยวข้องดูจะมีความสุขกับการบริหารเงินก้อนใหญ่ ได้ประมูลเมกกะโปรเจ็คส์โดยไม่ต้องใช้ระเบียบราชการ และคิดใช้จ่ายเงินโดยไม่ดูถึงประสิทธิภาพ คำถามก็คือเมื่อไรรัฐบาลจะเอาผลประโยชน์และความปลอดภัยประชาชนจากภัยพิบัติ มาก่อนผลประโยชน์จากการทำโครงการเมกกะโปรเจ็คส์ และผลประโยชน์ของเหลือบงบประมาณและเงินกู้ และ 6.หนี้ท่วม กำลังนำพาเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ความเสี่ยง ขณะที่รัฐบาลใช้นโยบายประชานิยม เพื่อสร้างภาพลวงตาหวังคะแนนนิยม คำถามก็คือเมื่อไรจะเอาความยั่งยืนในการพัฒนา และความสุขที่แท้จริงของประชาชน มาก่อนความสุขที่เป็นภาพลวงตาและผลประโยชน์ทางการเมือง
“ผ่านไปแล้ว 1 ปี ความล้มเหลว 6 ด้านได้มีการสะท้อนชัดเจน ปชป.มีเสียงข้างน้อย เป็นฝ่ายค้าน ขอเรียกหาความรับผิดชอบและคำมั่นสัญญา จากเสียงข้างมาก อย่างรัฐบาล พท.ในการทำงาน ปีที่ 2 เราหวังว่า นโยบายที่ล้มเหลวต่างๆ จะได้รับการทบทวนแก้ไข รวมถึงหวังจะเห็นรัฐบาล พท.เอาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนมาก่อนและอยู่สิ่งอื่นใด นี่คือหน้าที่ของเราที่จะต้องติดตามการทำงานของรัฐบาลต่อไป” นายอภิสิทธิ์กล่าว
:::เรื่องที่เกี่ยวข้อง:::
- "คำถาม" ที่ฝ่ายค้านอาสาถาม "รบ.ยิ่งลักษณ์" แทนประชาชน