เมื่อ “ชายชุดดำ” ซ่อนอยู่ใต้ที่ทำการพรรคเพื่อไทย???
เปิดตัว "ชายชุดดำ" ที่ซุกอยู่ใต้จมูก พท. แถมยังมีความเชื่อมโยงกับ "ทักษิณ ชินวัตร" อีกต่างหาก !

ห้องสมุดทักษิณ ชินวัตร (Thaksin Shinawatra Library) เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค.2555 เนื่องในวันเกิดครบ 63 ปี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ห้องสมุดแห่งนี้ ตั้งอยู่ใต้อาคาร โอ.เอ.ไอ. ที่ทำการพรรคเพื่อไทย (พท.) ด้านหน้ามีร้านกาแฟ ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องแถลงข่าวและห้องทำงานของสื่อมวลชน และเปิดให้บริการทุกวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.
สำหรับหนังสือมีการแบ่งเป็นหมวดหมู่ อาทิ การเมือง เศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ แต่มีการกันชั้นหนึ่งไว้ 2 ล็อค ให้กับหนังสือที่เขียนถึง ชีวิต แนวคิด ประวิติ และผลงาน ของ พ.ต.ท.ทักษิณโดยเฉพาะ ขณะที่อีกมุมของห้องมสุดจะมีการเปิดสถานีโทรทัศน์ของ นปช. อาทิ เอเชียอัพเดท คาไว้ตลอดเวลา
ขณะที่การเมืองไทยกำลังระอุ หลังจาก คอป.เปิดรายงานฉบับสมบูรณ์ ที่มีการยืนยันถึง “ชายชุดดำ” หรือกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่าย ที่ออกมาเคลื่อนไหวปะปนอยู่ในหมู่ผู้ชุมนุม นปช.ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.-19 พ.ค.2553 พร้อมใช้อาวุธสงครามตอบโต้กับทหารในเหตุการณ์สำคัญๆ ทั้งสี่แยกคอกวัว-โรงเรียนสตรีวิทยา ไปจนถึงวันปทุมวนาราม นำไปสู่ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินในเวลาต่อมา
แต่แม้ว่า คอป.จะอ้างพยานหลักฐานจำนวนมาก พท.และ นปช.ก็ยังยืนกรานว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดง เมื่อกว่า 2 ปีก่อน ไม่เคยมีกองกำลังติดอาวุธที่ว่าออกมาเพ่นพ่านแต่อย่างใด
(ไปดูว่า คอป.อ้างพยานหลักฐานอะไรบ้างใน เปิดภาพ-ที่มา "ชายชุดดำ" ในรายงานฉบับสมบูรณ์ คอป.)
โดย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะแกนนำ นปช.กล่าวว่า ข้อมูล คอป.นั้นผิวเผิน และเหมือนกับสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พูดมาตลอด
ขณะที่ ส.ส.พท.จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นพ.เหวง โตจิราการ น.ส.จารุพรรณ กุลดิลก และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ได้ตั้งโต๊ะแถลงปฏิเสธเรื่องการมีอยู่จริงของชายชุดดำ รวมถึงความเชื่อมโยงกับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ “เสธ.แดง” พร้อมฉีกรายงานฉบับสมบูรณ์ของ คอป.ต่อหน้าสื่อ
อย่างไรก็ตาม ใช่จะมีแต่รายงานของคณะกรรมการชุดของ “นายคณิต ณ นคร” ที่ทั้งรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยอมให้ทำหน้าที่ค้นหา “ความจริง” เท่านั้น ที่กล่าวถึงการมีอยู่จริงของ “ชายชุดดำ”
กระทั่งหนังสือบางเล่มที่อยู่ในห้องสมุดทักษิณ ชินวัตร ซึ่งอยู่ใต้ พท.เอง ก็ยังเขียนถึงเรื่อง “ชายชุดดำ” ระหว่างการชุมนุมของ นปช.ในปี 2553 เช่นกัน อาทิ
(1) “สมุดปกขาวการสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ:ข้อเรียกร้องต่อการแสดงความรับผิดชอบภายใต้พันธกรณีระหว่างประเทศ ที่ประเทศไทยมีหน้าที่ในการนำตัวฆาตกรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” ซึ่งจัดทำโดยสำนักกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟ พูดง่ายๆ ก็คือ หนังสือที่นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณจัดทำขึ้น
โดยในหน้าที่ 94-95 ในหัวข้อ 6.3 การบดขยี้คนเสื้อแดง ได้เขียนเอาไว้ว่า
“มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในช่วงที่เหตุรุนแรงเรื่มประทุเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ในวันนั้นคนเสื้อแดงใช้ก้อนหิน ประทัด ระเบิดขวด และอาวุธที่ประกอบขึ้นเองอย่างง่ายๆ ตอบโต้กับกองทัพที่ติดอาวุธพร้อมมือ กว่าที่รัฐบาลจะยอมหยุดยิง ก็มีผู้เสียชีวิตไป 27 คน ประกอบด้วยสมาชิก นปช. 21 ราย และเจ้าหน้าที่ทหารอีกจำนวนหนึ่งที่ถูกสังหารโดยกลุ่มคนลึกลับที่เรียกกันว่า ’ชายชุดดำ’ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าคนกลุ่มนี้มีแรงจูงใจอย่างไรหรืออยู่ฝ่ายใดกันแน่...”
และ (2) “วีรชน 10 เมษา:คนที่ตายมีใบหน้า คนที่ถูกฆ่ามีชีวิต” ซึ่งจัดพิมพ์โดย มูลนิธีวีชนประชาธิปไตย ผู้เขียน กรกช เพียงใด บรรณาธิการ ไอดา อรุณวงศ์ วริศา กิตติคุณเสรี เรียบเรียงข้อมูลโดย กองบรรณาธิการประชาไท ดำเนินการผลิตโดย สำนักพิมพ์อ่าน
โดยในหน้าที่ 10-11 ในหัวข้อ “ชายชุดดำถึงผู้ก่อการร้าย”ได้เขียนเอาไว้ว่า
“หลังเหตุการณ์ ‘ชายชุดดำ’ ที่ใช้อาวุธหนักตอบโต้จนทำให้มีทหารระดับผู้บังคับบัญชาพร้อมพลทหารเสียชีวิตได้กลายเป้น ‘ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์’ โทรทัศน์ทุกช่องมีรายการพิเศษของ ศอฉ. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงจากฝ่ายรัฐวันละหลายครั้ง ตอบโต้การกล่าวหาว่ารัฐคือผู้ลั่นกระสุนใส่พลเรือน ทั้งปฏิเสธว่าไม่มี ‘สไนเปอร์’ บนอาคารสูงที่ซุ่มยิงผู้ชุมนุมจนสมองออกมากองบนถนนอย่างที่มีการโจษจัน อย่างไรก็ตาม ภายหลังเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งคุมกำลังบริเวณโรงเรียนสตรีวิทยาได้ไปให้ปากคำต่อ คอป.โดยยอมรับว่ามีทหารหน่วยคุ้มกันประจำการบนตึกด้วยส่วนหนึ่ง...”
ในส่วนของลำดับเหตุการณ์หนังสือเล่มนี้ ยังเขียนถึงการยิงอาวุธสงครามใส่เจ้าหน้าที่ทหารเอาไว้ว่า
“ในเวลา 20.45 น. (ของวันที่ 10 เม.ย.2553) บริเวณฝั่งถนนพระสุเมรุ เหตุการณ์ตึงเครียดขึ้นเมื่อทหารปิดฉากยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อสกัดผู้ชุมนุม จากนั้นไม่นานมีระเบิด M79 ยิงสวนเข้าใส่กลุ่มทหาร จำนวน 2-3 ลูกติดกัน ทำให้กลุ่มทหารแตกฮอืและถอยกำลังร่นไปตั้งหลักที่บริเวณสี่แยกถนนดินสอตัดกับถนนพระสุเมรุ ทางผู้บังคับบัญชามีคำสั่งยิงกระสุนจริงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขวัญผู้ชุมนุมเป็นระยะ ขณะเดียวกันพบว่ามีทหารถูกสะเก็ดระเบิดสาหัส อย่างน้อย 2 ราย...”
นี่คือตัวอย่าง “ชายชุดดำ” ที่แฝงตัวอยู่แค่ปลายจมูกของคน พท.และ นปช. !!!
