บัณฑิต ม.บูรพามึน! ขอ“แต่งสลับเพศ”รับปริญญา ต้องมีใบรับรองแพทย์ก่อน 6 ด.
บัณฑิต ม.บูรพา มึน! ขอ“แต่งสลับเพศ”รับปริญญา ต้องมีใบรับรองแพทย์ก่อนหน้า6ด.
ตามที่ "สำนักข่าวอิศรา" เคยนำเสนอข่าวไปว่า ผู้บริหารมหาวิทยาลัยบูรพานำโดย นพ.สมพล พงศ์ไทย อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา ได้อนุญาตให้บัณฑิตแต่งกาย "สลับเพศ" เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 ต.ค.2555 ได้ โดยบัณฑิตจะต้องยื่นคำร้องต่อมหาวิทยาลัยเป็นรายบุคคลซึ่งจะพิจารณาให้สวมชุดครุยให้ตรงตาม "เพศของจิต" ได้เป็นรายกรณีไป สำหรับบัณฑิตที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้ว มหาวิทยาลัยอนุญาตให้สวมชุดครุยให้ตรงตาม "เพศของจิต" ได้ แต่ให้มีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลที่ทำการผ่าตัดมายืนยัน ตามข่าว “ม.บูรพาไฟเขียว! บัณฑิต“แต่งสลับเพศ” รับปริญญาได้ แต่ต้องมีใบรับรองแพทย์”
ล่าสุด มีบัณฑิตมหาวิทยาลัยบูรพาคนหนึ่ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตั้งคำถามถึงผู้บริหารมหาวิทยาลัยบูรพา หลังเดินทางไปขอใช้สิทธิดังกล่าวแต่พบปัญหาบางประการ
“เรียน ศ.นพ.สมพล พงศ์ไทย อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา
เนื่องด้วย ข้าพเจ้า (ชื่อ-นามสกุล) รหัสนิสิต 51XXXXXX บัณฑิตคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกนิเทศศาสตร์ สาขาการประชาสัมพันธ์ ได้รับข่าวสารประชาสัมพันธ์ของทางมหาวิทยาลัยบูรพา ฉบับวันที่ 13 ก.ย.2555 เกี่ยวกับการปฏิบัติและการดำเนินการ เรื่องการขอแต่งชุดครุยข้ามเพศสภาพเพื่อเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในวันที่ 3 ถึงวันที่ 8 ต.ค.2555 ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณท่านอธิการบดี กับการให้ความสำคัญกับการหาแนวทางในการช่วยเหลือในเรื่องราวที่เกิดขึ้น
จากข่าวสารเบื้องต้นประกาศเมื่อวันที่ 13 ก.ย.2555 นั้น ข้าพเจ้ามีความประสงค์ที่จะเดินทางไปดำเนินเรื่องเพื่อยื่นคำร้องต่อทางมหาวิทยาลัยบูรพา จึงได้เดินทางไปขอใบคำร้องในวันที่ 14 ก.ย.2555 ซึ่งในกำหนดการได้มีข้อระบุไว้ 2 กรณี คือ
- สำหรับบัณฑิตที่แปลงเพศแล้ว สามารถนำหลักฐานการแปลงเพศ ใบรับรองจากแพทย์ที่ทำการผ่าตัดมายื่นเรื่องประกอบคำร้อง ก็จะได้รับการพิจารณา (ผ่านการเข้าพบแพทย์เป็นเวลา 1 ชั่วโมง)
- สำหรับบัณฑิตที่ยังไม่ได้แปลงเพศ ต้องเข้าพบแพทย์อย่างน้อย 6 เดือน (แล้วสำหรับบัณฑิตที่เข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอกมาแล้วจะมีแนวทางในการดำเนินการอย่างไร ไม่มีระบุในข้อกำหนด)
อีกประการหนึ่ง ข่าวสารประชาสัมพันธ์นั้น ได้ออกมาก่อนกำหนดการรับพระราชทานปริญญาบัตร เพียงไม่ถึง 1 เดือน จึงเป็นเรื่องลำบากสำหรับบัณฑิตที่มีสภาพจิตใจตรงข้ามกับเพศสภาพ แล้วยังไม่ได้ผ่านการผ่าตัดแปลงเพศ เพราะต้องใช้ใบรับรองเเพทย์อย่างน้อยถึง 6 เดือน จึงขอให้ท่านอธิการบดีให้ความกรุณานำเรื่องนี้ไว้พิจารณาเป็นวาระเร่งด่วน ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวข้าพเจ้าได้สอบถามจากฝ่ายงานที่รับผิดชอบแล้ว ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบในข้ออนุโลมในกระบวนการดำเนินการได้ จึงใคร่ขอความกรุณาจากท่านอธิการบดี ดำเนินการหาข้ออนุโลม เพื่อนำไปปฏิบัติอย่างถูกต้อง
ด้วยความเคารพอย่างสูง”