เบื้องหลัง ”ทัวร์แดงเดือด7ล้านของขุนค้อน” ใน twitter ของแคน สาริกา
เมื่อคืนวาน (28 ก.ย.) นายบัณฑิต จันทศรีดำ หรือ “แคน สาริกา” บรรณาธิการและคอลัมนิสต์อาวุโสสื่อเครือเนชั่น ได้เขียนข้อความผ่านทวิตเตอร์ @can_nw ถึงผู้อยู่เบื้องหลัง “ทัวร์แดงเดือด” ของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นข่าวฮือฮาในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะใช้เงินภาษีประชาชน 7 ล้านบาท พาคนใกล้ชิดและสื่อไปท่องเที่ยวในทวีปยุโรปนาน 8 วัน 7 คืน
อาหารค่ำ(1)มารู้จัก "บริษัทแมคซิม่าสตูดิโอจำกัด" ที่ก่อตั้งโดย "ติ๊ก"วีรวัฒน์ ยมจินดา น้องชายจักรพันธ์ ยมจินดา (หน.ทัวร์แดงเดือดตัวจริง)
อาหารค่ำ(2)"วีรวัฒน์" เคยทำ นสพ.ข่าวสดของ"พญาไม้" เมื่อข่าวสดถูกขายให้มติชน ก็เลิกอาชีพนักข่าว หันไปเปิดบริษัทแมคซิม่าฯ รับงานทำสื่อ ปชส.
อาหารค่ำ(3)แมคซิม่าฯรับงาน ปชส.ภาครัฐ ตั้งแต่ปี38 และเฟื่องฟูยุครัฐบาลไทยรักไทย ต้นปี 49 แมคซิม่าทุ่ม 60 ล้าน ทำรายการข่าวเต็มตัวทางช่อง5
อาหารค่ำ(4)แมคซิม่ายุค"จักรพันธุ์" เป็น ปธ.บริหาร เด่นดังในช่อง5 มีข่าวเช้า-ดึก วาไรตี้ และคอนเสิร์ตลูกทุ่ง ที่คนคุ้นหูคือสถานีสนามเป้า
อาหารค่ำ(5)แมคซิม่าในช่อง5 ขยับไปตามคลื่นลมการเมือง จากสถานีสนามเป้า ขยับเป็นสนามเป้าเล่าข่าว และสนามเป้าข่าวเที่ยง ก่อนยุติ
อาหารค่ำ(6)ตอนที่จักรพันธุ์เข้าไปเป็นรักษาการ ผอ.อสมท ก็บอกว่าจะไม่ให้แมคซิม่ามารับงานในช่อง 9 แต่บริษัทของเสี่ยติ๊กก็ยังมีรายการทางช่อง5
อาหารค่ำ(7)จักรพันธุ์เป็น ส.ส.ปชป. ก่อนจะมาอยู่พรรค ทรท. จึงรู้จักนักการเมืองทุกพรรค มีคอนเนกชั่นกับสื่อโดยเฉพาะกลุ่มคอลัมนิสต์ นสพ.หัวสี
อาหารค่ำ(8)เมื่อ "ขุนค้อนโปรโมชั่น" โคจรมาพบกับอดีต ปธ.แมคซิม่า ความรื่นรมย์จึงบังเกิดขึ้นดั่งที่เป็นข่าวอยู่ในเวลานี้
(คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
สำหรับ “แคน สาริกา” เป็นผู้ที่คอการเมืองในโลกทวิตเตอร์รู้จักกันดี เพราะมักใช้พื้นที่ซึ่งมีข้อจำกัด 140 ตัวอักษร ให้ปูมหลังบุคคลในข่าวที่กำลังเป็นกระแส เพื่อใช้วิเคราะห์ที่มาที่ไป รวมถึงสถานการณ์โดยรวม ผ่านคอลัมน์ “อาหารเช้า” และ “อาหารค่ำ”
ก่อนหน้านี้ เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ น.ส.ชลาทิพย์ ถิรสุนทรากุล ลงในหนังสือ “วัฒนธรรมการแชร์ในอุตสาหกรรมสื่อ” ของงานวันนักข่าวประจำปี 2555 ว่า “การ tweet ของผมเป็นลักษณะของการให้ข้อมูล และให้ข่าวอีกด้านหนึ่งที่ไม่มีในสนาม ไม่มีในสำนักข่าว มีแหล่งข่าวของผมเอง ที่พูดคุยมาก็นำเนอผ่านการ tweet ไป”
“อาหารเช้า (และอาหารค่ำ ในเวลาต่อมา) เป็นคอลัมน์การเมืองในแนวของเรา โดยจะเน้นให้ภูมิหลงบุคคลในข่าว และให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ไม่ได้วิเคราะห์ว่าต้องฟันธง แต่เป็นลักษณะข้อมูลเสริมจากข่าวหลัก ว่าเราคุยกันเรื่องนี้เป็นข่าวอยู่ในกระแส เราก็หยิบเรื่องของเบื้องหลัง ที่ไปที่มา เช่น การเสียชีวิตของนายก อบจ.สมุทรสาคร ส.ส.อีกตระกูลหนึ่งตกเป็นผู้ต้องหา เราไม่ tweet เราคดีความ แต่ tweet ปูมหลังของตระกูลว่ามาอย่างไร และเราก็หาข้อมูลใหม่เข้ามาประกอบ”
“ทุกครั้งที่ tweet คอลัมน์อาหารเช้า ต้องไปหาหนังสือเปิดข้อมูล เขียนปูมหลังรัฐมนตรีคนไหน นักการเมืองคนไหน ก็ต้องหา ผมไม่ได้ tweet ตามกระแส ก็ต้องค้นข้อมูลเพิ่ม เป็นเหมอืนทำข่าววิเคราะห์ชิ้นหนึ่งโดยปริยาย เขียนหนังสือบทวิเคราะห์บนกระดาษนึกถึงคนอ่านอย่างไร เราก็ต้องรับผิดชอบคนอ่านเช่นกันบนทวิตเตอร์”
แคน สาริกา ยังส่งคำแนะนำไปถึงนักข่าวรุ่นหลัง ที่พยายามใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการผลิตงาน สร้างที่ยืน หรืออยากเป็น somebody ในวงการสื่อ ว่า
“การ tweet ข้อมูลออกมาสู่สาธารณะ ต้องให้ความสำคัญเรื่องความแม่นยำอันดับหนึ่ง บางอย่างที่ไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของข่าวที่แน่นอน หรือหวั่นจะเป็นข่าวลือ ก็ต้องเลี่ยงการ tweet หรือถ้ามีคนมาท้วง ก็ต้องรีบแก้ไข
“ข้อจำกัด 140 คำทำให้เราต้องคิดมากขึ้น เราต้องเขียนอย่างไรไม่ให้ถูกฟ้องด้วย ไม่หมิ่นประมาทคนอื่น ภาษาที่ใช้ หางเสียงภาษา ต้องระวัง โดยเฉพาะภาษาหางเสียง คุณเขียนเรื่องเดียวกัน แต่หางเสียงที่ใช้ในการ tweet ทำให้คนตีความได้ว่ามีอคติหรือไม่ อันนี้ต้องระวัง”
ติดตามงานเขียนแนวทดลอง ผ่านคอลัมน์ “อาหารเช้า” และ “อาหารค่ำ” ได้ด้วยการ follow ทวิตเตอร์ @can_nw