ครูใต้ระส่ำผวาถูกฆ่า สภาที่ปรึกษาฯบี้รัฐแก้"หยุดวันศุกร์"

ครูใต้ระส่ำหนักหลังเพื่อนครูถูกยิงดับรายที่ 152 พิธีรดน้ำศพ "แม่พิมพ์ชาติ" เหยื่อกระสุนสุดเศร้า เผยรู้ตัวล่วงหน้าตกเป็นเป้า เลือก "ตายเดี่ยว" ไม่ยอมเดินทางเป็นกลุ่ม พร้อมฝากน้องสาวดูแลแม่ ขณะที่ยิงรายวันยังไม่หยุด รัวอาก้าดับผู้ใหญ่บ้านยะรังดับพร้อมผู้ช่วยฯ สภาที่ปรึกษาฯ บี้่หน่วยงานรัฐเร่งแก้ปัญหา "ขู่หยุดวันศุกร์" เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเฮ ครม.ไฟเขียวเว้นภาษีค่าตอบแทนพิเศษปฏิบัติหน้าที่ชายแดนใต้

          การเสียชีวิตของ ครูคมสันติ์ โฉมยงค์ อายุ 40 ปี ครูโรงเรียนบ้านบองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ที่ถูกคนร้ายตามประกบยิงเมื่อวันจันทร์ที่ 1 ต.ค.2555 ซึ่งเป็นบุคลากรทางการศึกษารายที่ 152 ที่ต้องสังเวยชีวิตจากสถานการณ์ไฟใต้ นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ขวัญกำลังใจของครูในจังหวัดชายแดนภาคใต้ถูกทำลาย

          นายสงวน อินทรักษ์ ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดนราธิวาส กล่าวเมื่อวันอังคารที่ 2 ต.ค.ว่า หลังเกิดเหตุสังหารครูคมสันติ์ ทางโรงเรียนบ้านบองอได้งดการเรียนการสอนชั่วคราวทันที เพราะขณะนี้เพื่อนครูต่างตกอยู่ในภาวะอกสั่นขวัญหาย ขณะะเดียวกันสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เรียกประชุมด่วนเพื่อหาแนวทางลดอัตราเสี่ยงและป้องกันอันตรายจากการตกเป็นเป้าของกลุ่มก่อความไม่สงบด้วย

          ขณะที่ นายบุญสม ทองศรีพลาย ประธานสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นกับครู 1 คน มีผลกระทบต่อความรู้สึกของครูทั้ง 26,000 คนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ฉะนั้นรัฐบาลจึงควรดูแลเรื่องขวัญกำลังใจให้เป็นรูปธรรม มีแรงจูงใจด้านสวัสดิการให้เหมาะกับที่เป็นพื้นที่พิเศษ เช่น เงินเสี่ยงภัยที่ขอเพิ่ม ความก้าวหน้าทางวิชาชีพในด้านวิทยฐานะ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีความชัดเจน จึงอยากฝากถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ช่วยเหลือในเรื่องเหล่านี้

มอบ 2 ล้านช่วยครอบครัวครูคมสันติ์

          ที่ศาลาเอนกประสงค์วัดบางนรา อ.เมือง จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้ร่วมกันเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพนายคมสันติ์ โดยมี น.ส.ถนอมสิน โฉมยงค์ อายุ 42 ปี และ นางกัณฑา วีรเสนีย์ พี่สาวกับน้องสาวของครูคมสันติ์ ตลอดจนเพื่อนครู และข้าราชการทุกหน่วยเข้าร่วมพิธีด้วยความเศร้าสลด

          โอกาสนี้ นายอำนาจ วิชยานุวัติ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เป็นตัวแทนมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวของครูคมสันติ์ เป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท ขณะที่ในวันพุธที่ 3 ต.ค.ครอบครัวจะเคลื่อนศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดหลวง ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของครูคมสันติ์

น้องสาวเผยพี่รู้ตัวล่วงหน้า-ฝากดูแลแม่

          นางกัณฑา น้องสาวของครูคมสันติ์ กล่าวว่า พี่ชายเป็นคนตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง ก่อนหน้านี้เคยสมัครเป็นตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) แต่รับใช้ชาติได้เพียง 3 ปีก็ประสบปัญหาด้านสุขภาพ จึงหันไปศึกษาต่อในวิชาชีพครู เมื่อจบออกมาก็บรรจุเป็นครูโรงเรียนบ้านลูโบ๊ะดีแย อ.ระแงะ แล้วศึกษาต่อจนจบปริญญาโท จึงย้ายไปเป็นครูที่โรงเรียนบ้านบองอ

          "พี่ชายรู้ตัวดีว่าปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่สีแดงที่มีอันตราย จึงฝากให้ฉันดูแลแม่ให้ดี และตัดสินใจไม่มีครอบครัว เพื่อจะได้ทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งยังตั้งใจไว้ว่าจะอยู่ที่ระแงะเพื่อสอนเด็กที่นี่ให้เป็นคนดีให้ได้ เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดินเกิด" นางกัณฑา กล่าว

          ขณะที่เพื่อนครูที่สนิทกับครูคมสันติ์ เล่าว่า ครูคมสันติ์เพิ่งย้ายมาสอนที่โรงเรียนบ้านบองอไม่ถึง 1 ปี และเคยพูดให้ฟังว่ารู้ดีว่าตนเองตกเป็นเป้า จึงทำใจล่วงหน้าว่าต้องโดนลอบทำร้ายสักวัน ฉะนั้นจึงไม่ค่อยร่วมคณะเดินทางกับเพื่อนครู โดยบอกว่าขอตายเดี่ยวดีกว่าให้คนอื่นมารับเคราะห์ไปด้วย

ปิดล้อม-ตรวจค้น 3 หมู่บ้านคว้าน้ำเหลว

          สำหรับความคืบหน้าทางคดี พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ได้ระดมกำลังโดยใช้กฎอัยการศึกบุกจู่โจมตรวจค้นบ้านเป้าหมายในพื้นที่หมู่ 4 บ้านบองอ หมู่ 5 บ้านกะทอง และหมู่ 6 บ้านบาโงกูโบ ต.บองอ เพื่อติดตามตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุยิงครูคมสันติ์ แต่ยังไม่พบตัว จึงวางกำลังสกัดทางเข้าออกเอาไว้ เพราะเชื่อว่าคนร้ายยังซ่อนตัวอยู่ตามบ้านแนวร่วมในพื้นที่

          พ.ต.อ.วรา เวชชาภินันท์ ผู้กำกับการ สภ.ระแงะ กล่าวว่า ได้เรียกพยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าให้ปากคำอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธอาร์เคเคหลายกลุ่ม

ยิงผู้ใหญ่บ้านระแว้งดับพร้อมผู้ช่วยฯ

          ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังคงมีความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 12.20 น.วันอังคารที่ 2 ต.ค.ขณะที่ นายคอยา ปาแล อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ระแว้ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ขับรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน 4 ประตู สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กง 1971 ปัตตานี กลับจากร่วมประชุมประจำเดือน ณ ที่ว่าการอำเภอยะรัง จ.ปัตตานี กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยมี นายสะมาแอ กาเราะ อายุ 52 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ (ผรส.) นั่งมาด้วยนั้น ปรากฏว่าระหว่างทางบนถนนในหมู่บ้านพงสะตา-สะนอ ท้องที่หมู่ 6 บ้านลูโบ๊ะบาเหะ ต.ยะรัง อ.ยะรัง ได้ถูกคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงด้วยอาวุธปืนอาก้า กระสุนถูกนายคอยาเสียชีวิตคารถ ส่วนนายสะมาแอได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ

          ส่วนที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เวลา 13.00 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกขนาด .38 ประกบยิง นายอดิศักดิ์ เจ๊ะโก๊ะ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/2 หมู่ 6 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดขณะที่นายอดิศักดิ์กำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนทางหลวงสาย 4095 (สะบ้าย้อย-คูหา) ท้องที่บ้านล่องควน หมู่ 6 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย มุ่งหน้าไปในเขตเทศบาล เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง แต่ให้น้ำหนักไปที่การแก้แค้นส่วนตัวหรือการเมืองท้องถิ่น

          ที่ศาลากลางจังหวัดยะลา นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานรับรายงานตัวราษฎรที่ประสงค์เข้าร่วมสร้างสันติสุข และแสดงความบริสุทธิ์ใจตามขั้นตอนของกฎหมาย จำนวน 9 คน แบ่งเป็นราษฎรที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรง แต่ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับ จำนวน 4 คน ราษฎรที่ตกเป็นจำเลยในคดีความมั่นคง และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ทางจังหวัดได้ทำหนังสือรับรองให้ได้ปล่อยตัวชั่วคราวจำนวน 3 คน และราษฎรที่ตกเป็นจำเลยในคดีความมั่นคง และปัจจุบันศาลพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว แต่ยังมีความหวาดระแวงเรื่องความไม่ปลอดภัย จำนวน 2 คน ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.ยะลา

สปต.บี้หน่วยงานรัฐเร่งแก้ปม"หยุดวันศุกร์"

          ที่ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 3 อาคารเอนกประสงค์ ศอ.บต. อ.เมือง จ.ยะลา นายอาซีส เบ็ญหาวัน ประธานสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) เป็นประธานการประชุมฉุกเฉินนัดพิเศษ กรณีปัญหาการข่มขู่ไม่ให้ทำงานวันศุกร์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเชิญผู้แทนจากฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าร่วมหารือเพื่อวางมาตรการแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าว

          ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการอภิปรายกันอย่างเผ็ดร้อน โดยสมาชิก สปต.หลายรายโดยเฉพาะสายผู้นำศาสนา อภิปรายสอดคล้องกันว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เพราะการขู่ให้หยุดทำงานทำให้เสียมวลชน จึงมองว่าเป็นการสร้างสถานการณ์มากกว่า

          นายอับดุลอาซีซ จะมามะ สมาชิก สปต. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐต้องให้ความมั่นใจกับประชาชนโดยเร็ว โดยให้นายอำเภอเรียกประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และโต๊ะอิหม่ามเพื่อช่วยกันสร้างความเข้าใจ

          ขณะที่ นายอับดุลรอนิ กาหะมะ เรียกร้องให้ทุกหน่วยช่วยกันหาตัวผู้กระทำการข่มขู่ เนื่องจากพบใบปลิวใน จ.นราธิวาส อ้างว่าเป็นของกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบ ประกาศว่าไม่ได้เป็นการกระทำของพวกตน

          พระครูศรีจริยาภรณ์ สมาชิก สปต. เสนอว่า สปต.และหน่วยงานภาครัฐต้องเร่งหาวิธีสยบข่าวลือให้ได้โดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันสื่อมวลชนก็ไม่ควรเสนอข่าวมากเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่น

          ภายหลังการประชุม สปต.ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้อง 5 ข้อ ประกอบด้วย
          1.สปต.ขอประณามผู้ไม่หวังดีที่สร้างสถานการณ์ไม่ให้ทำงานวันศุกร์และการฆ่ารายวันที่เกิดขึ้น  
          2.เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกภาคส่วน ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกมาแก้ไขปัญหาโดยด่วน
          3.เรียกร้องให้ผู้นำศาสนาออกมาให้ความจริงให้กับประชาชนต่อกรณีการทำงานวันศุกร์ผิดหลักศาสนาหรือไม่ อย่างไร
          4.ให้องค์กรของรัฐและเอกชนทุกภาคส่วนร่วมมือกันแก้ไขปัญหา
          และ 5.ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ครม.เว้นภาษีค่าตอบแทน จนท.ชายแดนใต้

          ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติร่างกฎกระทรวง เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้ที่เป็นค่าตอบแทนพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกอาชีพ ไม่เฉพาะครูและบุคลากรทางการศึกษาเท่านั้น ได้แก่ ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างหน่วยงานของรัฐ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และอาสาสมัครทหารพราน เพื่อเป็นแรงจูงใจให้แก้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทั้งหลาย เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายให้สิทธิประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้

          วันเดียวกัน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เดินสายพบผู้นำเหล่าทัพทุกเหล่าทัพ รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อพบปะพูดคุยในฐานะที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยหนึ่งในหัวข้อที่หยิบยกขึ้นมาพูดคุยกัน มีเรื่องการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย

          พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า อากาศยานที่สนับสนุนภารกิจในภาคใต้นั้น มีทั้งเครื่องบินซี 130 ที่ใช้ในภารกิจส่งกำลังบำรุง ผลัดเปลี่ยนกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และยังมีเครื่องบิน เอยู 23 ส่วนหนึ่งไปลาดตระเวน รวมถึงเครื่องบินไดมอนด์ติดกล้อง

          พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า จะเริ่มรับสมัครทหารเกณฑ์ไปเป็นตำรวจในเดือนหน้า เพี่อทำการฝึกประมาณ 4-5 เดือน แล้วส่งลงไปประจำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกำลังพลที่จะเพิ่มขึ้นมีจำนวน 5,000 อัตรา ซึ่งถือว่าเพียงพอกับการทำงาน

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายภาพ : การประชุมสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางว่าด้วยสถานการณ์ข่มขู่ให้หยุดทำงานวันศุกร์ (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)

หมายเหตุ : เนื้อหาข่าวในส่วนที่เกี่ยวกับครูคมสันติ์และความเคลื่อนไหวในส่วนกลาง จากสำนักข่าวเนชั่น